- 12 ก.ค. 2560
ติดตามข่าวสารได้ที่ www.tnews.co.th
วันที่ 12 ก.ค. 2560 ความคืบหน้ากรณี ด.ญ.เอ (นามสมมุติ) วัย 13 ปี นักเรียนชั้นมัธยมปีที่ 1 โรงเรียนแห่งหนึ่งใน อ.ท่าแซะ จ.ชุมพร ถูก ด.ญ.เฟรช (นามสมมุติ) อายุ 13 ปี บุตรสาวของอดีตผู้ใหญ่บ้านคนหนึ่งในพื้นที่ ซึ่งเป็นอดีตเพื่อนร่วมชั้นเรียนอนุบาลด้วยกัน บังคับให้ก้มกราบแทบเท้า จากนั้น ด.ญ.เฟรชได้ทำร้ายร่างกาย ด.ญ.เอด้วยการทุบตี เตะถีบ ใช้เล็บข่วนตามลำตัว ก่อนจับถอดเสื้อยืดและเสื้อยกทรง โดยให้เพื่อนถ่ายคลิปโพสต์ขึ้น Facebook จนมีการส่งต่อคลิปดังกล่าวทางสังคมออนไลน์กันตั้งแต่วันที่ 9-10 กรกฎาคมที่ผ่านมา หลังจากนั้นผู้ปกครองของ ด.ญ.เอผู้เสียหายได้พาบุตรสาวเข้าแจ้งความที่ สภ.ท่าแซะ ตามที่ปรากฏเป็นข่าวมาก่อนหน้านี้ นั้น ล่าสุด น.ส.วัลภา แก้วสวี พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดชุมพร (พม.จ.ชุมพร) เปิดเผยว่า เด็กหญิงเฟรช (นามสมมุติ) อายุ 13 ปี ผู้ก่อเหตุ พร้อมด้วย เพื่อนชาย อีก 3 คน ได้เข้ามอบตัว โดยได้ดำเนินการตามตาม ป.วิอาญา พ.ร.บ.คุ้มครองเด็ก ที่ศาลเยาวชนและครอบครัวจังหวัดชุมพร โดยได้รับทราบข้อกล่าวหา 3 ข้อหาคือ 1.ทำร้ายร่างกายผู้อื่นจนได้รับอันตรายทางร่างกายและจิตใจ 2.กระทำอนาจารแก่เด็กอายุยังไม่เกิน 15 ปี โดยที่เด็กจะยินยอมหรือไม่ก็ตาม และ 3.นำภาพลามกอนาจารเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ เบื้องต้น ทั้งหมดให้การรับสารภาพ ก่อนจะได้รับการประกันตัวไป จากนี้ ทางสำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดชุมพร จะได้จัดทีมลงเยี่ยมบ้านเพื่อพบปะพูดคุย ทั้งตัวเด็กและผู้ปกครอง อีกครั้งหนึ่ง
“นายณรงค์ พลละเอียด ผู้ว่าราชการจังหวัดชุมพร มีความห่วงใย ในเรื่องดังกล่าว เพราะเกี่ยวข้องกับสถาบันครอบครัว จึงได้กำชับให้ พม.จ.ชุมพร เข้ามาดูแลเรื่องนี้อย่างใกล้ชิด พร้อมรายงานให้ทราบโดยตลอด เพราะเหตุการณ์ดังกล่าวแสดงให้เห็นถึงความอ่อนแอของสถาบันครอบครัว จึงจำเป็นต้องมีการคุ้มครองเยียวยาเด็กที่ถูกกระทำทั้งในด้านร่างกายและจิตใจ ส่วนเด็กที่กระทำผิดก็ต้องมีการแก้ไขพฤติกรรม รวมทั้งพ่อแม่ผู้ปกครองก็จะต้องมีส่วนในการรับผิดชอบสิ่งที่เกิดขึ้นด้วย ขณะนี้อยู่ระหว่าง นัดหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ลงไปเยี่ยมบ้าน ทั้งผู้เสียหายและผู้ก่อเหตุ อีกครั้งหนึ่ง” น.ส.วัลภา กล่าว
ด้านแม่ของผู้เสียหาย ได้เปิดเผยทางโทรศัพท์ ว่า ขณะนี้ได้มีกำลังจาก คณะครู เจ้าหน้าที่จากพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ จากเหล่ากาชาดจังหวัด มาให้กำลังใจทำให้สภาพจิตใจของลูกสาวดีขึ้นมาบ้าง ยังมีหวาดกลัวบ้างบางเวลาสำหรับบาดแผลตามร่างกายก็ดีขึ้น ส่วนตนเองพอได้ข่าวว่า ผู้ก่อเหตุได้รับการประกันตัว ก็มีความรู้สึกเป็นกังวล เรื่องความปลอดภัยบ้าง จึงอยากฝากเจ้าหน้าที่ในเรื่องนี้ด้วย ส่วนเรื่องของคดี ก็จะขอให้ดำเนินคดีให้ถึงที่สุด ด้านสาเหตุของการก่อเหตุนั้น ได้พูดคุยกับลูกสาว ลูกสาวก็บอกว่า ได้คุยแชททาง messenger กับแฟนเก่า ซึ่งเป็นเพื่อนหญิงของผู้ก่อเหตุ ทำให้ผู้ก่อเหตุไม่พอใจ ทั้งนี้ ลูกสาวยังได้บอกว่า หลังก่อเหตุ ผู้ก่อเหตุได้ขี่ จยย.มาส่งโดยมีเพื่อนชายนั่งประกบด้านหลัง พร้อมขู่ไว้ว่า หากนำเรื่องไปฟ้องพ่อแม่จะกลับมาทำร้ายอีก นอกจากนี้ ยังบอกว่าถ้าไม่นึกว่าเป็นเพื่อน มีดใต้เบาะรถมี จะเจอหนักกว่านี้ ซึ่งในตอนแรกลูกสาวกลัวไม่ยอมบอกจนกระทั่งมีเพื่อนบ้านนำคลิปในเฟซบุ๊คมาให้ดูลูกสาวจึงยอมบอกและยอมรับว่าเป็นตนเอง
ภาพ/ข่าว พงศกร นวนละมัย ผู้สื่อข่าวภูมิภาค สำนักข่าวทีนิวส์ จ.ชุมพร