- 14 ก.พ. 2562
สุพรรณบุรี ชาวบ้านผวามือดีแอบเผาป่าและกองขยะ หวิดลามไหม้บ้านเรือนประชาชน
ที่ จ.สุพรรณบุรี ได้เกิดเหตุไฟไหม้ป่าที่บริเวณภูเขาหลังหน่วยป้องกันและปราบปรามประมงน้ำจืดเขื่อนกระเสียว อำเภอด่านช้าง หมู่ 17 ต.ด่านช้างหลังเกิดเหตุ เจ้าหน้าที่มูลนิธิเสมอกันกู้ภัยและเจ้าหน้าที่จากหน่วยป้องกันและปราบปรามประมงน้ำจืดเขื่อนกระเสียว จึงช่วยกันนำอุปกรณ์ ขึ้นไปทำแนวกันไฟไม่ให้ลุกลาม เป็นวงกว้างและไม่ให้ลุกเข้าบ้านเรือนประชาชน ซึ่งอยู่ใกล้กันใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมงจึงทำแนวกันไฟได้สำเร็จแต่ภูเขาดังกล่าวถูกไฟลุกลามไหม้หมดทั้งลูก
สำหรับพื้นที่ภูเขาดังกล่าวดังกล่าวมีเนื้อที่ประมาณ 15 ไร่มีต้นไม้เบ็ญจพรรณหลายชนิด และไม้ไผ่ขึ้นอยู่เต็มพื้นที่ และอยู่ใกล้บ้านเรือนประชาชนและอยู่ใกล้หน่วยป้องกันและปราบปรามประมงน้ำจืดเขื่อนกระเสียวช่วงหน้าแล้งของทุกปีมักจะเกิดไฟไหม้อยู่ประจำ ที่ผ่านมาหลังเกิดเหตุจะมีเจ้าหน้าที่ดับเพลิงนำรถน้ำมาช่วยดับ แต่ครั้งนี้รถน้ำมาไม่สามารถดับได้เนื่องจากไฟได้ลุกลามขึ้นไปยอดเขา รถน้ำไม่สามารถขึ้นไปดับได้ทันทำให้ไฟลุกลามไปทั่วภูเขาทั้งลูกทำให้ไม่สามารถดับได้ จึงทำได้เพียงแค่ช่วยกันทำแนวกันไฟ ไม่ให้ลุกลามเข้าไหม้บ้านเรือนประชาชน
สอบถามนางสายัณ เดโชชัย อายุ 67 ปี อยู่บ้านเลขที่ 6 หมู่ 17 ต.ด่านช้าง อ.ด่านช้าง เจ้าของบ้านอยู่ติดกับภูเขาที่ถูกไฟไหม้เปิดเผยว่า รู้สึกกลัวมากที่เกิดไฟไหม้ภูเขาซึ่งอยู่ติดบ้านของตัวเองและเพื่อนบ้านซึ่งอยู่บริเวณ ใกล้ๆภูเขา ที่ผ่านมามักจะเกิดไฟไหม้ ที่ภูเขาลูกนี้ประจำ อบต.จะส่งรถน้ำมาช่วยดับ ไว้ได้ทัน แต่ครั้งนี้หลังเหตุรถน้ำมาช่วยไม่ทัน ตนจึงใช้สายยาง ฉีดไม่ให้ไฟลุกลามเข้ามา ไหม้บ้าน และมีเจ้าหน้าที่กู้ภัย และเจ้าหน้าที่ประมงมาช่วยทำแนวกันไฟ ส่วนสาเหตุนั้นตนไม่ทราบว่ามีคนเผา หรือเกิดไฟไหม้เอง อย่างไรก็ตามอยากฝากถึงคนที่เผา หรือคิดจะเผาขอให้คิดถึงความปลอดภัยของคนอื่นด้วย หากไฟลุกลามไหม้บ้านเรือนคนอื่นก็จะเดือดร้อนกัน อย่างเช่นบ้านของตนนั้นฐานะยากจนหากเกิดไฟไหม้ขึ้นจะไปอยู่ที่ไหน