- 11 มี.ค. 2562
ญาติผู้ตายถูกฆ่าฝังศพในฉะเชิงเทราเข้าให้ปากคำเพิ่มเติม เพื่อออกหมายจับไอ้โอจอมโหดและพวก
ญาติผู้ตายถูกฆ่าฝังศพในฉะเชิงเทราเข้าให้ปากคำเพิ่มเติม เพื่อออกหมายจับไอ้โอจอมโหดและพวก
จากกรณีเมื่อวันที่ 18 กุมภาพันธ์ 2562 นายมานพ บุญเลิศ อายุ 56 ปี ผู้เป็นบิดา หอบหลักฐานต่างๆ ทั้งใบแจ้งความร้องทุกข์กับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.บางเสาธงและสภ.บางพลี เนื่องจาก นายชัยประสิทธิ์ บุญเลิศ อายุ 34 ปี ได้หายตัวปริศนาไปตั้งแต่ตอนหลังเลิกงาน 17 .00 น. ประมาณ วันที่ 2 ก.พ. 62 พบเพียงรถจักรยานยนต์ จมอยู่ในคูน้ำข้างซอยวัดบัวโรย ต.บางเสาธง อ.บางเสาธง จ.สมุทรปราการโดยภาพจากกล้องวงจรปิดสามารถจับภาพไว้ได้ ล่าสุดเมื่อช่วงบ่ายของวานนี้นางสาว แปทิพย์ หรือปลา โลกรัก อายุ 21 ปี ได้ติดต่อขอมอบตัวกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.บาลเสาธง สมุทรปราการ ก่อนพาไปชี้จุดที่เอาศพนายชัยประสิทธิ์ ผู้ตายฝั่งเพื่ออัมพรางที่ป่าหลังโรงเรียนวัดต้นหมัน หมู่ 3 ต.คลองบ้านโพธิ์ อ.บ้านโพธิ์ จ.ฉะเชิงเทรา ก่อนนำพาไปจับกุมผู้ร่วมก่อเหตุอีก 4 คน
ประกอบด้วย 1)นายกิตติพงษ์ หรือเป้ จงเจริญพิศาล ทำหน้าที่ห่อร่างนายตั้มและยกขึ้นรถกระบะ 2)นายจักรกฤษณ์ หรือ บาส น้อยสวัสดิ์ ทำหน้าที่หาที่ฝังศพและขุดหลุมและย้ายศพไปฝัง 3)นายทินกร หรือเก่ง สุขเจริญ ทำหน้าที่หาที่ฝังศพและขุดหลุมและย้ายศพไปฝัง 4)นายวิศรุต หรืออู หีบเงิน ทำหน้าที่ห่อร่างผู้ตายยกขึ้นรถกระบะ ส่วนนาย สมศักดิ์ หรือโอ เล็ดลอด มือฆ่า นางสาวปิยะพร หรือมด เล็ดลอด น้องสาวของนายโอ ที่ทำหน้าที่พานายโอ หลบหนี และนาย ถนอมศักดิ์ หรือ ต้อม ดีสละ ทำหน้าที่มัดมือผู้ตาย อยู่ระหว่างหลบหนี
ต่อมาเมื่อช่วงเช้าของวันนี้ที่ 11 มีนาคม 2562 นายมานพ บุญเลิศ อายุ 56 ปี พ่อของผู้ตาย น.ส.ศิรินยา ฆ้องรอด อายุ 21 ปี ภรรยาผู้ตาย ร่วมทั้งน้องสาวของผู้ตายพร้อมด้วยญาติได้เดินทางมาที่โรงพัก สภ.