หนึ่งเดียวในตรัง !! “กาแฟขี้ชะมด” ตอบโจทย์ลูกค้ายุคไทยแลนด์ 4.0 สร้างรายได้งาม แนะเกษตรกรหันมาปลูกกาแฟทำเป็นอาชีพแทนการทำสวน (คลิป)

ติดตามข่าวสารได้ที่ www.tnews.co.th

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ฟาร์มเลี้ยงชะมดกว่า 100 ตัว บนเนื้อที่ประมาณ 1 ไร่เศษ ตั้งอยู่บนเนินควนนายเกี้ยว ม.6  ถ.สายตรัง-ปะเหลียน ต.ทุ่งกระบือ อ.ย่านตาขาว  จ.ตรัง พบ นายสมศักดิ์ หรือโกอ้วน อักษรกาญจน์ อายุ 50 ปี อยู่บ้านเลขที่ 200/48 ม.10 ต.โคกหล่อ อ.เมืองตรัง หลังจากตัดสินใจหันมาทำฟาร์มเลี้ยงชะมดอย่างจริงจัง เพราะตลาดราคายางพารา และปาล์มน้ำมันผันผวนและต่ำลงอย่างต่อเนื่อง จึงตัดสินใจแปลงสภาพพื้นที่เพาะพันธุ์เลี้ยงลูกกุ้งหันมาทำฟาร์มเลี้ยงชะมด สร้างแบรนด์เป็นผลิตภัณฑ์ “กาแฟขี้ชะมดตรัง” หรือ Kopi Luwak ใช้เป็นพันธุ์มูสัง หรืออีเห็นข้างลายในแถบภาคเหนือ หรือมูสังหอม แถบภาคใต้ เป็นสัตว์ป่าไม่คุ้มครอง

 

หนึ่งเดียวในตรัง !! “กาแฟขี้ชะมด” ตอบโจทย์ลูกค้ายุคไทยแลนด์ 4.0 สร้างรายได้งาม แนะเกษตรกรหันมาปลูกกาแฟทำเป็นอาชีพแทนการทำสวน (คลิป)

โกอ้วน บอกว่า ตนเริ่มศึกษาจากยูทูป (youtube) และเรียนมาทางด้านเกษตรคิดว่าทำไม่ยากก็เลยเลี้ยงดู ไปค้นหาข้อมูลในยูทูปและราคาตลาดกาแฟตัวนี้  พบว่ามีรสชาติที่แตกต่างและมีราคาสูงก็เลยลองศึกษาดู  มองถึงกลุ่มลูกค้าที่ต้องการรสชาติที่แตกต่าง ซึ่งตนมองว่ามีรสชาติที่แตกต่างอาจจะถูกใจ ตอบโจทย์ลูกค้าคอกาแฟ  กระทั่งวันนี้วางจำหน่ายเป็นของฝาก ตอนนี้ก็ร้านตัวแทนใน จ.ตรัง ที่ร้านโรงกาแฟมาเจอนี่@ตรัง และต้องดูควบคู่ไปกับเศรษฐกิจ  ตั้งแต่เริ่มต้นเลี้ยงก็ต้องคัดเลือกพันธุ์ชะมด และนำมาผสมพันธุ์จนได้ขนาดที่พอจะกินเมล็ดกาแฟสด (ลูกแดงๆ หรือเรียกว่าลูกเชอร์รี่)

โดยป้อนให้ชะมดกินเมล็ดกาแฟสดทั้งพันธุ์อะราบิก้าและโรบัสต้า สลับกับกล้วยสุก นม ผลไม้ที่มีกากใยและอื่นๆ เพื่อนำขี้ชะมดที่ได้มาสกัดเป็นกาแฟขี้ชะมดเมืองตรัง ซื้อจากชาวสวนคัดคุณภาพที่ปลอดสารเคมีแล้วนำมาให้ชะมดกิน เมื่อชะมดกินผลกาแฟสุกเข้าไปแล้วกรดและเอ็นไซม์ในกระเพาะของชะมดจะทำปฏิกิริยาเคมีกับผลกาแฟลักษณะคล้ายกับการหมัก โดยกระเพาะจะย่อยเฉพาะเปลือกและเนื้อของเมล็ดกาแฟเหลือ แต่กะลากาแฟ (เปลือกเมล็ดกาแฟ) ที่ย่อยไม่ได้แล้วก็ขับถ่ายออกมาจากนั้นจะไปเก็บขี้ชะมด แล้วแยกเอาเฉพาะเมล็ดกาแฟเก็บไว้ประมาณ 1 ปี  แล้ว ออกมาไปทำความสะอาดแล้วตากให้แห้ง สุดท้ายก็นำมาคั่วจนได้เป็นเมล็ดกาแฟคั่วที่สมบูรณ์สามารถนำมาบดและชงดื่มได้ ขายกิโลกรัมละ 20,000  บาท

