- 29 มี.ค. 2561
ติดตามข่าวสารได้ที่ www.tnews.co.th
จากรณีที่เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ทุ่งใหญ่ จังหวัดนครศรีธรรมราช สนธิกำลังชุดสืบสวน ภ.จว.นครศรีธรรมราช และภาค 8 จับกุม ผู้ต้องหา 5 คน ที่ร่วมกันฆ่านายมนตรี อุปลาปลา อายุ 57 ปี นายช่างโยธา อบจ.กระบี่ อยู่ บ้านเลขที่ 268/4 หมู่ 10 ต.ลำทับ อ.ลำทับ จ.กระบี่ เหตุเกิดเมื่อเวลา 22.00 วันที่ 21 ก.พ.2561 โดยผู้ต้องหาที่จับกุมได้ประกอบด้วยนางณิชาภัทร อ่าวลึกเหนือ อายุ 54 ปี ภรรยาหลวงของผู้ตาย บ้านเลขที่ 74 หมู่ 2 ต.อ่าวลึกเหนือ อ.อ่าวลึก จ.กระบี่ หมายจับเลขที่ 113/2561 ลงวันที่ 27 มี.ค. 2561 ผู้จ้างวานฆ่า ,นายชัยณรงค์ ชัยวิชิต อายุ 58 ปี บ้านเลขที่ 104/2 หมู่ 7 ต.กุแหระ อ.ทุ่งใหญ่ จ.นครศรีธรรมราช หมายจับเลขที่ 114 /2561 ลงวันที่ 27 มี.ค. 2561 ผู้ประสานงานจัดหามือปืน , นายวิโรจน์ บุญส่ง อายุ 39 ปี บ้านเลขที่ 59/2 หมู่ 1 ต.กุแหระ อ.ทุ่งใหญ่ จ.นครศรีธรรมราช หมายจับเลขที่ 115/2561 ลงวันที่ 27 มี.ค. 2561ข้อหาร่วมกันฆ่าผู้อื่น, นายเสรี บุญส่ง อายุ 55 ปี บ้านเลขที่ 255/1 หมู่ 1 ต.ทุ่งสง อ.นาบอน จ.นครศรีธรรมราช หมายจับเลขที่ 116/2561 ข้อหาร่วมกันฆ่าผู้อื่น , นายประคิน จันทร์เจตนาดี อายุ 47 ปี บ้านเลขที่ 18/2 หมู่ 5 ต.พรุดินนา อ.คลองท่อม จ.กระบี่ หมายจับเลขที่ 117/2561 ข้อหาร่วมกันฆ่าผู้อื่น ส่วนนายสุวิทย์ บุญส่ง อายุ 39 ปี ชาวบ้าน ต.กุแหระ อ.ทุ่งใหญ่ จ.นครศรีธรรมราช ข้อหาร่วมกันฆ่าผู้อื่นในคดีเดียวกัน หมายจับเลขที่118/2561 ได้ไหวตัวทันหลบหนีไปได้ตามที่เสนอขาวมาแล้วนั้น
ผู้สื่อข่าวรายงาความคืบหน้าเมื่อเวลา 14.00 น.วันที่ 29 มี.ค. 2561พ. ต.ท.ชัยภัทร ศรีเรือง รอง ผกก.สส.สภ.ทุ่งใหญ่ จ.นครศรีธรรมราชได้เบิกตัวผู้ต้องหาทั้ง 5 คนมาให้ พ.ต.ท.เกษม จอมพงศ์ รอง ผกก.(สอบสวน) สภ.ทุ่งใหญ่ สอบปากคำเป็นรอบที่ 3 โดยทั้งหมดมีอาการเคร่งเครียดแต่ยังให้การปฏิเสธเสียงแข็ง หลังจากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้สวมกุญแจมือผู้ต้องติดกันนำขึ้นรถยนต์ควบคุมตัวผู้ต้องหาปากขังที่ศาลจังหวัดทุ่งสง พร้อมผู้ต้องหาในคดีอื่น ๆ รวม 14 คน โดยมีกำลังตำรวจขับรถอารักขาใกล้ชิดตลอดเส้นทาง
