- 28 มี.ค. 2561
ติดตามข่าวสารได้ที่ www.tnews.co.th
จากกรณีที่ นายซูริก์ฟัต หรือบังฟัต บ้านนบวงศ์สกุล อายุ 41ปี พร้อมกับพวก รวม8คน ร่วมกันก่อคดี ฆ่านายวรยุทธ หรือผู้ใหญ่บัต สังหลัง อายุ46 ปี อดีตผู้ใหญ่บ้าน เขางาม อยู่บ้านเลขที่ 14/3 หมู่ 1 ตำบลบ้านกลาง อำเภออ่าวลึก จ.กระบี่ พร้อมครอบครัว และญาติๆ รวม 8 ศพ ภายในบ้านพักเลขที่ เหตุเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 10 กรกฎาคม 2560 ที่ผ่านมา สร้างความสะเทือนขวัญ และสลดใจแก่ประชาชนเป็นอย่างมาก
ความคืบหน้าวันที่ 28 มี.ค.61 ที่ห้องพิจารณาคดี ที่ 7 ศาลจังหวัดกระบี่ นาย ธีระยุทธ จินา ผู้พิพากษาหัวหน้าคณะชั้นต้นในศาลจังหวัดกระบี่ และนางสาววริษฐา มงคลศิริ ผู้พิพากษาศาลจังหวัดกระบี่ ร่วมกันอ่านคำพิพากษาในคดี โดยมีพล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. นำทีมคณะทำงานที่เกี่ยวข้องกับคดี เดินทางมาร่วมฟังคำพิพากษาด้วยตัวเอง ซึ่งมีบรรดาญาติของผู้เสียชีวิต รวมทั้งญาติผู้ต้องหาเดินทาง ร่วมรับฟัง ท่ามกลางกองทัพสื่อมวลชนจากหลายสำนักมาติดตามทำข่าวการอ่านคำพิพากษา จำนวนมาก
จากนั้นศาลก็ได้เริ่มคำพิพากษาในเวลาประมาณ 10.00 น. และเสร็จสิ้นในเวลา 11.40 น. โดย ศาลได้มีคำพิพากษาใจความโดยสรุปดังนี้ คือให้ประหารชีวิตจำเลยที่ 1-6 ประกอบด้วยนายซูริก์ฟัต บ้านนบวงศ์กุล หรือ บังฟัต อายุ 41 ปี 2.นายคมสรรค์ เวียงนนท์ (ม่อน) 3.นายอับดุลเลาะ ดอเลาะ (เลาะห์) อายุ 30 ปี. 4.นายอรุณ ทองคำ (กี้ร์) อายุ 29 ปี 5.นายประจักษ์ บุญทอย (จักร์) อายุ 36 ปี 6.นายธนชัย จำนอง (โกบ) อายุ 41 ปี ส่วนจำเลยที่ 7.นายธวัฒชัย บุญคง (ชัย) อายุ 37 ปี พิพากษาจำคุก 1 ปี 9 เดือน และ นางสาวชลิดา สังข์โชติ อายุ 41 ปี ตัดสินจำคุก 12 เดือน
หลังศาลอ่านคำพิพากษาเสร็จสิ้น ทางนางอัญชลี บุตรเติบ 1 ในผู้รอดชีวิตจากเหตุการณ์ดังกล่าว เปิดเผยว่า รู้สึกพอใจกับคำตัดสินที่ออกมาคือให้ประหารผู้ต้องหา 6 คน และจำคุกอีก 2 คน แม้จะไม่มากแค่ปีกว่าและ 1 ปี แต่ก็น้อมรับในคำตัดสิน ซึ่งก็รู้สึกพอใจมาก ส่วนกรณีของเงินชดใช้ที่ศาลได้ตัดสินให้กลุ่มผู้ต้องหาชดใช้ให้กับญาติๆ นั้น มองว่าคงเป็นเรื่องยากที่จะได้มา เช่นเดียวกับนายจรีย์ บุตรเติบ พ่อตาของผู้ใหญ่บัติ กล่าวว่า พอใจกับคำตัดสิน แต่จะมีการอุทธรณ์หรือฟ้องแพ่งเพิ่มเติมใดๆ นั้น ขอปรึกษากับทางญาติๆอีกครั้ง