บางเสาธง สมุทรปราการ เพื่อมาให้ปากคำเพิ่มเติมกับพนักงานสอบสวนเจ้าของคดี ใช้เวลาในการให้ปากคำนานกว่า 1 ชั่วโมง นายมานพ พ่อของผู้ตายได้ ให้สัมภาษณ์ว่า วันนี้ที่เดินทางเพื่อให้ปากคำเพิ่มเติมกับพนักงานสอบสวนเพื่อรวบรวมหลักฐานออกหมายจับผู้ร่วมก่อเหตุที่ยังหลบหนีทั้ง 3 คน โดยส่วนตัวแล้วในเรื่องนี้มันมีหลายประเด็น มันหลอกลูกชายผมไปฆ่า แล้วอัมพรางศพ และเคลื่อนย้ายศพเพื่ออัมพรางอีก 2 จุด จุดแรกในซอยวัดบัวโรย และจุดที่ 2 เป็นจุดที่เอาศพไปฝั่งอัมพรางที่จังหวัดฉะเชิงเทรา ส่วนในเรื่องเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นตนคิดว่ามันโหดร้ายเกินไป ซึ่งตนและญาติคนอื่น ๆ ก็ยังทำใจไม่ได้ก็อยากให้เจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินคดีให้หนัก ๆ สาสม โดยส่วนตัวแล้วตนก็อยากให้ผู้ร่วมก่อเหตุที่ยังหลบหนีอยู่มามอบตัว ตนเองขณะนี้ก็ไม่ติดใจอะไร ในเมื่อทำไปแล้วมันก็ต้องรับผิดชอบและรับกรรมกันไป มาถึงตอนนี้ตนก็ไม่รู้ว่าจะพูดอะไร
ด้านน.ส.ศิรินยา ภรรยาผู้ตาย ได้กล่าว่า วันแรกที่เราเห็นแช๊ตที่คุยกันกับคนชื่อปลา แค้นมากว่าทำไม่ต้องหนีเราไปแบบนี้ เพราะข้อความในแช๊ตเหมือนจะพากันหนี จะปล่อยในเราเลี้ยงลูกคนเดียว พอสุดท้ายวันที่สามเรามารู้ ก็รู้สึกสงสารเขามากกว่า จากความแค้นกลายเป็นความสงสาร เพราะว่าเขาโดนตีจนร้องขอชีวิตอย่างที่เขาบอก แต่ก็ยังดีที่เขายอมบอกทุกอย่างแต่ตนเองก็ไม่ให้อภัย เพราะแค้นมาก ร้องไห้จนไม่อยากจะร้องเพราะมันร้องไม่ออก เนื่องจากร้องไห้มาทุกวันตั้งแต่ที่เขาหายไป แต่แค้นมากกว่าว่าทำไมต้อนทำกันถึงขนาดนี้ และเมื่อวานที่พบศพผู้ตายตนเองก็บอกลูกว่าเจอศพพ่อแล้ว เมื่อวานหลังจากที่กลับมาจากจุดที่พบศพตนก็กลับมาอาบน้ำแต่ก็ยังมีกลิ่นยังติดมืออยู่
ส่วนนายโอ และผู้ที่ยังหลบหนีตนก็อยากให้มามอบตัว เพราะตอนนี้น่าจะรู้ข่าวกันทุกคนแล้วขอให้มามอบตัว เพราะทุกคนอยากให้เจ้าหน้าที่ตำรวจวิสามัญอย่างเดียว แต่ไม่อยากให้บาปติดตัวผู้ตายไป ตนก็อยากจะบอกผู้ตายว่า ตนเองจะดูแลครอบครัวและลูกของเขาให้ดีที่สุด เหมือนกับที่เขารักลูกในตอนที่ยังมีชีวิตอยู่ ตนขอสัญญาว่าจะไม่ทิ้งลูกแน่นอนถึงเขาจะไม่อยู่กับเราแล้ว ส่วนในเรื่องคดีก็ขอให้เป็นหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจ
หลังจากนั้นพ่อผู้ตายพร้อมด้วยญาติได้เดินทางไปรับศพผู้ตายที่สถาบันนิติเวชโรงพยาบาลตำรวจ เพื่อนำกลับมาตั้งบำเพ็ญกุศลที่วัดบางโฉลงนอก แต่ยังไม่รู้ว่าจะตั้งสวดกี่วัน
**********************
ภาพ/ข่าว สุรศักดิ์ คงสินธ์ / ธนวัต นาคขำ ผู้สื่อข่าวภูมิภาค สำนักข่าวทีนิวส์ จ.สมุทรปราการ