สาวป่วยมะเร็งเหยื่อพายุปาบึกบ้านพังทั้งหลังยิ้มได้-จนท.รุดชี้แจงยันไม่ได้ให้แค่กระเบื้อง 30 แผ่นแต่รออนุมัติเงินช่วยเหลือตามกรอบกำหนด

จากกรณีที่ศูนย์ข่าวนคร 24 ชม.สมาคมสื่อมวลชนนครศรีธรรมราช ได้รับแจ้งว่ามีบ้านหลังหนึ่งในซอยข้างปั้มน้ำมัน ปตท.หัวถนน ต.ในเมือง อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช ซึ่งถูกต้นไม้ใหญ่หักโค่นล้มทับพังเสียหายทั้งหลังจากฤทธิ์พายุโซนร้อนปาบึก เมื่อวันที่ 4 ม.ค.2562ที่ผ่านมา แต่ไม่ได้รับการช่วยเหลือใด ๆ จากหน่วยงานภาครัฐทั้ง ๆ ที่มีการสำรวจไปเรียบร้อยแล้ว และบ้านที่พังเสียหายบางส่วนอีก 2 หลังซึ่งอยู่ติดกันอีก 2 หลังเจ้าหน้าที่เข้ามาสำรวจพร้อมกันและดำเนินการปรับปรุงซ่อมแซมให้เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ทำให้เจ้าของบ้านซึ่งป่วยเป็นมะเร็งเต้านมมีอาหารเครียดอย่างหนักคิดฆ่าตัวตายประชดชีวิต  ในขณะที่ น.ส. อรอุมา จันทร์พันธ์ อายุ 22 ปี นักศึกษามหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณ์ราชวิทยาลัย วิทยาเขตนครศรีธรรมราช บุตรสาวของนางอมรรัตน์ เชื่อว่าเจาหน้าที่ตั้งใจกลั่นแกล้งเพราะตัวเองเป็นเยาวชนจิตอาสากลุ่ม “ดรโจยูธคลับ” ซึ่งถูกมองว่าเป็นทีมการเมืองฝ่ายตรงข้ามกับผู้บริหารเทศบาลนคร นครศรีธรรมราชก็เป็นได้ ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น

 

 

 

 

 

(25 ก.พ.) นายไสว เขียวจันทร์ รองนายกเทศมนตรีนคร นครศรีธรรมราช กล่าวว่า ความเสียหายอันเนื่องมานากพายุโซฯร้อนปาบึกในเขตเทศบาล ฯ ประกอบด้วย 1.ผู้เสียหายประมาณราคาแล้ว ไม่กิน 33.000บาท ให้ท้องถิ่นดำเนินการเอง 825หลัง ซึ่งเทศบาลได้จัดชื้อวัสดุให้เรียบร้อยแล้ว 2.ส่วนที่เสียหายเกิน 33,000บาท ได้แจ้งผ่านอำเภอเมือง เพื่อส่งเรื่องไปยังป้องกันและบรรเทาสาธารณะภัยจังหวัดนครศรีธรรมราช และตอนนี้กำลังดำเนินการ โดยมีกำหนดแล้วเสร็จภายใน 28 ก.พ นี้ และ 3.ส่วนที่ชาวบ้านที่เสียหายและขอชดเชยเป็นเงินสดชดเชย 316 หลัง ซึ่งเทศบาลได้ส่งไปอำเภอเมือง เพื่อผ่านจังหวัดสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดนครศรีธรรมราช แล้วเช่นกัน  โดยในรายของผู้ร้องอยู่ในจำนวน 316 หลังที่ขอความช่วยเหลือเป็นเงินสด เรื่องที่เกิดขึ้นอาจจะเป็นเพราะการสื่อสารชี้แจงของเจ้าหน้าที่เทศบาล ฯไม่ละเอียดทำให้ผู้ร้องไม่เข้าใจและคิดว่าเทศบาล ฯและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องไม่สนใจเยียวยาช่วยเหลือ

 

                ต่อมาในวันเดียวกันนี้ ผศ.เชาวน์วัศ เสนพงศ์  นายกเทศมนตรีนครนครศรีธรรมราช มอบหมายให้ นายวิสุทธิ์ บุญชูวงศ์ รองนายกเทศมนตรีนครนครศรีธรรมราช พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่กองสวัสดิการสังคม เทศบาลนครนครศรีธรรมราช เดินทางเยี่ยมบ้านนางอมรรัตน์   แซ่ภู่ ผู้ร้อง และได้ชี้แจงข้อมูลเกี่ยวกับขั้นตอนการช่วยเหลือให้ทราบโดยยืนยันว่าทางเทศบาล ฯได้ดำเนินการส่งเรื่องไปยังอำเภอเพื่อส่งต่อไปยังจงหวัดนครศรีธรรมราชเรียบร้อยแล้ว แต่เงินช่วยเหลือตามกรอบที่กำหนดยังไม่ได้รับการอนุมัติจ่ายลงมา

 

 

 

 

 

 

 