อย่างไรก็ตามในช่วงที่ตำรวจนำผู้ต้องหาทั้งหมดลงจากโรงพักเพื่อขึ้นรถยนต์ควบคุมผู้ต้องขังได้มีนางสมบูรณ์ เรืองศรี อายุ 62 ปี พร้อมญาติ ๆ ตรงปรี่เข้าไปกอดนายวิโรจน์ เรืองศรี 1 ในผู้ต้องหาพร้อมตะโกนเรียกร้องขอความเป็นธรรมเสียงดังลั่น น้ำตาไหลอาบแก้ม ในขณะที่นายวิโรจน์ ก็ร้องห่ร้องให้พร้อมตะโกนบอกตำรวจว่าผมไม่ผิด ผมไม่ได้ร่วมก่อเหตุ จึงร้องขอความเป็นธรรมให้กับผมตัวเองด้วย โดยมี พ.ต.อ.ปรีชา ปัญญาเลิศ ผกก.สภ.ทุ่งใหญ่ ผกก.เข้ามาสอบถามเรื่องราว ซึ่งนางสมบูรณ์ ยืนยันว่านายวิโรจน์ ลูกชาย เป็นคนดีเป็นหัวเรี่ยวหัวแรงของครอบครัวและไม่ได้ร่วมกระทำผิดในคดีนี้อย่างแน่นอน ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ได้ควบคุมตัวผู้ต้องหาไปยื่นคำร้องฝากขังผู้ต้องหาทั้ง 5 คนเป็นผลัดแรก 12 วัน โดยคัดค้านการประกันตัว ซึ่งปรากฏว่าไม่มีญาติ ๆ ของ 5 ผู้ต้องหามายื่นคำร้องขอประกันตัวผู้ต้องหาแต่อย่างใดศาลจึงอนุญาตให้ฝากขังผลัดแรก 12 วัน ก่อนเจ้าหน้าที่เรือนจำทุ่งสงทำการควบคุมตัวผู้ต้องหาทั้งหมดเข้าเรือนจำทุ่งสงต่อไป
พ.ต.อ.ปรีชา ปัญญาเลิศ ผกก.สภ.ทุ่งใหญ่ กล่าวว่าในกรณีของนายวิโรจน์ 1 ในผู้ต้องหาที่มีแม่มาเรียกร้องขอความเป็นธรรมนั้น ตำรวจพร้อมให้ความเป็นธรรมอย่างเต็มที่และดำเนินการไปตามพยานหลักฐาน หากทางฝ่ายนายวิโรจน์ มีพยานหลักฐานสำคัญอื่นใดที่ยืนยันได้ว่าไม่เกี่ยวข้องกับการกระทำผิดในคดีนี้ก็ให้นำมาแสดงหรือยืนยันกับตำรวจ ทางตำรวจพร้อมที่จะดำเนินการใส่ให้ในสำนวนอย่างครบถ้วน ก่อนจะมีการสรุปสำนวนเสนออัยการพิจารณาสั่งห้องหรือไม่ฟ้องต่อไป ส่วนการพิจารณาตัดสินชี้ขาดว่าผิดหรือไม่ขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของศาล ยืนยันว่าตำรวจปฏิบัติไปตามอำนาจหน้าที่ไม่ได้จงใจกลั่นแกล้งผู้ใด ตอนนี้ทุกคนเป็นแค่ผู้ถูกกล่าวหา ศาลจะเป็นผู้พิจารณาพิพากษาว่าใครบริสุทธิ์ ใครทำผิดจริงหรือไม่.
ภาพ/ข่าว นรศักดิ์ สานุจิตต์ ผู้สื่อข่าวภูมิภาค สำนักข่าวทีนิวส์ จ.นครศรีธรรมราช