- 22 มี.ค. 2562
ใจร้ายทิ้งเด็กน้อยเพศหญิงในสวนยางพาราสตูล!!!! สุดสะเทือนใจ ทารกน้อยถูกทิ้ง!!!! รพ.สตูลช่วยดูแลก่อนส่งสถานสงเคราะห์เด็กบ้านสงขลา
วันที่ 21 มีนาคม 2562 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากภาพสุดสะเทือนใจ ทารกน้อยถูกทิ้งมี การแชร์ว่อนโซเชียล ผู้สื่อข่าวตรวจสอบพบมีการแจ้งนำส่งโรงพยาบาล วันที่ 21 มีนาคม 2562 ที่หออภิบาลผู้ป่วยทารกวิกฤต (ในโรงพยาบาลสตูล) ตำบลพิมาน อำเภอเมือง จ.สตูล มีทารกเพศหญิงอยู่ภายใต้การดูแลของแพทย์ หลังทางโรงพยาบาลสตูลไปรับเด็กทารกที่โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลบ้านปาเต๊ะ ตำบลเจ๊ะบิลัง อำเภอเมือง จังหวัดสตูล
ทางแพทย์หญิงวันทนา ไทรงาม ผู้อำนวยการโรงพยาบาลสตูล กล่าวว่า มีพลเมืองดีได้โทรมาแจ้งที่โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลโดยพบเห็นเด็กถูกทอดทิ้งอยู่ที่สวนยางในพื้นที่ตำบลเจ๊ะบิลัง หลังจากนั้น ทางโรงพยาบาลได้ออกไปรับ มาถึงห้องฉุกเฉินประมาณเวลา 15.40 น ในส่วนของแรกรับที่ห้องฉุกเฉินพบว่าเด็กน้ำหนักประมาณ 2,040 กรัม ระบบการหายใจดีความดันอยู่ในเกณฑ์ปกติแต่ที่มีปัญหาคือเรื่องของอุณหภูมิต่ำทางโรงพยาบาลได้มีการดูแลเรื่องอุณหภูมิให้อยู่ในเกณฑ์ปกติในส่วนของอื่นๆที่ต้องตรวจคือตรวจเลือดเพื่อดูการติดเชื้อหรือไม่ในส่วนของการรักษาก็จะใช้ยาป้องกันบาดทะยักยาฆ่าเชื้อและเฝ้าระวังเรื่องระบบการหายใจ ในส่วนของการดูแลเรื่องการให้น้ำเกลือคิดว่าถ้าคุณภูมิปกติแล้วน่าจะออกจากโรงพยาบาลได้ภายในไม่กี่วัน โดยทางโรงพยาบาลจะดูแลน้องจนครบ 3 เดือน หลังจากนั่นจะเป็นความดูแลของสถานสงเคราะห์เด็กบ้านสงขลา
ตอนนี้ยังไม่ทราบว่าบิดามารดาของเด็กเป็นใคร ได้แจ้งทางบ้านพักฉุกเฉินให้ดูแลแล้วในส่วนของบิดามารดาก็ต้องไปสืบสวนสอบสวนต่อไป สำหรับอายุครรภ์ของน้องเท่าที่ตรวจประเมินเบื้องต้นประมาณ 36 สัปดาห์ซึ่งถ้าครบกำหนดคือ 37 สัปดาห์ก็ถือว่าใกล้ครบกำหนดแล้วเท่าที่ดูก็คือเด็กอยู่ในเกณฑ์ใกล้เคียงที่จะสามารถคลอดได้ เพียงแต่น้ำหนักน้อยจากสภาพที่ดูคิดว่า น่าจะคลอดเอง หากไปคลอดที่โรงพยาบาลน่าจะพบร่องรอยของการตัดสายสะดือแต่เท่าที่พบคือสายสะดือยาวไม่ได้ผูก ในส่วนของโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลก็ได้ผูกไว้เบื้องต้นแล้ว ทางโรงพยาบาลก็ได้มาตัดสายสะดือที่โรงพยาบาลอีกครั้ง โอกาสนี้ทางผู้อำนวยการโรงพยาบาลสตูลฝากถึงวัยรุ่นว่า เรื่องเพศสัมพันธ์นั้นห้ามไม่ได้ แต่สิ่งที่สำคัญเราต้องมีความรู้ที่จะป้องกันการตั้งครรภ์ ต้องมีการใส่ถุงยางเวลามีเพศสัมพันธ์ หากเป็นไปได้ยังไม่ถึงวัยอันควรก็ต้องหลีกเลี่ยงไปก่อน หากมีการตั้งครรภ์แล้วก็ควรต้องรีบมาฝากครรภ์ก็จะปลอดภัยทั้งแม่และลูก สำหรับผู้ที่พบเด็กทารกในลักษณะนี้สิ่งที่สำคัญก็คือให้ดูว่าโรงพยาบาล ส่งเสริมสุขภาพตำบลที่ใกล้ที่สุด อยู่ที่ตรงไหนตรงนั้นก็สามารถที่จะช่วยเหลือเบื้องต้นได้ อันที่ 2 คือหากอยู่ในพื้นที่ไกลให้โทร ระหว่างทางก็ควรจะมีการห่อเด็กให้เด็กอบอุ่นที่สุดเพราะหากเด็กมีอุณหภูมิต่ำก็อาจจะมีการหยุดหายใจ
นายเอนก ขันทสิกรรม ผู้สื่อข่าวสำนักข่าวทีนิวส์จังหวัดสตูลรายงาน