น.ส. อรอุมา จันทร์พันธ์ หรือ “น้องฝ้าย” อายุ 22 ปี เจ้าหน้าที่ที่เดินทางมาที่บ้านแสดงความไม่พอใจที่ตนและแม่ไปร้องศูนย์ข่าวนคร 24 ชม.สมาสื่อมวลชนจังหวัดนครศรีธรรมราช  ตนยืนยันว่าหลังเกิดเหตุ 2 วันแม่ได้เดินทางไปแจ้งเหตุ ฯที่เทศบาลและมีเจ้าหน้าที่ลงมาตรวจสอบ แต่เรื่องก็เงียบหายไป ตนและแม่ได้ไปติดตามเรื่องหลายครั้ง เพราะกังวลใจโดยเฉพาะแม่เครียดมาก ๆ เพราะป่วยเป็นมะเร็งเต้านมประกอบกับบ้านเพื่อนบ้านอีก 2 หลังที่อู่ในซอยเดียวกันสร้างเสร็จหมดแล้ว โดยแม่คิดว่าเมื่อสร้าง 2 หลังดังกล่าวเสร็จแล้วก็คงจะมาสร้างบ้านของตนเป็นลำดับต่อไป แต่เมื่อแม่เข้าไปถามช่างที่มาซ่อมบานให้เพื่อนบ้านได้รับคำตอบว่า “นายหัวสั่งให้มาซ่อมบ้าน 2 หลังเท่านั้น และไม่มีคำสั่งให้ซ่อมหรือสร้างบ้านหลังของตนต่อ”  ช่างพูดพร้อมเก็บอุปกรณ์ ข้าวของเครื่องมือช่างกลับไป

 

                “ตนและแม่เดินทางไปติดตามความคืบหน้าที่เทศบาล ฯ เขาบอกว่าจะให้กระเบื้อง 30 แผ่น แม่บอกว่าบ้านพังทั้งหลังได้กระเบื้อง 30 แผ่นคงไม่เพียงพอในการซ่อมสร้างบ้านใหม่  เจ้าหน้าที่จึงแจ้งว่าถ้าอย่างนั้นก็ขอเป็นเงินสดดีกว่า ซึ่งแม่ของตนก็บอกว่าเป็นอะไรก็ได้เพื่อให้เพียงพอกับการซ่อมสร้างบ้านใหม่ เจ้าหน้าที่จึงให้แม่เซ็นชื่อในเอกสาร โดยไม่ได้ชี้แจงรายละเอียดของจำนวนเงิน วันเวลาที่จะได้รับการช่วยเหลือ และเรื่องก็เงียบหายไปอีกหลายวัน แม่ก็เครียดเพิ่มมากขึ้น จึงไล่ให้ตนไปติดตามความคืบหน้าโดยตนแจ้งว่าหากยังเงียบหายไม่ได้รับการช่วยเหลือหรือชี้แจงใด ๆ จะเข้าร้องขอความช่วยเหลือจากผู้ว่าราการจังหวัดนครศรีธรรมราช ต่อมาเจ้าหน้าที่เทศบาล ฯโทรศัพท์ไปแจ้งว่าพบเอกสารเกี่ยวกับบ้านของตนแล้ว ที่หาไม่พบในตอนแรกเพราะเอกสารแยกกันอยู่พร้อมยืนยันว่าจะเร่งส่งเรื่องไปยังอำเภอและจังหวัดเพื่อเข้าสู่กรอบการช่วยเหลือต่อไป”

 

                น.ส. อรอุมา จันทร์พันธ์ หรือ “น้องฝ้าย” กล่าวต่อไปอีกว่า ตนรู้สึกได้ถึงความไม่ชอบมาพากลและไม่เป็นธรรม ประกอบกับระยะเวลาการช่วยเหลือที่กำหนดเสร็จสิ้นภายใน  28 ก.พ.2562  จึงตัดสินในเข้าร้องเนียนขอความช่วยเหลือศูนย์ข่าวนคร 24 ชม.สมาคมสื่อมวลชนนครศรีธรรมราช จนสื่อมวลชนนำเสนอข่าวอย่างกว้างขวาง และล่าสุดรองนายก ฯและเจ้าหน้าที่เข้ามาชี้แจงรายละเอียดการช่วยเหลือ แต่ก่อนหน้านี้ตนยืนยันว่าไม่มีการชี้แจงในกรอบรายละเอียดเช่นนี้เลย  ซึ่งหลังได้รับการชี้แจงยืนยันทำให้แม่สบายใจ คลายความเครียดและยิ้มใจได้แล้ว.

 

 

 

 

 

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง

- 3พ่อแม่ลูก ดีใจน้ำตาไหลได้บ้านใหม่ หลังถูกพายุปาบึก พัดถล่มพังทั้งหลัง เตรียมส่งมอบอีกในวันวาเลนไทน์

- สุดทึ่ง! เปิดตำนานต้นโพธิ์ยักษ์พันปี ยืนตระหง่านหลังเหตุพายุปาบึก ในขณะที่ต้นตะเคียนใหญ่ในวัดหักโค่นระเนระนาด 30 ต้น

- หนูน้อยเผยนาทีชีวิต พายุปาบึกทำบ้านพังหวิดถล่มทับ ลั่นสุดดีใจ ได้รับบ้านใหม่รับวันวาเลนไทน์

- บ้านหลังแรก ธารน้ำใจ "เจตรินทีม" มอบให้ 2 แม่ลูกโดนพายุปาบึกถล่ม ไร้ที่ซุกหัวนอน

- ถึงกับหลังน้ำตาดีใจ!! "เครือเนชั่น" รับสร้างบ้านซับน้ำตาเหยื่อ“พายุปาบึก” ถล่มบ้านพังทั้งหลัง ทีบ้านคลองน้อย อ.ปากพนัง(มีคลิป)

ภาพ/คลิป ยุทธนะ เตมะศิริ  ศูนย์ข่าวนคร 24 ชม.สมาคมสื่อมวลชนนครศรีธรรมราช