จะเอาเงินที่ไหนมาสร้างบ้านใหม่ การเผาป่า เผาไร่อ้อย หรือแม้กระทั่งเผาหญ้าข้างทาง ก็เป็นการสร้างความเดือดร้อนให้คนอื่นทั้งนั้นผลกระทบที่ตามมา ทั้งควันไฟ ขี้เถ้า และฝุ่นละออง ปลิวเข้าบ้านทำให้หายใจไม่สะดวก ยิ่งขณะนี้หน่วยงานราชการมีการรณรงค์ ไม่ให้เผาไร่อ้อย ไม่ให้เผาป่า เนื่องจากเป็นการทำผิดกฏหมาย หากโชคร้ายไฟลามเข้าไหม้บ้านเรือนประชาชนยิ่งเดือดร้อนหนัก
และที่ สภ.เมือง จ.สุพรรณบุรี เจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้รับแจ้งเหตุเพลิงไหม้หญ้าที่หมู่บ้านบัวคลี่ 8 จึงประสานรถดับเพลิง รถดับเพลิงจาก อบต.ไผ่ขวาง และ อบต.สนามชัย จำนวน 2 คัน ไปตรวจสอบ ที่เกิดเหตุไฟกำลังโหมลุกไหม้หญ้า และป่ากระถิน พื้นที่ราว 4 ไร่ ข้างบ้านเลขที่ 130/95 หมู่ 5 ต.ไผ่ขวาง อ.เมือง จ.สุพรรณบุรี เจ้าหน้าที่ใช้เวลาฉีดน้ำสกัดกว่า 20 นาที เพลิงจึงสงบ
สอบถามนายยุทธ แสงทองดี อายุ 82 ปี อดีตข้าราชการครูเกษียณ ปัจจุบันเป็นผู้ประนีประนอมประจำศาลจังหวัดสุพรรณบุรี ศาลแขวงสุพรรณบุรี และ ศาลเยาวชนและครอบครัวสุพรรณบุรี ซึ่งมีหน้าที่ให้การไกล่เกลี่ย สมานฉันท์และสันติวิธี กล่าวว่าก่อนเกิดเหตุกลับจากปฏิบัติหน้าที่เข้าเวรประนีประนอม ที่บ้านมีนางสราญรัตน์ แสงทองดี อายุ 77 ปี ภรรยาอยู่บ้านคนเดียว เห็นควันไฟพวยพุ่งใกล้รั้วข้างบ้านกำลังจะลุกลามเข้ามาที่ตัวบ้าน จึงรีบแจ้งเจ้าหน้าที่ดับเพลิงมาช่วยดับไว้ได้ทันไม่อย่างนั้นคงถูกไฟลามเข้าเผาบ้านวอดอย่างแน่นอน ก่อนเกิดเหตุมีชาวบ้านเห็นว่ามีคนมาจุดไฟเผาขยะใกล้กันแล้วเดินหนีไปจากนั้นไฟได้ไหม้ลุกลามเข้าดงหญ้าที่ขึ้นรกทึบอย่างรวดเร็วไม่สามารถควบคุมได้จึงได้ลุกลามขนาดนี้ ซึ่งในส่วนนี้ได้แจ้งกับเจ้าหน้าที่ตำรวจให้ช่วยติดตามผู้ก่อเหตุเพื่อนำตัวมาดำเนินคดีแล้ว
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
-คนใจบาปจุดไฟเผาป่า ไหม้ลูกสุนัขดับเกือบยกคอก โชคดีมี 1 ตัวรอด ร้องขอความช่วยเหลือ(คลิป)
ภาพ/ข่าว มงคล สว่างศรี ภัทรพล พรมพัก ผู้สื่อข่าวภูมิภาค สำนักข่าวทีนิวส์ จ.สุพรรณบุรี