หนึ่งเดียวในตรัง !! “กาแฟขี้ชะมด” ตอบโจทย์ลูกค้ายุคไทยแลนด์ 4.0 สร้างรายได้งาม แนะเกษตรกรหันมาปลูกกาแฟทำเป็นอาชีพแทนการทำสวน (คลิป)

จากเมล็ดกาแฟสด 100  กิโลกรัมที่ชะมดกินเข้าไป จะได้กาแฟคั่วไม่เกิน 5 กิโลกรัม ในแต่ละปีสามารถผลิตกาแฟขี้ชะมดได้ประมาณ 500 กิโลกรัม ขายกิโลกรัมละ 20,000 บาท สร้างรายได้นับ 10 ล้านบาท แนะเกษตรกรหันมาปลูกต้นกาแฟแทนการทำสวนยางพาราและสวนปาล์มน้ำมันซึ่งตนมองว่าจะขายได้ทุกวันและได้ราคาดีกว่า ต้องปรับตัวยุคไทยแลนด์ 4.0

ไปคุยกับ นายสักขฉัฐ เชี่ยวภู่ หรือโกแต๋ว เจ้าของร้านโรงกาแฟมาเจอนี่ จ.ตรัง ในฐานะผู้แทนจำหน่าย กล่าวว่า สำหรับคอกาแฟ การดื่มกาแฟขี้ชะมด ถือว่าได้ลิ้มรสชาติกาแฟ ที่ถือว่าสุดยอดแล้ว รสชาติของกาแฟขี้ชะมดหอม กลมกล่อม ละมุนละไมและนุ่มลิ้นมาก หอมติดลำคอสร้างความกระปรี้กระเปร่า และชุ่มคอตลอดทั้งวันทำให้คอกาแฟนิยมดื่มกาแฟขี้ชะมดแม้จะมีราคาสูงกว่ากาแฟปกติทั่วไปก็ตาม ผู้เชี่ยวชาญกาแฟบางรายระบุว่ากาแฟที่เก็บจากมูลชะมดทำได้ยากกว่าเก็บจากต้นจึงทำให้กาแฟชนิดนี้มีราคาสูง จากเมล็ดกาแฟมาคั่วบดเราก็จะมาเสิร์ฟ ด้วยแก้วไวน์เพราะเราจะได้ลิ้มรสชาติทั้งการชิมและจมูกจะได้รับกลิ่นความหอมความละมุลของกาแฟขี้ชะมดด้วย ใน 1 เสิร์ฟจะเสิร์ฟ  250  ซีซี  ตอนนี้ได้รับการตอบรับจากลูกค้าเป็นอย่างดี  เริ่มแรกจัดให้ลูกค้าชิมหลังจากนั้นก็มีการแนะนำเพื่อนๆมาเปรียบเทียบกับจังหวัดอื่นๆ รสชาติก็สู้ที่อื่นได้  ส่วนราคาที่เราจะถูกกว่าเพราะเราต้องการให้คนตรังหรือคนที่มาเที่ยวเมืองตรังได้ลิ้มรสกาแฟขี้ชะมด แวะซื้อติดมือเป็นของฝากได้ด้วย

 

หนึ่งเดียวในตรัง !! “กาแฟขี้ชะมด” ตอบโจทย์ลูกค้ายุคไทยแลนด์ 4.0 สร้างรายได้งาม แนะเกษตรกรหันมาปลูกกาแฟทำเป็นอาชีพแทนการทำสวน (คลิป)

ภาพ/ข่าว ถนอมศักดิ์ หนูนุ่ม ผู้สื่อข่าวภูมิภาค สำนักข่าวทีนิวส์ จังหวัดตรัง