- 14 มี.ค. 2562
ตำรวจชุดสืบสวนสภ.เมืองกาฬสินธุ์ร่วมกับชุดสืบสวนตำรวจภูธรจังหวัดกาฬสินธุ์ตามรวบตัว “โอปอ”สาวถูกอุ้มเรียกค่าไถ่ ซึ่งเป็นผู้ต้องหาค้ายาเสพติดของศาลจังหวัดมหาสารคามและผู้ต้องหาหมายจับในข้อหาหลบหนีไประหว่างที่ถูกคุมขังตามอำนาจของเจ้าพนักงานผู้มีอำนาจสืบสวนคดีอาญา ของศาลจังหวัดกาฬสินธุ์ หลังหายตัวไปนานกว่า 8 เดือน สุดท้ายไปไม่รอดจนมุมตำรวจ
กรณี น.ส.ประภาพรรณ หรือ โอปอ อายุ 26 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดมหาสารคาม คดีค้ายาบ้า 4,000 เม็ด แต่เป็นผู้เสียหายในคดีเรียกค่าไถ่ซึ่งถูกคนร้าย 5 คน กระชากหัวอุ้มขึ้นรถเหตุเกิดหน้าจวนผู้ว่าราชการ จ.กาฬสินธุ์ เมื่อวันที่ 11 กรกฎาคม 2561 แต่ภายหลังที่ น.ส.ประภาพรรณฯ ผู้เสียหายคดีเรียกค่าไถ่รู้ว่าตนเองตกเป็นผู้ต้องหาคดีค้ายาบ้าด้วย จึงเข้าพบผู้ว่าราชการจังหวัดกาฬสินธุ์ พร้อมนำเอกสารหลักฐานอ้างว่ามีเจ้าหน้าที่เอี่ยวยาเสพติดไปมอบให้กับศูนย์ดำรงธรรมกาฬสินธุ์ แต่หลังจากให้ข้อมูล น.ส.ประภาพรรณ ผู้ต้องหากลับหลบหนีและหายตัวไป
ล่าสุดเมื่อเวลา 10.00 น.วันที่ 14 มีนาคม 2562 ที่ห้องประชุมชัยสุนทรตำรวจภูธรจังหวัดภูธร จ.กาฬสินธุ์ พล.ต.ต.ทินณะรัตน์ เพ็ชรพันธ์ศรี ผบก.ภ.จว.กาฬสินธุ์ พ.ต.ท.สุเทพ ภูกัณหา รองผกก.(สอบสวน) รรท.ผกก.สภ.เมืองกาฬสินธุ์ พ.ต.อ.ธีรพัฒน์ ธารีไทย ผกก.สืบสวน ภ.จว.กาฬสินธุ์ ผกก.สืบสวนภ.จว.กาฬสินธุ์ พ.ต.ท.วิเชียร ศรีจันทร์ รองผกก.(สืบสวน) สภ.เมืองกาฬสินธุ์ พ.ต.ท.ปรัชญา ต้นกันยา สว.สส.สภ.เมืองกาฬสินธุ์ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน สภ.เมืองกาฬสินธุ์และชุดสืบสวนภ.จว.กาฬสินธุ์ร่วมกันแถลงผลการจับกุมตัวนางสาวประภาพรรณ ภูอุทา หรือโอปอ อายุ 26 ปี อยู่บ้านเลขที่ 52 ม.4 ต.นาเชือก อ.เมือง จ.กาฬสินธุ์ ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดกาฬสินธุ์ที่ จ.251/2561 ลง 20 ก.ค.2561 ข้อหาหลบหนีไประหว่างที่ถูกคุมขังตามอำนาจของเจ้าพนักงานผู้มีอำนาจสืบสวนคดีอาญา และหมายจับศาลจังหวัดมหาสารคามที่ จ.164/2561 ลง 21 ส.ค.2561 ข้อหาร่วมกันมียาเสพติดให้โทษประเภท 1(ยาบ้า)ไว้ในความครอบครองโดยผิดกฎหมาย โดยเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนสภ.เมืองกาฬสินธุ์ นำโดย ร.ต.อ.อมร เดชศรี รองสว.สส.สภ.เมืองกาฬสินธุ์สามารถจับกุมตัวได้ที่บริเวณหน้าบ้านเลขที่ 69 ม.4 ต.นาเชือก อ.ยางตลาด จ.กาฬสินธุ์ ขณะที่ผู้ต้องหากลับมาที่บ้านเมื่อช่วงคืนวันที่ 13 มีนาคมที่ผ่านมา
พล.ต.ต.ทินณะรัตน์ เพ็ชรพันธ์ศรี ผบก.ภ.จว.กาฬสินธุ์ เปิดเผยว่า สำหรับนางสาวประภาพรรณ ภูอุทา หรือโอปอ เป็นผู้เสียหายในคดีคนร้ายขับรถปาดหน้าแล้วฉุดขึ้นรถไปเรียกค่าไถ่ ที่บริเวณหน้าจวนผู้ว่าในเขตเทศบาลเมืองกาฬสินธุ์ เมื่อวันที่ 10 กรกฎาคม 2561 โดยเจ้าหน้าที่ทำการจับกุมผู้ก่อเหตุได้ 5 คนซึ่งจากการสอบสวนพบว่าไม่ใช่การเรียกค่าไถ่แต่เป็นการทวงหนี้ที่ติดค้างกัน จากนั้นเมื่อวันที่ 11 กรกฎาคม 2561 ตำรวจได้จับกุมตัวนายบรรณวิทย์ หรือกระทิง กนกหงส์ พร้อมของกลางยาบ้า 4 ,000 เม็ด ที่ห้องพักแห่งหนึ่งใน อ.เมือง จ.มหาสารคม ซึ่งจากการสืบสวนขยายผลทราบว่านางสาวประภาพรรณ หรือโอปอ ภูอุทา ซึ่งเป็นเพื่อนสาวคนสนิทของนายบรรวิทย์ เป็นผู้ที่เปิดห้องพักดังกล่าวไว้และมีส่วนร่วมในการกระทำความผิดจึงได้รวบรวมพยานหลักฐานขออนุมัติหมายจับจากศาลจังหวัดมหาสารคามในข้อหาร่วมกันมียาเสพติดให้โทษประเภท 1(ยาบ้า)ไว้ในความครอบครองโดยผิดกฎหมาย
