- 03 ส.ค. 2560
ติดตามข่าวสารได้ที่ www.tnews.co.th
วันที่ 3 ส.ค.2560 ความคืบหน้ากรณีนางอุดม หาญปรับ อายุ 64 ปี อาชีพรับจ้างเลี้ยงวัว นั่งอยู่ร้านค้าสามแยกกลางหมู่บ้านโคกตูม ต.เสม็ด อ.เมือง ได้นำทองรูปพรรณ 2 สลึง จะเอาไปจำนำมาซื้อข้าวสาร และหายไประหว่างนั่งรถสองแถวในตัวเมืองบุรีรัมย์ เมื่อวันที่ 27 ก.ค.ที่ผ่านมา แต่ยังไม่ได้แจ้งความกับ สภ.เมือง บุรีรัมย์
ผู้สื่อข่าวเข้าไปตรวจสอบบ้านพักของนางอุดม พบว่าอยู่กลางทุ่งนาท้ายหมู่บ้าน ลักษณะที่อยู่เป็นกระท่อมเล็กๆ อาศัยอยู่กับสามี ทั้งสองมีอาชีพรับจ้างเลี้ยงวัวแบ่งกันกับนายทุน
นางอุดม เล่าว่า ตนเองเกิดที่จังหวัดขอนแก่น ไปอยู่กรุงเทพฯตั้งแต่เด็ก ตอนนั้นรู้เพียงว่า พ่อแม่เสียชีวิตหมดแล้ว ไม่รู้จักญาติพี่น้อง ไม่มีบัตรประจำตัวประชาชน มีสามีที่กรุงเทพฯมีบุตรด้วยกัน 3 คน เสียชีวิต 1 อีก 2 คนแยกย้ายกันไปมีครอบครัว จากนั้นจึงมาอาศัยอยู่กับสามีใหม่ที่จังหวัดบุรีรัมย์ มีเพียงบัตรประเภทที่ 0 (หมายเลขบัตรนำหน้าเป็นเลข 0)หมายถึง”บุคคลที่ไม่มีสถานะทางทะเบียนราษฎร ไม่มีสัญชาติและยังไม่ได้รับการให้สัญชาติไทย ได้รับการผ่อนผันให้อาศัยอยู่ในประเทศไทยได้ชั่วคราว”มีสิทธิ์เพียงการรักษาพยาบาล ไม่มีสิทธิ์รับเบี้ยคนชรา หรือโครงการอื่นๆของรัฐบาล
เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในครั้งนี้ถือว่าร้ายแรงที่สุด เพราะไม่เคยมีทองใส่มาก่อนในชีวิต ตอนนี้ยังมีความหวังว่าจะได้ทองกลับมา โดยจะไม่ติดใจเอาความกับคนที่ขโมยไปเอามาคืน มีคนแนะนำให้ไปแจ้งความให้ตำรวจตามจับ แต่ก็ยังไม่มีเงินเป็นค่ารถในการเดินทาง เพราะความหวังเงินที่จะได้จากการจำนำทองได้หายไปแล้ว หากเหมารถจะต้องใช้เงินกว่า 500 บาท จึงจะเดินทางเข้าตัวเมืองได้
ภาพ/ข่าว วาทิตย์ แสนธุปี ผู้สื่อข่าวสำนักข่าวทีนิวส์ จ.บุรีรัมย์