ตัดสินแล้ว "โฟร์ สีมา" ก่อนลดโทษเหลือจำคุกตลอดชีวิต

ศาลตัดสิน "โฟร์ สีมา" คดีชิงทรัพย์ยาย-หลานวัย 11 ปีดับ ก่อนลดโทษเหลือจำคุกตลอดชีวิต

วันที่ 28 มี.ค.2562 ผู้สื่อข่าวรายงานว่าจากกรณีมีคนร้ายก่อเหตุฆ่าชิงทรัพย์นางสนม เกสร อายุ56ปีกับ ด.ช.อรรถโกวิทย์ มณฑาจันทร์ อายุ11ขวบเหตุเกิดที่บ้านเลขที่ 7/23 หมู่ 3 ต.หนองไขว่ อ.หล่มสัก จ.เพชรบูรณ์ หลังก่อเหตุคนร้ายได้ชิงสร้อยคอทองคำหนัก 1 บาทและโทรศัพท์มือถือ 1 เครื่องไปด้วย เหตุเกิดเมื่อวันที่ 25 ก.ค.2561 ที่ผ่านมา ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถจับกุมตัวผู้ก่อเหตุได้คือนายวัชรพล หรือโฟร์ สีมา อายุ 20 ปี อยู่บ้านเลขที่ 107 หมู่ 2 บ้านน้ำก้อหัวขัว ต.หนองไขว่ อ.หล่มสัก จ.เพชรบูรณ์ ซึ่งได้ให้การรับสารภาพว่าก่อนก่อเหตุช่วงบ่ายวันที่ 24 ก.ค.2561 ตนได้ไปหาเพื่อนรุ่นพี่ที่ตลาดขายส่งผักสี่แยกพ่อขุนผาเมืองหลังจากนั้นจึงได้ร่วมกันเสพยาบ้าด้วยกันจนกระทั่งค่ำได้ขอยืมรถจักรยานพร้อมไขควงของเพื่อนรุ่นพี่เพื่อจะนำไปซ่อมรถจักรยานยนต์ของตนเองที่จอดเสียอยู่ที่บ้านพัก จากนั้นจึงปั่นจักรยานผ่านมาที่หน้าบ้านนางสนมและและเห็นว่าไม่มีคนอยู่ กระทั่งดึกจึงเดินขึ้นไปบนบ้านโดยใช้ไขควงงัดขอบอลูมีเนียม และถอดกระจกข้างประตูหน้าบ้านปลดล๊อดกลอนประตู จากนั้นเข้าไปในบ้านเพื่อขโมยทรัพย์สินขณะค้นหาทรัพย์สินอยู่นั้น นางสนม ตื่นขึ้นมาเปิดไฟพอดี โดยนางสนมได้ตะโกนถามว่าเข้ามาในบ้านทำไม ตนจึงกระโดดเข้าไปใช้มือปิดปากนางสนมเอาไว้ไม่ให้ตะโกน แต่ก็ถูกนางสนมกัดมือจนเป็นรอยแผลที่ในฝ่ามือขวา

 

ตัดสินแล้ว \"โฟร์ สีมา\" ก่อนลดโทษเหลือจำคุกตลอดชีวิต

 

ขณะเดียว ด.ช.อรรถโกวิทย์ที่นอนอยู่ในห้องนอนได้ยินเสียงต่อสู้กันจึงตื่นและวิ่งไปนำมีดมาถือไว้ในมือ พร้อมใช้เก้าอี้พลาสติกฟาดฟาดใส่ตนจนเก้าอี้หัก ตนจึงหันไปแย่งมีดจากเด็กชายอรรถโกวิทย์ เมื่อแย่งมีดได้จึงกระหน่ำฟันและแทงจนด.ช.อรรถโกวิทย์ ล้มลง ส่วนนางสนมได้ดึงกระชากผมของตนเองจากด้านหลัง แต่เมื่อเห็นหลานชายถูกแทงจนล้มฟุบจึงวิ่งไปที่หน้าบ้านเพื่อจะเปิดประตูเรียกคนช่วย ตนจึงตามไปจ้วงแทงนางสนมแบบไม่ยั้งมือเพื่อเป็นการฆ่าปิดปาก เนื่องจากนางสนมและหลานชายรู้จักตนเองเป็นอย่างดี หลังจากนางสนมล้มฟุบลงตนจึงคว้าสร้อยคอจากคอนางสนมและหยิบโทรศัพท์มือถือ ของเด็กชายอรรถโกวิทย์ติดมือไปด้วย ก่อนกระโดดหนีทางหน้าต่างหลังบ้านและขี่จักรยานหลบหนีข้ามลำคลองแต่น้ำเชี่ยวทำให้จักรยาน,สร้อยคอทองคำและโทรศัพท์มือถือจมน้ำหายไป ภายหลังหนีกลับเข้าไปบ้านและทำตัวปกติเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น จนกระทั่งถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจจับได้ดังกล่าว

 

ตัดสินแล้ว \"โฟร์ สีมา\" ก่อนลดโทษเหลือจำคุกตลอดชีวิต

 

ต่อมาเวลา 09.00 น.วันที่ 28 มี.ค.2562 ที่ห้องพิจารณาคดีที่ 3 ศาลจังหวัดหล่มสัก ผู้พิพากษาได้ออกพิจารณาคดีดังกล่าวโดยมีนางพรพภา มณฑาจันทร์ ซึ่งเป็นลูกสาวของนางสนม เกสร และเป็นแม่ของด.ช.อรรถโกวิทย์ มณฑาจันทร์ ในฐานะโจทก์ร่วมพร้อมด้วยน้องสาวและน้องชายเข้าร่วมฟังคำพิพากษา โดยมีตัวแทนญาติของฝ่ายจำเลยเข้าร่วมฟังด้วย 1 คน ทั้งนี้ศาลได้พิจารณาและพิพากษาให้ประหารชีวิตนายวัชรพล หรือโฟร์ สีมา แต่ผู้ต้องหาให่การรับสารภาพจึงลดโทษให้เหลือจำคุกตลอดชีวิต พร้อมทั้งชดเชยค่าเสียหายให้แก่โจทก์เป็นจำนวนเงินกว่า 600,000 บาท

โดยหลังจากฟังคำพิพากษานางพรนภา มณฑาจันทร์ เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่าต้องขอขอบคุณศาลที่ได้ลงโทษผู้ที่ฆ่าแม่และลูกชายของตนเองให้ประหารชีวิตและการที่ศาลได้ลดโทษให้จำคุกตลอดชีวิตตนก็เห็นว่าเป็นการสมควรแล้วที่ผู้ก่อเหตุจะต้องได้ชดใช้กรรมในเรือนจำต่อไป ซึ่งถ้าหากดวงวิญญาณแม่รับรู้ได้ก็คงไม่อยากให้มีการประหารชีวิตเพราะจะเป็นเวรกรรมต่อกันไปในชาติหน้า

 

ตัดสินแล้ว \"โฟร์ สีมา\" ก่อนลดโทษเหลือจำคุกตลอดชีวิต

 

อารีย์ สีแก้ว ผู้สื่อข่าวภูมิภาค สำนักข่าวทีนิวส์เพชรบูรณ์