สสจ.นครศรีธรรมราช มีการพบทุจริตสร้างอาคาร โรงพยาบาลปากพนัง พบ เจ้าหน้าที่แพทย์ ให้ส่วย

เผยมหากาพย์ทุจริตก่อสร้าง รพ.ปากพนัง เมืองคอน-ผู้รับเหมา ฯสุดทนร้องสื่อหลายครั้งแต่โดนกระบวนการงาบแตะถ่วงยืดเยื้อนานหลายหลายจนตัดสินใจดับเครื่องชนแหลก-แฉปมเรียก 2 ล้านพร้อมรถยนต์ปาเจโร่อีก 1 คัน กระทรวง สธ.และ สตง.รับทราบเรื่องเป็นอย่างดีมานานแล้ว

                จากกรณีที่ผู้รับเหมาก่อสร้าง รพ.ปากพนัง จ.นครศรีธรรมราช ตั้งโต๊ะร้องเรียน ถูกเรียกเงิน 2 ล้านบาท และรถปาเจโร่ตอบแทนในการตรวจรับงานการก่อสร้างอาคาร 5 ชั้น ของโรงพยาบาลปากพนัง จ.นครศรีธรรมราช มูลค่า 50.6 ล้านบาท  โดยเรื่องนี้เป็นปัญหายืดเยื้อมาตั้งแต่ปี 2560 โดยผู้รับเหมาได้เข้าร้องเรียนศูนย์ข่าวนคร 24 ชม.สมาคมสื่อมวลชนจังหวัดนครศรีธรรมราช เมื่อเดือน พ.ย. 2560 พร้อมร้องเรียน สตง.เพื่อให้ตรวจสอบทุจริต จนมีการประชุมแก้ปัญหาและหาข้อยุติ จนเมื่อมีการเปลี่ยนแปลงผู้บริหารชุดใหม่เรื่องที่เคยเจรจาตกลงกันไว้กลับถูกเพิกเฉย จนกระทั้งผู้รับเหมาสุดทนตั้งโต๊ะแถลงข่าวเรียกร้องความเป็นธรรมอีกรอบเมื่อวานนี้ (12 มี.ค.)ดังกล่าว

แจ้งข่าว

ร้องเรียน

บริษัทว่าจ้าง

แสดงหลักฐาน

ผู้สื่อข่าวรายงาน 13 มี.ค.2561   นพ.ไพศาล เกื้ออรุณ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดนครศรีธรรมราช กล่าวถึงกรณีผู้รับเหมาก่อสร้างตั้งโต๊ะแถลงถูกเรียกเงิน 2 ล้านบาท และรถปาเจโร่เพื่อตอบแทน ในการตรวจรับงานการก่อสร้างอาคาร 5 ชั้น ของโรงพยาบาลปากพนัง จ.นครศรีธรรมราช มูลค่า 50.6 ล้านบาท  ว่าเรื่องนี้ไม่ได้นิ่งนอนใจ มีการแยกประเด็นตรวจสอบ  ตามที่ผู้รับเหมาได้มีการร้องเรียนผ่านสื่อ 3 ประเด็น   ได้แก่ ประเด็นแรก คือ การเรียกรับสินบน  ซึ่งตามระเบียบราชการจะต้องมีการตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง โดยในส่วนนี้   เป็นอำนาจของผู้ว่าราชการจังหวัด   ขณะนี้ได้มีการร่างรายชื่อคณะกรรมการที่จะดำเนินการตรวจสอบเรียบร้อยแล้ว โดยจะมีการตรวจสอบ  คณะกรรมการตรวจรับงาน  2 คน ที่ผู้รับเหมาอ้างถึง  ทั้งระดับนายแพทย์และเจ้าหน้าที่  ซึ่งในส่วนของบุคคลที่มีการกล่าวอ้าง  ว่ามาจากส่วนกลางของกระทรวงสาธารณสุข (สธ.)     ก็จะต้องให้ส่วนกลางตั้งคณะกรรมการสอบด้วย

