- 18 ก.พ. 2562
เจ้าหน้าที่ตำรวจเดินทางไปรับตัวเด็กหญิงวัย14ปี ที่หายตัวออกไปจากบ้าน กลับมาพบหน้าพ่อแม่อีกครั้ง แต่เด็กยังไม่พร้อมให้ข้อมูล ขณะที่แม่เผยดีใจที่ลูกปลอดภัยและได้พบลูกสาวอีกครั้ง ยืนยันพร้อมให้อภัยเสมอแม้ลูกทำผิด
กาญจนบุรี ตำรวจนำเด็กหญิงวัย 14 ปี กลับมาพบหน้าพ่อแม่แต่ยังไม่พร้อมให้ข้อมูล แม่ยืนยันไม่โกรธลูก
เจ้าหน้าที่ตำรวจเดินทางไปรับตัวเด็กหญิงวัย14ปี ที่หายตัวออกไปจากบ้าน กลับมาพบหน้าพ่อแม่อีกครั้ง แต่เด็กยังไม่พร้อมให้ข้อมูล ขณะที่แม่เผยดีใจที่ลูกปลอดภัยและได้พบลูกสาวอีกครั้ง ยืนยันพร้อมให้อภัยเสมอแม้ลูกทำผิด ความคืบหน้า กรณีเด็กหญิงชาวเมียนมาร์ วัย 14 ปี ที่หายตัวจากบ้านพักในซอยไปรษณีย์ เขตเทศบาลเมืองกาญจนบุรี ตั้งแต่ช่วงเช้าวันที่ 16 กุมภาพันธ์ 2562 ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้ทำการตรวจสอบภาพวีดีโอจากกล้องวงจรปิด จนพบว่ามีรถยนต์กระบะมารับเด็กหญิงคนดังกล่าวออกไปจากบ้าน ก่อนจะเรียกชายคนที่ขับรถยนต์กระบะมารับเด็กสาวออกไปจากบ้านมาสอบปากคำ
ซึ่งพบว่า ชายคนดังกล่าว เป็นหัวหน้าคนงานของพ่อแม่เด็กหญิงที่หายตัวไป เจ้าหน้าที่ตำรวจทำการสอบสวนจนสืบทราบว่า เด็กหญิงคนดังกล่าว ได้เดินทางไปอยู่บ้านเพื่อนในพื้นที่บ้านพระเจดีย์สามองค์ อำเภอสังขละบุรี เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงแจ้งให้ตำรวจภูธรสังขละบุรีไปติดตามตัวและนำตัวมาอยู่ที่สถานทีตำรวจภูธรสังขละบุรี ก่อนจะส่งเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดปฏิบัติการลงพื้นที่ เพื่อเดินทางไปรับตัวเด็กหญิงคนดังกล่าวกลับมา ล่าสุด เมื่อเวลา 18.00 นาฬิกา เจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการตำรวจภูธรจังหวัดกาญจนบุรี ได้นำตัวเด็กหญิงชาวเมียนมาร์ วัย 14 ปี เดินทางกลับมาถึงสถานีตำรวจภูธรเมืองกาญจนบุรีเรียบร้อยแล้ว
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
-พ่อร้อง ลูกสาววัย 14 ปี ออกไปทิ้งขยะ ก่อนหายตัวไป ส่งข้อความเสียง "ถูกลักพาตัว" พ่อหวั่นถูกทำมิดีมิร้าย
โดยมีพ่อแม่ พี่ชายและญาติๆของเด็กหญิง มารอพบหน้าอย่างใจจดใจจ่อ โดยหลังจากเดินทางมาถึง เด็กหญิงคนดังกล่าวยังคงนิ่งเงียบ ไม่ได้พูดจาอะไรกับครอบครัวและก้มหน้ามีท่าทีเหมือนจะร้องไห้ ก่อนที่ผู้เป็นแม่จะเข้าไปพูดจาปลอบใจ โดยไม่มีทีท่าต่อว่าหรือทำร้ายร่างกายแต่อย่างใด เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจ จะส่งตัวเด็กหญิงคนดังกล่าวให้ไปอยู่ในความดูแลของบ้านพักเด็กและครอบครัวจังหวัดกาญจนบุรีเป็นการชั่วคราว เพื่อรอให้ข้อมูลต่อหน้าเจ้าหน้าที่สหวิชาชีพในวันพรุ่งนี้ต่อไป ขณะที่แม่ของเด็กหญิงคนดังกล่าว ได้พูดเป็นภาษาเมียนมาร์ตอบคำถามของผู้สื่อข่าวหลังได้พบหน้าลูกสาวอีกครั้งว่า จนถึงขณะนี้ ก็ยังไม่รู้ว่าทำไมลูกสาวถึงตัดสินใจออกจากบ้านไป ที่ผ่านมา ก็ไม่เคยมีปากเสียงหรือตบตีทำร้ายร่างกายลูกสาวมาก่อน คงจะต้องรอให้ เจ้าหน้าที่สอบถามข้อมูลจากลูกสาวของตนถึงเหตุผลที่ตัดสินใจออกจากบ้านไปในครั้งนี้ อย่างไรก็ตาม ตนในฐานะที่เป็นแม่ ก็ไม่ได้รู้สึกโกรธลูกสาวและยังรู้สึกดีใจที่ได้พบหน้าลูกสาวของตนอีกครั้ง โดยที่ลูกไม่เป็นอันตรายใดๆ ถึงแม้ที่ผ่านมาลูกสาวจะตัดสินใจทำเรื่องนี้เพราะเหตุผลอะไรแต่ตนก็พร้อมที่จะให้อภัยลูก
ข่าว-ภาพ/วันชัย แก้ววิลัย กัมพล ทันเวลา ข่าวภูมิภาค สำนักข่าวทีนิวส์ กาญจนบุรี