- 19 มี.ค. 2562
เตือนภัย หลอกตุ๋นหวยยังมีอีก ล่าสุดโผล่เพิ่ม 4 รายเหยื่อแก๊งตุ๋นใบ้หวยตระเวนหลอกชาวบ้าน
โผล่ขึ้นอีกเหยื่อแก๊งหลอกตุ๋นใบ้หวย หลังตระเวนหลอกจะให้ใบ้หวยแม่นๆ แก่ชาวบ้านโดยเฉพาะคนแก่ใน 2 อำเภอเซกาและอำเภอบึงโขงหลงต่างสูญเงินไปแล้ว 4 ราย ล่าสุดพบอีก 4 รายใหม่ยอมลงทุนเข้าไปทำพิธีถึงในถ้ำบนภูเขาลังกา เห็นข่าวผ่านสื่อมีคนถูกหลอกโร่เข้าแจ้งความรวมสูญเงินไปแล้วกว่า 300,000 บาท
เรื่องราวของการถูกหลอกซ้ำซากรายนี้เปิดเผยขึ้นเมื่อเวลา 08:30 วันที่ 19 มี.ค.ร.ต.อ.สนิท คำชมภู รอง.สว.(สอบสวน) สภ.บึงโขงหลง อ.บึงโขงหลง จ.บึงกาฬ ปฏิบัติหน้าที่อยู่บนโรงพักได้มี นางทองบาง พิมมาลา อายุ 69 ปีบ้านเลขที่ 58 หมู่ที่ 1 บ้านต้อง ต.บ้านต้อง อ.เซกา และนางปราณี ศรีสุข อายุ 66 ปี น้องสาววัยไร่เรี่ยกันอยู่บ้านเลขที่ 74 หมู่ 1 บ้านเดียวกัน พร้อมด้วยเพื่อนบ้านอีก 2 คนคือนางเอและนางบีนามสมมติ สองแม่ลูกซึ่งบ้านเปิดเป็นร้านค้าขายในหมู่บ้านเดียวกัน โดยสองแม่ลูกไม่ประสงค์จะตกเป็นข่าวได้ขอร้องไม่ให้ผู้สื่อข่าวบันทึกภาพ พากันเข้าแจ้งความร้องทุกข์ว่าถูกแก๊งตุ๋นใบหวย 5 คนซึ่งเป็นชาย 3 คนหญิง 1 คนแต่งตัวภูมิฐานมีฐานะประดับสร้อยแหวนเต็มคอเต็มแขนอีกคนแต่งตัวห่มเหลืองคล้ายพระสงฆ์ เข้าหลอกพวกตนในหมู่บ้านว่าถ้าใครมีธนบัตรฉบับละ 10 บาทสมัยเก่าสามารถนำเอาไปทำหวยได้ซึ่งเคยถูกมาแล้วหลายงวดทำให้พวกตนหลงเชื่อเหตุเกิดเมื่อวันที่ 15 มี.ค.ผ่านมา
นางทองบางได้แฉถึงพฤติการณ์กลลวงแก๊งวายร้ายกลุ่มนี้ว่า เมื่อเช้าวันที่ 15 มี.ค.คนร้ายกลุ่มนี้ 1 ในจำนวน 5 คนซึ่งเป็นหญิงที่เรียกชื่อตัวเองว่า”พร” ได้ขับรถเก๋งสีขาวมาจอดที่หน้าบ้านและเดินมาถามตนว่ามีธนบัตรฉบับละ 10 บาทหรือไม่ ตนจึงบอกไปว่ามีอยู่หลายฉบับ นางพรจึงบอกว่าถ้ามีจะสามารถเอาไปทำหวยได้แม่นๆ เคยถูกมาแล้วหลายงวด จากนั้นได้พูดหว่านล้อมให้พวกตนให้นำเงินมาลงขันใส่ในบาตรพระ ใครลงทุนมากจะถูกมากอย่างน้อยต้องคนละ 10,000 บาทขึ้นไป จากนี้ได้ขับรถพาพวกตนนำธนบัตร 10 บาทอ้างว่าจะพาไปหาพระอาจารย์ที่อยู่ในถ้ำภายในวัดถ้ำเกีย(ผาค้างคาว) บนภูลังกา พื้นที่ ต.โพธิ์หมากแข้ง อ.บึงโขงหลงเพื่อทำพิธีขอหวยจากเจ้าที่ โดยมีผู้ชายอีก 3 คนขับรถเก๋งสีดำมาสมทบ ซึงก็มีนางเอและนางบีสองแม่ลูกเข้ามาเป็นเหยื่อด้วย เมื่อขับรถไปถึงวัดก็เดินเท้าขึ้นเนินเขาภูลังกาอีกประมาณ 300 เมตรก็ถึงถ้ำ