               ประเด็นที่ 2.กรณีผู้รับเหมาอ้างว่ามีการก่อสร้างเสร็จสิ้นแล้วแต่ไม่มีการตรวจรับงานนั้น   จากการตรวจสอบหนังสือการตรวจรับงาน  ระบุเมื่อวันที่ 12 ธ.ค.2560   พบว่าการก่อสร้างยังไม่แล้วเสร็จ  ทำให้นายบัญชา ค้าของ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดนครศรีธรรมราชขณะนั้นดำเนินการยกเลิกสัญญา และประเด็น 3.ที่ผู้รับเหมามีการระบุอ้างว่า   ทางโรงพยาบาลมีการขอใช้พื้นที่ ยืนยันว่าพื้นที่ดังกล่าว มีการทำข้อตกลงกันระหว่างโรงพยาบาลกับผู้รับเหมาและได้ผ่านการเห็นชอบจากทุกฝ่าย   โดยพื้นที่ที่ใช้สอยไม่ได้กระทบต่อการก่อสร้างอาคารแต่อย่างใด    อย่างไรก็ตามการสอบครั้งนี้จะให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย แต่เพื่อให้เกียรติกับผู้ร้องเรียนที่แจ้งเรื่องเข้ามา  ก็จะให้มีการดำเนินการตรวจสอบเพิ่มเติมในประเด็นปลีกย่อยอื่น ๆ ด้วย

สาธารณสุขแถลงการณ์

แจ้งข่าว

ชี้แจง

นายวัฒนชัย ศรีธรรม ผู้จัดการโครงการก่อสร้างอาคารผู้ป่วยนอก 5 ชั้น โรงพยาบาลปากพนัง จ.นครศรีธรรมราช เปิดเผยว่า โดยงบประมาณการก่อสร้าง รพ.ปากพนัง ทั้งหมด 80 ล้านบาทเศษแต่บริษัทผู้รับเหมาเดิมได้ทิ้งงานไปขณะที่การก่อสร้างแล้วเสร็จประมาณ 25 เปอร์เซ็นต์ และบริษัทไกรสุ คอนสตรัคชั่น จำกัด ได้เข้ามารับจ้างก่อสร้างต่อในวงเงิน 50.6 ล้าน โดยแบ่งงานงานก่อสร้างทั้งหมด 8 งวดคณะกรรมการตรวจรับงานไปแล้ว 7 งวด เหลือที่ 8 งวดสุดท้าย 17 ล้านบาทเศษ ซึ่งตนได้ยื่นเอกสารส่งงานครั้งแรกตามเอกสารเลขรับหนังสื่อที่ 3382 ลงวันที่วันที่ 4 ก.ย.2560 และทาง ผอ.รพ.ปากพนัง ได้เข้าใช้อาคารที่ก่อสร้างไปแล้วตั้งแต่วันที่ 5 ก.ย. 2560 หลังจากนั้นตนได้ทำเอกสารส่งงานซ้ำส่งงานครั้งที่ 2 ตามเลขรับหนังสือที่ 3332 ลงวันที่ 12 ต.ค. 2560 และต่อเนื่องอีก 5 ครั้งจนถึงปัจจุบัน แต่เรื่องก็เงียบหาย ทำให้บริษัท ฯของตนซึ่งรับเหมางานก่อสร้าง ฯได้รับความเสียหายเนื่องจากจำเป็นจะต้องจ่ายค่าจ้างแรงงาน ค่าวัสดุการก่อสร้าง ซึ่งที่ผ่านมามีความขัดแย้งกันภายในโรงพยาบาลจนมีการรวมตัวเรียกร้องให้ย้าย นายแพทย์ไพศาล แก้วนพรัตน์ ผอ.รพ.ปากพนัง ไปปฏิบัติราชการที่ สสจ.นครศรีธรรมราช แต่กลายเป็นว่าความขัดแย้งภายใน รพ.ปากพนัง แต่กลับส่งผลมาถึงบริษัท ฯผู้รับเหมาก่อสร้างให้พลอยได้รับความเดือดร้อนไปด้วย โดยเมื่อวันที่ 22 พ.ย. 2560 ได้เข้ายื่นร้องเรียนต่อสำนักตรวจสอบพิเศษภูมิภาคที่ 14 สำนักงานตรวจเงินแผ่นดินไปเมื่อ ตามเอกสารรับที่ 00036 ลงวันที่ 22 พ.ย. 2560 ด้วยแล้วนั้น