จากนั้นเมื่อวันที่ 18 กรกฎาคม 2561 เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สภ.เมืองกาฬสินธุ์ และตำรวจชุดสืบสวนตำรวจภูธร จ.กาฬสินธุ์ ได้จับกุมตัวนางสาวประภาพรรณ หลังจากเดินทางไปขอความเป็นธรรมกับศูนย์ดำรงธรรม จ.กาฬสินธุ์ โดยอ้างว่าไม่ได้รับความเป็นธรรมและมีเจ้าหน้าที่เอี่ยวด้วย แต่ในระหว่างขั้นตอนจะนำตัวส่งไปยังพนักงานสอบสวน สภ.มหาสารคาม นางสาวประภาพรรณ ได้ฉวยโอกาสหลบหนีไป ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ได้ส่งชุดออกติดตามหาตัวทั้งในตัวจังหวัด ต่างจังหวัด และประเทศฝั่งเพื่อนบ้าน แต่ก็ยังไม่พบว่าน.ส.ประภาพรรณ ได้ไปหลบซ่อนตัวอยู่ที่ใด แต่เจ้าหน้าที่ก็ยังติดตามอย่างต่อเนื่อง กระทั่งผ่านไปประมาณ 8 เดือนแล้ว โดยทราบว่านางสาวโอปอได้ปล่อยข่าวลวงว่าได้อยู่นอกประเทศแต่แท้ที่จริงแล้วได้หลบหนีอยู่ในพื้นที่
พล.ต.ต.ทินณะรัตน์ กล่าวต่อว่า กระทั่งล่าสุดเมื่อช่วงเย็นของวันที่ 13 มีนาคม 2562 ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สภ.เมืองกาฬสินธุ์ ได้รับแจ้งจากสายข่าวว่าน.ส.ประภาพรรณ ได้เดินทางกลับมาที่บ้าน ทางเจ้าหน้าที่จึงลงพื้นที่ดักซุ่มจนมั่นใจว่าเป็นนางสาวโอปอ จากนั้นทางเจ้าหน้าที่ได้เข้าทำการควบคุมตัวได้ดังกล่าว และนำตัวส่งพนักงานสอบสวนเพื่อดำเนินคดี
โดยจากการสอบถามเบื้องต้นทราบว่าผู้ต้องหาได้หลบหนีอยู่ภายในประเทศไม่ได้หลบหนีออกนอกประเทศ โดยช่วงที่หลบหนีจากเจ้าหน้าที่ตำรวจได้รอโอกาสตำรวจเผลอได้เดินแอบหลบหนีไป ส่วนกรณีที่ตกเป็นผู้เสียหายในการถูกลักพาตัวไป ก็ต้องสอบสวนดำเนินคดีต่อไป ต้องแยกเป็นสองคดี คือเรื่องของการลักพาตัว และเรื่องของยาเสพติด เป็นเรื่องต่างกรรมต่างวาระ ทั้งนี้ส่วนกรณีที่นางสาวประภาพรรณ ไปร้องกับศูนย์ดำรงธรรมและอ้างว่ามีเจ้าหน้าที่ตำรวจมีส่วนเกี่ยวข้องนั้น ขณะนี้ได้ตรวจสอบแล้วไม่พบว่ามีเจ้าหน้าที่เข้าไปเกี่ยวข้อง เป็นเพียงการกล่าวอ้างเท่านั้น เนื่องจากตนเองตกเป็นผู้ต้องหา โดยหลังจากนี้ทางเจ้าหน้าที่จะได้นำตัวผู้ต้องหาไปฝากขังที่ศาลจังหวัดกาฬสินธุ์ และตำรวจได้คัดค้านการประกันตัว เนื่องจากมีพฤติกรรมหลบหนี และจะได้แจ้งกลับไปที่ สภ.เมืองมหาสารคามต่อไป
ด้านพ.ต.ท.สุเทพ ภูกัณหา รองผกก.(สอบสวน) รรท.ผกก.สภ.เมืองกาฬสินธุ์ กล่าวว่า สำหรับความคืบหน้าคดีเรียกค่าไถ่นั้นขณะนี้พนักงานสอบสวนได้สอบปากคำผู้ต้องหาทั้ง 5 คนแล้ว และพยานไปบางส่วน ซึ่งยังเหลือการสอบปากคำผู้เสียหาย คือนางสาวประภาพรรณ เนื่องจากหลบหนีและตำรวจพึ่งจะติดตามตัวได้ ดังนั้นเจ้าหน้าที่จะดำเนินการสอบปากคำและรวบพยานหลักฐานก่อนที่จะสรุปสำนวนส่งให้กับอัยการจังหวัดต่อไป
ชมพิศ ปิ่นเมือง ผู้สื่อข่าวภูมิภาคสำนักข่าวทีนิวส์จ.กาฬสินธุ์