โดยชาย 1 ใน 4 คนร้ายได้พยายามเร่งเร้าให้เดินเร็วๆ เพราะพระอาจารย์รออยู่นานแล้ว ส่วนชายคนเดิมนั้นก็ได้ยืนพูดคุยอยู่กับเจ้าอาวาสวัด คล้ายกับถ่วงเวลาและกันเจ้าอาวาสไม่ให้ขึ้นไปดูหรือรู้เห็นวิธีการต้มตุ๋น เมื่อขึ้นไปถึงถ้ำพบพระรูปร่างผอมสูงท่าทางเคร่งขรึมนั่งรออยู่และบอกญาติโยมให้รีบๆ ทำพิธีเดี๋ยวจะไปซื้อหวยไม่ทัน จากนั้นนางพรซึ่งดูจะเหมือนเป็นนางนกต่อได้ควักเงินออกมานับได้ 90,000 บาทใส่ลงไปในบาตรเป็นคนแรกจากนั้นได้บอกพวกตนให้นำเงินออกมาใครลงทุนซื้อมากจะได้เงินมากตนนำเงินใส่บาตร 22,000 บาทนางปราณีน้องสาว 10,000 บาท ส่วนนางเอ 70,000 บาทนางบีลูกสาว 60,000 บาท หลังจากปิดฝาบาตรพระก็เริ่มทำพิธีขอหวยจากเจ้าที่ใช้เวลาอยู่ประมาณ 30 นาทีก็บอกว่าเจ้าที่ให้หวยมาแล้วคือ “49” นางพรก็ได้รวบรวมเงินในบาตรซึ่งเป็นเงินของพวกตน 4 คน 162,000 บาทอ้างว่าจะนำไปซื้อหวยกับเจ้ามือที่รู้จักกันรับประกันเมื่อถูกหวยจะได้เงินครบไม่เบี้ยว และรับกันว่าถูกแน่นอน หลังทราบผลหวยออกแล้วให้มาเจอกันที่วัดถ้ำผาเกียแห่งนี้ ห้ามนำเรื่องนี้ไปบอกใครแม้แต่ญาติ ให้ซื่อสัตย์ต่อกัน
นางทองบางเล่าต่อไปว่าเช้าวันที่ 16 มี.ค.ได้โทรศัพท์ติดต่อไปหานางพรจะถามว่าซื้อหวยได้ไหม พยายามติดต่อหลายครั้งก็ไม่ได้จึงเริ่มเอะใจว่าจะถูกหลอก พอตกตอนเย็นหลังหวยออกก็รู้ว่าไม่ถูก จึงมาตามนัดเพื่อจะมาทวงเงินคืน เพราะนางพร นางนกต่อบอกว่าถ้าไม่ถูกหวยจะจ่ายเงินคืนให้ 3 เท่า ก็ไม่เห็นหน้าแก๊งคนร้ายนี้สักคนพบเพียงชาวอำเภอบ้านแพง จ.นครพนมที่ถูกหลอกเช่นกันรู้ว่าไม่ถูกหวยจะมาตามเอาเงินคืนเหมือนกัน เมื่อเห็นข่าวในสื่อจึงรู้ว่าคนถูกหลอกหลายคนได้ปรึกษาญาติพี่น้องแล้วเดินทางมาแจ้งความร้องทุกข์ดังกล่าว
ด้าน พ.ต.อ.สำเภา อินดี ผกก.สภ.บึงโขงหลง ซึ่งพึ่งเดินทางมารับตำแหน่งใหม่ได้ฝากเตือนประชาชนให้ระมัดระวังแก๊งมิจฉาชีพกลุ่มนี้ ที่หลอกตุ๋นชาวบ้าน 3 วันติดต่อกันว่าสามารถนำธนบัตรฉบับละ 10 บาทรุ่นเก่ามาทำใบ้หวยได้ ซึ่งก่อนหน้าที่วันที่ 13-14 ในท้องที่ สภ.เซกา จ.บึงกาฬ ก็ถูกหลอกมา 3 รายสูญเงินไปร่วม 200,000 บาท ซึ่งคนร้ายแก๊งนี้มีด้วยกัน 4-5 คนโดยที่แต่งตัวเป็นพระสงฆ์จะโกนผมตลอดแต่สวมหมวกไหมพรหมทับเอาไว้ เอาจีวรพระใส่กระเป๋าสะพายติดตัวไป เพื่อนุ่งห่มปลอมเป็นพระรออยู่ในที่นัดหมายเช่นวัดหรือถ้ำให้ดูน่าเชื่อถือ โดยใช้รถเก๋งยี่ห้อฮอนด้าฟรีด สีขาวและรถเก๋งสีดำไม่ทราบยี่ห้อและทะเบียนเป็นยานพาหนะ โดยเลือกเหยื่อเป็นร้านค้าในหมู่บ้านและผู้สูงอายุที่ดูเป็นคนมีฐานะเช่นดูบ้านดูรถที่จอดอยู่ในบ้าและอยู่บ้านคนเดียวเป็นหลัก ขณะนี้กำลังประสานกันกับ สภ.เซกา รวบรวมพยานหลักฐานเพื่อออกหมายจับคนร้ายกลุ่มนี้ที่เชื่อว่าเป็นกลุ่มเดียวกันที่ออกอาละวาดเมื่อช่วงวันที่ 13-15 มี.ค.ผ่านมา เพื่อมาดำเนินคดีต่อไป.
นิธิศักดิ์ เศรษฐแสงศรี ผู้สื่อข่าวภูมิภาค สำนักข่าวทีนิวส์ จ.บึงกาฬ