                เมื่อปลายเดือน พ.ย. 2560 ตนได้หอบพยานหลักฐานเดินทางด้วยเครื่องบินไปยังกระทรวงสาธารณสุข เพื่อร้องเรียนขอความเป็นธรรมจากปลัดกระทรวงสาธารณสุข และ ผอ.กองแบบแผนกระทรวงสาธารณสุข รวมทั้งอธิบดีกรมส่งเสริมสุขภาพ เพื่อร้องเรียนขอความช่วยเหลือเรื่องค่าก่อสร้างอาคาร 5 ชั้น รพ.ปากพนัง จ.นครศรีธรรมราช จำนวน 17 ล้านบาทซึ่งทางคณะกรรมการตรวจรับการจ้างยังไม่ยอมจ่ายโดยอ้างว่างานยังไม่แล้วเสร็จ ทั้ง ๆ ที่ส่งงานไปตั้งแต่วันที่ 4 ก.ย. 2560 และทาง รพ.ปากพนัง ได้เริ่มเข้าใช้อาคารในการรักษาพยาบาลผู้ป่วยเมื่อวันที่ 5 ก.ย. 2560

                นอกจากนี้ตนจะเข้ายื่นร้องเรียนเรื่องนี้กับ สำนักตรวจสอบพิเศษภูมิภาคที่ 14 สำนักงานตรวจเงินแผ่นดินไปเมื่อ ตามเอกสารรับที่ 00036 ลงวันที่ 22 พ.ย. 2560 แต่การดำเนินการสอบสวนต้องใช้เวลาระยะหนึ่ง ในช่วงนี้ทางบริษัท ฯได้รับความเดือดร้อนเนื่องจากผู้รับเหมาช่วงงานตามทวงค่าจ้างเพราะเมื่อมีการส่งงานและเข้าใช้อาคารที่ก่อสร้างไปแล้วย่อมหมายถึงการได้รับค่าจ้างก่อสร้างเรียบร้อยแล้ว แต่ในความเป็นจริงงวดสุดท้าย 17 ล้านตนยังไม่ได้รับแม้แต่บาทเดียว ตนจะเข้าร้องเรียนกับปลัดกระทรวงสาธารณสุข ผอ.กองแบบแผน และอธิบดีกรมส่งเสริมสุขภาพ หากยังไม่มีความคืบหน้าตนจะเข้าแจ้งความดำเนินคดีกับผู้เกี่ยวข้องในข้อหาบุกรุกและทำลายทรัพย์สิน เพราะเท่ากับว่าเมื่อผู้ว่าจ้างยังไม่ตรวจรับงานและไม่จ่ายค่าจ้างก็เท่ากับว่าอาคารดังกล่าวยังเป็นสิทธิ์การดูแลของตน เมื่อมีการเข้าไปใช้โดยพละการเท่ากับเป็นการบุกรุกและทำลายทรัพย์สินให้ได้รับความเสียหาย

                นายวัฒนชัย ศรีธรรม กล่าวต่อว่า ที่ผ่านมาตนอดทนมามากพอแล้วตั้งแต่การทิ้งงานของบริษัท ฯรีบเหมา ซึ่งก่อสร้างในส่วนโครงสร้างไม่เรียบร้อยแต่มีการเบิกเงินไปและเดิมทิ้งงาน เมื่อตนเข้ามารับงานก่อสร้างต่อต้องใช้งบประมาณ 6-7 แสนบาทในการเคลียร์งานในส่วนของบริษัท ฯรับเหมาเดิม ตนก็ทำให้เรียบร้อย ทั้ง ๆ ที่การเบิกจ่ายเงินให้บริษัทเก่าไม่ถูกต้องเพราะงานตามสัญญาค่างงวดไม่เสร็จ แต่คณะกรรมการก็อนุมัติให้เบิกจ่ายให้เบิกไปได้อย่างไร และการที่นายช่างผู้ควบคุมงานมาอ้างว่างานในงวดสุดท้ายของบริษัทตนงานยังไม่เสร็จเรียบร้อยเหลืองานตบแต่งและเฟอร์นิเจอร์ประมาณ 1.3 ล้าน จึงยังอนุมัติจ่ายค่าจ้างงวดสุดท้าย 17 ล้านไม่ได้ และยังกล่าวหาว่าปัญหาเกิดจากบบริษัทขาดสภาพคล่องด้านการเงิน ซึ่งไม่เป็นความจริง เพราะงานทั้งหมดผ่ามา 7 งวดไม่มีปัญหาใด ๆ จนมาถึงงวดสุดท้ายหากงานเหลือแค่ 1.3 ล้านตามที่อ้างจริงบริษัทก็พร้อมจะดำเนินการให้ทันที แต่ปัญหามันอยู่ที่คณะกรรมการให้ส่งงานและทาง รพ.ปากพนังเข้าไปใช้อาคารมาแล้วตั้งแต่วันที่ 4 ก.ย. และ วันที่ 5 ก.ย. 2560 จนถึงปัจจุบันใช้อาคารมาแล้วเกือบ 6-7  เดือนถ้าไม่แล้วเสร็จจะเข้าไปใช้อาคารไอ้อย่างไร

