- 03 เม.ย. 2560
ติดตามข่าวสารได้ที่ www.tnews.co.th
สภาพอากาศที่ร้อนจัดติดต่อกันนานหลายวัน ประกอบกับสภาพความแห้งแล้งในหลายพื้นที่ของ อ.แม่พริก พื้นที่ห่างไกลปืนเที่ยง อยู่ห่างจากตัวเมือง จ.ลำปางนับ 150 กิโลเมตร จนแทบจะไม่มีทุ่งหญ้าเขียวขจีตามทุ่งนาข้าว ป่าเขา และริมถนนให้ฝูงวัวของชาวบ้านได้กิน ภายหลังก่อนหน้านี้ได้เกิดไฟป่าไหม้ลุกลามจนแทบจะไม่เหลือหญ้าสดสีเขียว ชาวบ้านที่นี้จึงต้องตื่นแต่เช้า เพื่อที่จะไล่ต้อนฝูงวัวออกเดินแทะเล็มหญ้าสด และแตกใบอ่อนตามต้นไม้ไปตามหมู่บ้านต่างๆ บางคนเดินไกลวันละหลายกิโลเมตร เพื่อหวังว่าจะทำให้สัตว์เลี้ยงได้แทะเล็มหญ้าปะทังความหิวในช่วงหน้าแล้ง
จำนวนฝูงวัวที่เพิ่มมากขึ้น ทำให้วัชพืชต่างๆ ไม่พอจะให้วัวได้กินเป็นอาหารได้ครบทั้งหมด หลายคนจึงหันไล่ต้อนฝูงวัวเข้าบริเวณป่าต้นจามจุรี ตามสวนในหมู่บ้าน เพื่อหวังว่าจะให้วัวได้กินฝักจามจุรี หรือฝักไม้สา หรือไม้ฉามฉา หรือฝักต้นก้ามปู ที่ร่วงหล่นตามโคนต้นไม้แทนวัชพืชหญ้าสดและยอดอ่อนใบไม้ เนื่องจากฝักจามจุรี ที่แก่จัดจนสุกงอมในช่วงหน้าแล้งเมษายน ช่วงนี้มักจะร่วงหล่นตามโคนต้นทุกวัน โดยฝักที่แก่จัดจะมีสีน้ำตาลเข้ม และจะมีน้ำเมือกยางไม้เยิ้มออกมาตามรอยปริของเปลือกนอก คล้ายน้ำหวานของน้ำตาล มีกลิ่นหอมและรสชาติหวานทำให้วัวชอบกิน
นายวิ สว่างหย่อม อายุ 56 ปี ชาวบ้านต้นธง ต.แม่ปุ อ.แม่พริก บอกว่า ช่วงหน้าแล้ง หญ้าสดประสบปัญหาขาดแคลน เนื่องจากใน ปีนี้ถูกไฟป่าเผาทำลายไปเยอะ สำหรับตนจึงแก้ปัญหาเฉพาะหน้า หาฝักไม้จามจุรีให้วัวได้กินทุกวัน เพื่อทดแทนหญ้าที่มีน้อย ฝักจามจุรีที่แก่จัดจะสุกงอมมีเมือกเยิ้มออกมา ให้รสชาติหวานหอม เมื่อวัวได้กินก็จะทำให้วัวอ้วน ไม่ผอมแห้งหิวโซ เสมือนว่าฝักจามจุรีจะมีแร่ธาตุสารอาหาร และวิตามีนบำรุงร่างกาย ส่งผลทำให้วัวเจริญเติบโตได้ดี แข็งแรงอ้วนท้วน-สมบูรณ์ดี โดยหลัก สัญชาตญาณของวัวทุกตัว เหมือมันจะรู้ ฝักจามจุรีที่เปียกฝน หรือโดนฝนตกใส่ ซึ่งเมื่อวัวได้กินจะทำให้เกิดอาการเมา เดินเซเหมือนคล้ายกับคนเมาเหล้า ถ้าช่วงหน้าแล้งนี้ไม่มีฝนตกก็ไม่เป็นไร แต่ถ้าเมื่อใดมีฝนตกตามสวนต้นจามจุรี ก็จะทำให้วัวไม่กล้ากินฝักจามจุรีอีกเลย
ทั้งนี้ต้นจามจุรี หรือมีชื่อเรียกกันตามภาษาท้องถิ่นพื้นบ้านว่า ต้นฉามฉา ไม้สา หรือต้นก้ามปู เป็นต้นไม้ประเภทไม้เนื้ออ่อน ลำต้นมีลักษณะสูงใหญ่ ให้ร่มเงา บริเวณโคนต้นขนาดใหญ่ มีเส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ 1-3.5 เมตร ขนาดหลายคนโอบ ในอดีตเป็นต้นไม้ที่ใช้ในการเพาะเลี้ยงครั่ง เพื่อเก็บมูลขายให้กับโรงงานผลิตฉะแล๊ก หรือแล็คเกอร์ ใช้เป็นส่วนผสมในโรงงานอุตสาหกรรมสี และทำแผ่นซีดี เป็นต้น ส่วนใหญ่จะมีพื้นที่ปลูกอยู่ในพื้นที่แถบโซนใต้ของจังหวัดลำปาง ได้แก่ อ.สบปราบ อ.เถิน และ อ.แม่พริก ต่อมาระยะหลังๆ สภาพอากาศร้อนจัด เพิ่มมากขึ้นทุกวัน บางครั้งร้อนติดต่อกันนานหลายวันในช่วงฤดูร้อน ทำให้ครั่งเจริญเติบโตได้ไม่ค่อยได้ผล ชาวบ้านจึงหันมาตัดขายให้โรงงานผลิตเฟอร์นิเจอร์และของตกแต่งบ้านแทน ทำให้พื้นที่เพาะปลูกจามจุรีลดจำนวนลงอย่างรวดเร็ว อย่างไรก็ตามต้นจามจุรี ก็ยังเป็นต้นไม้เศรษฐกิจ สามารถนำมาใช้แปรรูป ทำเฟอร์นิเจอร์ในร่ม เช่น โต๊ะ เก้าอี้นั่ง และนำไปใช้แกะสลักเป็นของตกแต่งบ้าน ส่วนใบแห้งที่ร่วงหล่นตามต้นยัง สามารถนำมาใช้ทำปุ๋ยหมัก ปุ๋ยอินทรีย์ได้ด้วย อีกทั้งยังมีฝักที่สุกแล้ว เป็นอาหารเสริมวิตามีนให้กับวัวกินปะทังความหิวในช่วงหน้าแล้งนี้ได้อีกด้วย
ข่าว/ภาพ ชัยวัฒน์ เป๋าสมบัติ ผู้สื่อข่าวภูมิภาค สำนักข่าวทีนิวส์ จ.ลำปาง




