- 26 ก.พ. 2562
คันดินถล่มทับพ่อดับแม่ลูกรอด!! หนุ่มใหญ่วัย53 พาลูกเมียไปขุดคูระบายน้ำดินอ่อนพังทับร่างดับอนาถ
สลดหนุ่มใหญ่พาลูกเมียไปขุดคันคูระบายน้ำออกจากสระ ขณะขุดลงลึกได้กว่า 3 เมตรดินอ่อนตัวพังทลายลงมาทับร่างจมมิดลงดินดับอนาถต่อหน้าลูกและเมียที่ยืนต่อแถวส่งบุ้งกี๋ขนดินสุดจะช่วยเหลือได้ทัน
เหตุสลดนี้เกิดเปิดเผยขึ้นเมื่อเวลา 14.00 น.วันที่ 26 ก.พ.พ.ต.ท.พงศ์เดชน์ คำกอง สว.(สอบสวน) สภ.โสกก่าม รับแจ้งเหตุดินถล่มพังทับร่างคนดับบริเวณทุ่งนาห่างจากหมู่บ้านดอนเสียด หมู่ที่ 3 ต.บ้านต้อง อ.เซกา จ.บึงกาฬ ประมาณ 500 เมตร จึงรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบรุดไปตรวจที่เกิดเหตุพร้อมด้วย พ.ต.ท.อุทัย อ่อนยิ้ม สว.หน.สภ.โสกก่าม แพทย์เวร รพ.เซกาและหน่วยกู้ภัยสว่างศรีวิไลจุดโสกก่าม ที่เกิดเหตุเป็นคันคูสระน้ำทีมีความกว้างประมาณ 3 เมตรสูงประมาณ 3 เมตร ส่วนผู้บาดเจ็บถูกนำร่างออกมาปฐมพยาบาลอยู่ด้านนอกแล้ว แต่ได้เสียชีวิตในเวลาต่อมาทราบชื่อ นายอนัน ต้นกันยา อายุ 53 ปี โดยแพทย์ได้ระบุสาเหตุการเสียชีวิตเนื่องจากคอหักเพราะถูกดินถล่มทับร่าง
นายอำนาจ กันยากา อายุ51 ปี น้องชายผู้ตาย(เสื้อคลุมดำ)เล่าให้ผู้สื่อข่าวฟังว่า ก่อนเกิดเหตุผู้ตายได้ชักชวนนางหนูสิน ต้นกันยา อายุ 50 ปีภรรยาและลูกสาวออกมาช่วยกันขุดดินคันคูเพื่อระบายน้ำออกจากสระน้ำที่มีความกว้างประมาณ 20x20 เมตร เพื่อกักเก็บน้ำไว้ใช้และระบายน้ำออกเกรงคันคูขาดรับน้ำไม่ไหวในฤดูน้ำหลาก โดยขุดมาแล้วประมาณ 2 เดือนก็ยังไม่แล้วเสร็จเนื่องจากสันคูกว้าง 3เมตรและต้องการความลึกให้ได้ระดับ 3 เมตร เพื่อระบายน้ำออกให้ได้มากที่สุดโดยไม่ต้องใช้เครื่องสูบน้ำช่วยให้สิ้นเปลืองน้ำมัน ระหว่างขุดจะได้ความลึกตามที่ต้องการอยู่นั้น โดยผู้ตายใช้จอบขุดดินใส่บุ้งกี๋ แล้วส่งมาให้ภรรยาจากนั้นก็จะส่งบุ้งกี๋ต่อให้ลูกสาวที่ยืนรอรับอยู่เป็นคนสุดท้ายเพื่อเทดินทิ้ง จู่ๆ คูดินก็เกิดพังทลายลงมาเฉียดภรรยาไป แต่ดินที่มีประมาณมากกว่า 1 ตันก็ร่วงลงมาทับร่างผู้ตายที่ยืนพิงผนังคันดินพักเหนื่อยอยู่จนท่วมหัวมิดร่าง เมื่อหายตกตลึงจึงได้ช่วยกันกับลูกสาวนำจอบและเสียมขุดพยายามช่วยผู้ตายขึ้นมา แต่เนื่องจากดินที่ทับร่างมีจำนวนมากและลึกกว่า 1 เมตร ช่วยไม่ไหวจึงให้ลูกสาวไปเรียกตนมาช่วย แต่ก็ไม่สามารถช่วยชีวิตเอาไว้ได้ จึงขาดใจตายต่อหน้าภรรยาและลูกสาว
พ.ต.ท.พงศ์เดชน์ กล่าวว่า เนื่องจากคันคูดินนี้ขุดทิ้งไว้มานาน ช้างป่าภูวัวที่ลงมาหากินและลงเล่นน้ำในสระใช้เป็นเส้นทางเดินผ่านไปมา ทำให้คันดินที่ขุดเอาไว้อ่อนตัวเป็นรอยแยกเพราะน้ำหนักของช้าง ประกอบกับมีฝนตกลงมาเมื่อคืนทำให้ดินอ่อนทรุดพังทลายลงมาทับร่างผู้เคราะห์ร้ายจนเสียชีวิตดังกล่าว ญาติไม่ติดใจสาเหตุการเสียชีวิตจึงมอบศพให้ไปบำเพ็ญกุศลตามประเพณีต่อไป.
นิธิศักดิ์ เศรษฐแสงศรี ผู้สื่อข่าวภูมิภาค สำนักข่าวทีนิวส์ จ.บึงกาฬ
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
-พายุฝนถล่มฟิลิปปินส์ ดินถล่ม-น้ำท่วม ปชช.เดือดร้อนหลายหมื่น
-กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยแจ้งเตือน มรสุม น้ำท่วม ดินถล่ม ที่ภาคใต้!
-ไต้ฝุ่นมังคุดแผลงฤทธิ์ ฟิลิปปินส์เจอดินถล่มหนักสุดในรอบหลายปี ประชาชนสูญหายกว่า 60 ราย