                “ตามระเบียบกฎหมายและระเบียบราชพัสดุ ว่าด้วย การตรวจการจ้างและควบคุมงานการสร้าง ข้อที่ 72,73 และผู้ว่าจ้างได้เข้าใช้อาคารทั้งโครงการโดยไม่ได้อิดเอื้อน และตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 587 อันว่าการจ้างทำของนั้นคือสัญญาที่บุคคลหนึ่งเรียกว่าผู้รับจ้างตกลงจะทำการงานสิ่งใดสิ่งหนึ่งจนสำเร็จให้แก่บุคคลอีกบุคคลหนึ่ง เรียกว่าผู้ว่าจ้าง และผู้ว่าจ้างตกลงจะให้สินจ้างเพื่อผลสำเร็จแห่งการที่ทำนั้น มาตรา 597 ถ้าผู้ว่าจ้างยอมรับมอบการที่ทำนั้นแล้วโดยไม่ได้อิดเอื้อน ผู้รับจ้างก็ไม่ต้องรับผิดชอบการที่ส่งมอบงานเนิ่นช้า ซึ่งการเตะถ่วงไม่ยอมตรวจรับงานจ้างเพราะมีการเรียกรับผลประโยชน์อย่างไรหรือไม่ ตนพร้อมแฉเบื้องหน้าเบื้องหลังทั้งหมดให้สังคมได้รับรู้ว่า ปัญหาการก่อสร้างโรงพยาบาลหลายแห่งในจังหวัดนครศรีธรรมราช ที่คณะกรรมการและนายช่างควบคุมงานชุดนี้รับผิดชอบมีเบื้องหน้าเบื้องหลังไม่ชอบมาพากลมาเกือบทั้งหมด เมื่อมาเล่นแง่ทำให้บริษัท ฯและตนเสียหาย ได้รับความเดือดร้อนยืดเยื้อมานานตนจึงดับเครื่องชนเดินหน้าร้องเรียน เรื่องการเรียกเงินในกระบวนการตรวจรับ และรถ  “ปาเจโร่” ซึ่งเป็นต้นตอที่ทำให้เกิดปัญหาเตะถ่วงค่าจ้างงวดสุดท้ายดังกล่าว” นายวัฒนชัย ศรีธรรม กล่าวในที่สุด.

 

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง 
-รอง ผบก.อุดรฯ สั่งพักงาน ทีม จนท.เก็บส่วยโรงงานลูกชิ้น รอ 3 วันชี้ชะตา จะอยู่หรือไป!?


-ชมคริปเสียง!! จากพ่อค้าพ่วงข้าง ใครคือไอ้ โม่ง เรียกรับ ส่วย!? ส่วน ตม.ชลบุรี ยืนยัน ทำงานตามหน้าที่ ตามข้อกฏหมาย ตรงไป ตรงมา !!!?? (คลิป)

 

หอบหลักฐาน

ผู้ป่วย

คนไข้

ในโรงพยาบาล

ภาพประกอบบางส่วน/ศูนย์ข่าวนคร 24 ชม.สมาคมสื่อมวลชนนครศรีธรรมราช

ข่าว/ยุทธนะ เตมะศิริ  ผู้สื่อข่าวภูมิภาค  สำนักข่าวทีนิวส์  จ.นครศรีธรรมราช