ขณะที่ นางศิริวรรณ หนูรินทร์ พี่สาวนายซูริก์ฟัต เปิดเผยภายหลังฟังคำพิพากษาว่า ตนน้อมรับในคำตัดสินของศาล ส่วนน้องชายคือนายซูริก์ฟัตก์ก็ได้บอกกับตนแล้วว่าแม้ว่าจะมีคำสั่งประหารชีวิต ก็ ไม่ต้องกังวล เพราะจะใช้สิทธิ์อุทธรณ์คำตัดสิน เช่นเดียวกับ เกรียงศักดิ์ สารภี ทนายความของจำเลย กล่าวว่า หลังคำพิพากษาออกมาทางบังฟัตและพวก ต่างก็ไม่มีท่าทีกังวล และบอกว่าไม่พอใจกับคำตัดสิน และขอใช้สิทธิในการยื่นอุทธรณ์ ซึ่งหลังจากนี้ก็จะดำเนินการ ยื่นอุทธรณ์ภายใน 30 วันเพื่อต่อสู้คดีต่อไป
ต่อมาที่ห้องประชุมพิทักษ์กระบี่ หน้า สภ.เมืองกระบี่ พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร.พร้อมคณะได้ ร่วมแถลงข่าวสรุปคดี ฆ่าล้างครัว8ศพ โดยระบุว่า ผลการตัดสินของศาลก็เป็นไปตามที่คาดหมายไว้ และคดีดังกล่าวไม่กระทบกับการท่องเที่ยวเนื่องจากมีการจับกุมผู้ต้องหาได้ภายในเวลา5วัน จากนั้นญาติของผู้เสียชีวิต ชมรมกำนันผู้ใหญ่บ้าน ตัวแทนสามคมธุรกิจท่องเที่ยว ได้ เดินทางมามอบช่อดอกไม้ เพื่อเป็นการให้กำลังใจ ผบต.ตร และเจ้าหน้าที่ตำรวจเกี่ยวข้อง ที่สามารถคลี่คลายคดีได้
ทั้งนี้ในคำตัดสินของศาล ระบุว่า แม้ว่าจำเลยที่ 1 ถึง 6 จะรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา แต่มีพฤติกรรมร่วมกันใช้อาวุธปืนจ่อยิงผู้ตายทั้ง 8 และผู้รอดชีวิต เพื่อปิดปากถึง 11 คน ซึ่งมีทั้งผู้หญิง เด็กอายุเพียง 4 ปี 11 ปี 12 ปี รวมอยู่ด้วย เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิตถึง 8 คน นับเป็นเหตุการณ์เศร้าสลดหดหู่ใจและสะเทือนขวัญแก่ประชาชนเป็นอย่างยิ่ง จำเลยดังกล่าวเป็นฝ่ายก่อเหตุขึ้นมาเองและลงมือกระทำความผิดอย่างอุกอาจ โหดเหี้ยมผิดมนุษย์ จึงสมควรไม่ลดโทษให้ และเมื่อฐานความผิดปล้นทรัพย์ทำให้ผู้อื่นถึงแก่ความตายลงโทษประหารชีวิตแล้ว ไม่อาจนำโทษในกระทงอื่นๆจึงตัดสินโทษประหารชีวิตจำเลยที่ 1-6 สถานเดียว
จำเลยที่ 7 มีความผิดฐานร่วมกันปล้นทรัพย์เป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย จำคุก 1 ปี ฐานมีอาวุธปืนจำคุก 6 เดือน ฐานบุกรุกในเวลากลางคืนจำคุก 3 เดือน รวมจำคุก 1 ปี 9 เดือน จำเลยที่ 8 ฐานมีอาวุธปืน 4 เดือน ฐานร่วมกันแสดงตนเป็นเจ้าพนักงานจำคุก 8 เดือน รวมจำคุก 1 ปี
ข่าว/ภาพ บัญฑิต รอดเกิด ผู้สื่อข่าวภูมิภาค สำนักข่าวทีนิวส์ กระบี่