ชาวบ้าน อ.สตึก จ.บุรีรัมย์ ตระเวนตกปลาช่อนธรรมชาติในทุ่งนาข้าว นำมาเป็นอาหาร เหลือก็ขาย พออยู่พอกิน ก้าวตามรอยพ่อ ร.9 ขยันไม่อดตาย (มีคลิป)

22 ก.ย. 2560

แชร์ |

สัมผัสวิถีชาวบ้าน ใน อ.สตึก จ.บุรีรัมย์ ออกตกปลาช่อน ด้วยภูมิปัญญาชาวบ้านดั้งเดิม เพื่อประกอบเป็นอาหารและส่งขายหารายได้จุนเจือ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่บริเวณ ทุ่งนาข้าว ริมสองฝั่งเรียบคลองชลประทาน ท้ายหมู่บ้านแกใหญ่ ต.แกใหญ่ อ.เมือง จ.สุรินทร์ ได้พบ วิถีชีวิตชนบท ภูมิปัญญาชาวบ้าน ด้วยการนำคันเบ็ด ยาวกว่า 5 เมตร มาเหวี่ยงใส่เบ็ดปลาช่อนธรรมชาติในท้องทุ่งนาข้าว ด้วยการใช้เหยื่อกบ และเขียดเป็นๆ

ซึ่งการตกปลาช่อนด้วยวิธีนี้ มีมาตั้งแต่โบราณ รุ่น ปู่ย่า ตายาย สืบทอดกันมา เป็นภูมิปัญญา ปราญ์ชาวบ้าน สำหรับล่อให้ ปลาช่อนเข้ามากินเขียดเป็นๆ ที่เหยื่อล่อ ใช้คันเบ็ด เรียว เล็ก ยาว ประมาณ 5 เมตร ทำด้วยไม้ไผ่ หรือ ไฟเบอร์กลาส เสริมเข้ากับทุ่นตะกั่วขนาดเล็ก มาติดไว้ตรงบริเวณสายหน้าสักนิด เพื่อให้สามารถตีสายเอ็นได้ไกลขึ้น ส่วนที่สำคัญ สำหรับการตกปลาช่อนโดยใช้เหยื่อเขียดเป็นๆ เมื่อตกใต้น้ำ จะส่าย โยก คันเบ็ดไป-มา เพื่อล่อให้ ปลาช่อน หลงเชื่อ ว่าเขียดเป็นๆ ที่ใช้เป็นเหยื่อ ยังมีชีวิต และรับเข้ามากินเหยื่อง่ายขึ้นนั้นเอง

ซึ่งโดยธรรมชาติ ปลาช่อนชอบกินเหยื่อ สัตว์น้ำด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็นชนิดปลาต่าง ๆ ที่มีขนาดเล็กกว่า เช่น พวกปลากระดี่ ฯลฯ หรือว่าจะเป็นกุ้งตัวเล็ก ๆ และสัตว์บกที่ปลาช่อนกินนั้น จะเป็นสัตว์เลื่อยคลานนะครับ เช่น จิ้งจก กิ้งก่า และ สัตว์ครึ่งบกครึ่งน้ำ ปลาช่อน จะนิยมชมชอบเป็น พิเศษตกทีไรโอกาสได้ตัวสูง “สุดยอด” สำหรับเหยื่อก็คือ กบ หรือเขียดขนาดเล็ก ๆ เช่น กบบัว(เขียดบก,เขียด) หรือ เขียดตับปาดบางสายพันธุ์ก็ได้

ทุ่งนา

เหยื่อ

ชาวบ้าน อ.สตึก จ.บุรีรัมย์ เปิดเผยว่า ช่วงหลังการทำนาปี ทุกเช้าจะร่วมตัวกัน 6-10 คน นำคันเบ็ดขึ้นรถยนต์บิ๊กอัพ เดินทางมาหาตกปลาช่อนธรรมชาติ ในท้องทุ่งนาข้าวในพื้นที่ จ.สุรินทร์ เพราะอุดมสมบูรณ์ ไปด้วยปลาช่อนนาจำนวนมาก ในแต่ละวันแต่ละคนจะสามารถตก ปลาช่อนได้ประมาณ 5-6 ก.ก.เมื่อได้ก็จะนำกลับไปทำอาหารประกอบเลี้ยงในครอบครัว ประหยัดค่าใช้จ่าย เหลือค่อยนำไปขาย ในราคา ก.ก.ละ 100 บาท พอดีรายได้วันละ 300-400 บาท หากขยันทำมาหากิน ก็อยู่ได้อย่างพอเพียง ตามรอยพ่อ ร.9 ไม่มีวันอดตาย

หาปลาช่อน