- 31 ต.ค. 2560
ติดตามข่าวสารได้ที่ www.tnews.co.th
เมื่อเวลา 10.00 น.วันที่ 31 ต.ค.60 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังจากศาลจังหวัดกันทรลักษ์ อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ได้มีคำสั่งไม่อนุญาตให้ปล่อยตัวชั่วคราว ร.อ.ศุภชัย ภาโส หรือผู้กองเหน่ง นายทหารสังกัดกรมทหารราบที่ 6 อ.วารินชำราบ จ.อุบลราชธานี ผู้ต้องหาคดีฆ่า น.ส.จุฑาภรณ์ อุ่นอ่อน หรือ ผอ.อ้อย ผอ.กองการศึกษา อบต.ชำ อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ทำให้ผู้กองเหน่งต้องถูกควบคุมตัวส่งไปคุมขังที่เรือนจำอำเภอกันทรลักษ์ ในการฝากขังครั้งที่ 2 ตามข่าวที่ได้นำเสนอไปแล้วนั้น
ความคืบหน้าเกี่ยวกับเรื่องนี้ ที่เรือนจำอำเภอกันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ซึ่งเป็นสถานที่คุมขัง ร.อ.ศุภชัย ภาโส หรือผู้กองเหน่ง ปรากฏว่าเช้าวันนี้ บรรยากาศทุกอย่างยังคงเป็นไปตามปกติ ไม่มีญาติพี่น้องของผู้กองเหน่งมาเยี่ยม หรือว่ามีทนายความมาให้คำปรึกษาแนะนำแต่อย่างใด ซึ่งนายไพสันต์ ขุ่ยรานหญ้า ผู้บัญชาการเรือนจำ อำเภอกันทรลักษ์ ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่เรือนจำ อ.กันทรลักษ์ ปฏิบัติกับผู้กองเหน่งเหมือนดังเช่นผู้ต้องขังทั่วไป โดยเมื่อช่วงค่ำของวันที่ 30 ต.ค.60 ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นวันที่ผู้กองเหน่งถูกนำตัวมาคุมขัง เจ้าหน้าที่เรือนจำได้ทำการตรวจโรคและแนะนำให้ทราบถึงระเบียบการปฏิบัติตัวในเรือนจำ พร้อมทั้งมอบผ้าห่มให้ 3 ผืน ชุดผู้ต้องขังอีก 4 ชุด โดยผ้าห่ม จำนวน 3 ผืนนั้น ผืนแรกจะใช้ในการปูนอนบนพื้น ซึ่งสะอาดปราศจากเชื้อโรค ส่วนผืนที่ 2 ใช้สำหรับทำเป็นหมอนหนุนหัว และผ้าห่มผืนที่ 3 ใช้สำหรับห่ม ส่วนเสื้อผ้าจะมีไว้ให้ใช้สำหรับปรับเปลี่ยนกันในแต่ละวัน โดยผู้กองเหน่งถูกนำตัวเข้าไปอยู่ในแดนแรกรับ ทั้งนี้ทางเรือนจำ อ.กันทรลักษ์ ได้จัดนักโทษชั้นเยี่ยม จำนวน 3 คน มาคอยดูแลและจับตาดูความเคลื่อนไหว ทั้งนี้เนื่องจากเกรงว่า ผู้กองเหน่งอาจจะเครียดและคิดสั้นทำร้ายตัวเองได้
ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า บรรยากาศในช่วงเช้าของวันนี้ ซึ่งเป็นคืนแรกที่ผู้กองเหน่งนอนในเรือนจำ เจ้าหน้าที่เรือนจำได้เฝ้าสังเกตดูอาการแล้ว ปรากฏว่า ผู้กองเหน่งไม่มีอาการเครียด แต่มีสีหน้าวิตกกังวล โดยผู้กองเหน่งได้ตื่นแต่เช้า และปฏิบัติตัวเช่นเดียวกับผู้ต้องขังคนอื่น ๆ ตามระเบียบของเรือนจำ ซึ่งผู้กองเหน่งไม่ได้มีสิทธิพิเศษอะไรทั้งสิ้น เนื่องจากว่าผู้ต้องขังทุกคนมีสิทธิสถานะเท่าเทียมกัน แต่ว่าผู้กองเหน่งสามารถปรับตัวเข้ากับกฎระเบียบของเรือนจำอำเภอกันทรลักษ์ ได้เป็นอย่างดี เนื่องจากว่าเป็นนายทหาร มีระเบียบวินัยอยู่แล้ว
ทางด้าน พล.ต.ต.สุรเดช เด่นธรรม ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดศรีสะเกษ เปิดเผยว่า ในส่วนความคืบหน้าของคดีนั้น ตนได้สั่งการให้พนักงานสอบสวนได้รวบรวมพยานหลักฐานให้เป็นไปตามระเบียบกฎหมาย เพื่อให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องอย่างเต็มที่ และได้สั่งการให้พนักงานสอบสวนต้องมีความรอบคอบเป็นพิเศษ เนื่องจากว่าคดีนี้มีอัตราโทษสูงมาก คือ ประหารชีวิต ดังนั้น จึงต้องทำการบ้านมากเป็นพิเศษ ซึ่งจากพยานหลักฐานทั้งหมด ตนเชื่อมั่นว่าสามารถส่งฟ้องศาลดำเนินคดีตามกฎหมายได้
ภาพ/ข่าว ชยงค์ มณีพันธุ์เจริญ ผู้สื่อข่าวภูมิภาค สำนักข่าวทีนิวส์ จ.ศรีสะเกษ