- 30 มิ.ย. 2560
ติดตามข่าวสารได้ที่ www.tnews.co.th
กรณีมีเจ้าทุกข์จากหลายจังหวัด เข้าแจ้งความร้องทุกข์กับเจ้าหน้าที่ตำรวจทั่วประเทศ ถูกบุคคลอ้างว่าชื่อ นายสุดี บังศรี อายุ 25 ปี ภูมิลำเนาอยู่บ้านเลขที่ 41 หมู่ 14 บ้านนาเรือง ต.โคกก่อง อ.สำโรง จ.อุบลราชธานี หลอกขายสินค้ามือสองผ่านเว็บไซต์ชื่อดัง ที่โฆษณาทางหน้าจอโทรทัศน์ ในราคายั่วน้ำลาย จนมีคนหลงเชื่อโอนเงินเข้าบัญชี สุดท้ายก็ปิดเครื่องหนี มูลค่าความเสียหายนับล้านบาท แต่ยังออกอาละวาดบนเว็บไซต์อย่างไม่เกรงกลัวกฎหมาย
สืบเนื่องจาก พระภิกษุรุ่งศักดิ์ ยโสธโร อายุ 40 ปี พรรษาที่ 12 วัดป่าศิวิลัย เลขที่ 20 หมู่ 5 ต.เรณู อ.เรณูนคร จ.นครพนม พบมีการลงโฆษณาประกาศขายสินค้ามือสองราคาถูก ในเว็บไซต์ชื่อดัง ประกอบด้วย โทรทัศน์ยี่ห้อพานาโซนิค ขนาด 85 นิ้ว ราคา 10,000 บาท จำนวน 1 เครื่อง ขนาด 65 นิ้ว ราคา 12,000 บาท จำนวน 1เครื่อง และขนาด 55 นิ้ว ราคาเครื่องละ 7,000 บาท จำนวน 4 เครื่อง เห็นราคาน่าสนใจจึงติดต่อไปตามเบอร์โทรศัพท์ ตั้งใจจะซื้อมาแจกจ่ายญาติพี่น้อง เสียงรับสายเป็นผู้ชายบอกพรรคพวกร้อนเงินจึงขายในราคาถูกๆ หลังตกลงราคากันเป็นที่น่าพอใจ ชายคนนั้นบอกต้องโอนเงินมามัดจำก่อน เพราะสินค้ามีจำนวนมาก พระรุ่งศักดิ์จึงโอนเงินงวดแรกให้ล่วงหน้า 7,000 บาท เมื่อวันที่ 2 มี.ค.60 จากธนาคารกรุงไทย สาขานครพนม เข้าบัญชีหมายเลข 4069357325 ธนาคารไทยพาณิชย์ สาขาบิ๊กซี ต.แสนสุข อ.วารินชำราบ จ.อุบลฯ เจ้าของบัญชีชื่อ นายสุดี บังศรี ต่อมานายสุดีก็โทรมาหาอีกอ้างต่างๆนาๆเพื่อให้พระรุ่งศักดิ์โอนเงินมาเพิ่มอีก จนเหยื่อใจอ่อนยอมโอนไปให้ตามต้องการ
กระทั่งถึงกำหนดวันส่งของ นายสุดีโทรหาพระรุ่งศักดิ์ด้วยน้ำเสียงตื่นตระหนก อ้างถูกเจ้าหน้าที่สรรพากรตรวจยึดสินค้าไว้ที่ขนส่งเก่าโคราช ตอนนี้กำลังเจรจาต่อรองกันอยู่แล้ววางสายไป ไม่นานมีผู้หญิงโทรหาท่าน อ้างเป็นเจ้าหน้าที่สรรพากรพูดจาโน้มน้าวให้โอนเงินค่าสินค้าดังกล่าว เพื่อแสดงว่าพระรุ่งศักดิ์เป็นผู้ซื้อตัวจริง จำนวน 75,000 บาท เมื่อโอนแล้วสรรพากรเห็นจะนำยอดเงินไปแสดงต่อหัวหน้า แล้วจะโอนกลับมาในเวลาไม่เกิน 3 ชั่วโมง แต่หลังจากโอนไปแล้ว กลับมาผู้ชายอีกคนโทรมาหาอ้างเป็นนายตำรวจโรงพักแห่งหนึ่ง บอกพระรุ่งศักดิ์ว่าโทรทัศน์ขนาด 85 นิ้ว เป็นสินค้าที่ถูกขโมยมา เจ้าทุกข์แจ้งความไว้เป็นหลักฐานเรียบร้อยแล้ว หากพระคุณเจ้ายังอยากจะได้สินค้านี้อยู่ จะหาทางออกให้ด้วยการโอนเงินมาเคลียร์ จำนวน 120,000 บาท พระรุ่งศักดิ์ไม่มีเงินจึงไปขอโยมแม่จัดการโอนให้เมื่อวันที่ 13 มี.ค.60 ตามที่เขาต้องการ จากนั้นนายสุดีก็บอกว่าทุกอย่างจบแล้ว กำลังจะส่งสินค้าให้เตรียมรอรับได้
ล่าสุด วันที่ 29 มิ.ย. 2560 นายสุดีก็ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.นครราชสีมา จับกุมตัวได้บริเวณหน้าห้างเดอะมอลล์ สาขาโคราช ขณะนำสินค้ามาส่งนักสืบที่ปลอมตัวป็นลูกค้าเข้าไปทำทีว่าอยากได้สินค้าที่นายสุดีประกาศขาย นัดส่งมอบกันที่หน้าห้างดังกล่าว จึงถูกตำรวจตะครุบตัวตามหมายจับของศาลจังหวัดนครพนม โดยผู้เสียหายเป็นพระภิกษุจำพรรษาอยู่ที่ อ.เรณูนคร ว่าจ้างนักสืบเอกชนตามล่าจนพบแหล่งกบดาน
ระหว่างนั้นพระรุ่งศักดิ์เข้าไปในกูเกิ้ล ค้นหาชื่อนายสุดี บังศรี พบในเว็บไซต์พันทิปมีการระบุว่าเป็นนักต้มตุ๋น หลอกเงินผู้หลงเชื่อมาแล้วนับร้อยราย หายออกจากบ้านเกิดนานหลายปี โดยขาดการติดต่อทางบ้าน ที่บ้านมีหมายศาลและหมายเรียกจากตำรวจหลายจังหวัด นายสุดีจะมีเฟสบุ๊คหลายชื่อ หลอกขายสินค้ามือสองในเว็บไซต์ จึงมีการแจ้งเตือนภัยสังคมรายนี้ พระรุ่งศักดิ์รู้ตัวว่าถูกหลอกก็โอนเงินให้นายสุดีไปแล้วทั้งหมด 13 ครั้ง รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 379,000 บาท เหตุที่มีเงินโอนจำนวนมากพระรุ่งศักดิ์เผยว่า สมัยเป็นฆราวาสเป็นครูสอนศีลธรรมอยู่ที่โรงเรียนเรณูวิทยาคาร มีเงินสะสมจำนวนหนึ่ง
วันที่ 24 มี.ค.60 พระรุ่งศักดิ์จึงให้นายลัญชกร ธงยศ ผู้ใหญ่บ้าน พาไปแจ้งความลงบันทึกประจำวันไว้ที่ สภ.เรณูนคร พนักงานสอบสวนแนะให้บันทึกคลิปเสียงในการพูดคุยกับนายสุดีไว้เป็นหลักฐาน จึงพยายามเจรจากับนายสุดีให้โอนเงินคืน ซึ่งอ้างจะโอนคืนให้ภายในวันที่ 5 เม.ย.60 ปรากฏว่านายสุดีปิดมือถือหายเข้ากลีบเมฆ พระรุ่งศักดิ์จึงแจ้งความดำเนินให้ถึงที่สุด พนักงานสอบสวนออกหมายเรียกไปยังภูมิลำเนา 2 ครั้ง ก่อนจะออกหมายจับในเวลาต่อมา
พระรุ่งศักดิ์หลังถูกตุ๋นจนเปื่อย จึงติดต่อนักสืบเอกชน ตกลงกันว่าหากสืบจนทราบว่านายสุดีกบดานอยู่ที่ไหน นำไปสู่การจับกุม จะให้รางวัลนำจับ 10 % จากจำนวนเงินที่ท่านเสียไป นักสืบแกะรอยในเว็บไซต์ที่คาดว่าจอมลวงโลกรายนี้จะโลดแล่นในการหลอกขายในกลุ่มสินค้ามือสอง จนพบนายสุดีประกาศขายโทรศัพท์ไอโฟนในราคาที่ถูกกว่าใคร จึงติดต่ออยู่หลายครั้ง จนกระทั่งนัดส่งมองของกันที่หน้าห้างเดอะมอลล์ สาขาโคราช นักสืบจึงประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าจับกุมดังหล่าว
หลังจนมุมเจ้าหน้าที่ส่งนายสุดีมีท่าทางกระตุงกระติ้งเหมือนกระเทย ไปดำเนินคดีตามหมายจับที่ สภ.เรณูนคร นายสุดีปฏิเสธอ้างไม่รู้ไม่เห็นใดๆทั้งสิ้น และไม่เคยรู้จักกับพระรุ่งศักดิ์มาก่อน หมายเลขบัญชีและบัตรเอทีเอ็มของตนนั้น อ้างมีเพื่อนข้างห้องขอซื้อในราคา 2,000 บาท ตอนนั้นตนร้อนเงินจึงขายให้ไป โดยไม่ทราบว่าเพื่อนคนนั้นนำไปก่อเหตุหลอกลวงต้มตุ๋น โดยวันที่ 30 มิ.ย.60 เวลา 09.00 น. พนักงานสอบสวนจะนำตัวผู้ต้องหาส่งฝากขังผลัดแรกที่ศาลจังหวัดนครพนม คาดจะมีเจ้าทุกข์จากหลายจังหวัดทยอยแจ้งความดำเนินคดีเป็นจำนวนมาก
ประทีป วชิระธัญญากุล สำนักข่าวทีนิวส์ นครพนม