- 14 เม.ย. 2562
หนุ่มเมืองเหนือพาแฟนสาวขับรถเก๋งจากเพชรบูรณ์ จะมุ่งหน้ากลับบ้านแฟนสาว ที่จ.ศรีสะเกษ ไม่คุ้นเคยเส้นทาง พอมาถึงบริเวณบ้านไผ่ ต.ไผ่ อ.รัตนบุรี จ.สุรินทร์ ซึ่งบริเวณนี้ไม่มีไฟฟ้าส่องสว่างข้างทางและมืด ได้มีรถไถเดินตามขับพุ่งขึ้นมาจากข้างทางในระยะกระชั้นชิด จึงชนเข้าเต็มลำ ทำให้คนขับรถไถกระเด็นไปไหลเกือบ 20 เมตรและตกลงข้างทางเสียชีวิตคาที่
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 20.30 น. วันที่ 13 เม.ย. 62 ที่ผ่านมา ร.ต.อ.พงษ์พิทักษ์ ประณมศรี รอง สว. (สอบสวน) สภ.รัตนบุรี อ.รัตนบุรี จ.สุรินทร์ ได้รับแจ้งว่ามีอุบัติเหตุรถเก๋งชนกับรถไถนาเดินตาม ทำให้มีผู้เสียชีวิตในที่เกิดเหตุ ที่ถนนสายรัตนบุรี-ศรีสะเกษ บริเวณโค้งบ้านไผ่ ต.ไผ่ อ.รัตนบุรี จึงพร้อมด้วย พ.ต.อ.สัญชัย นิสัยพันธ์ ผกก.สภ.รัตนบุรี และหน่วยกู้ภัยฮุก31 จุดรัตนบุรี รีบรุดไปตรวจสอบยังที่เกิดเหตุ
เมื่อถึงที่เกิดเหตุ ซึ่งเป็นบริเวณทางโค้งและไม่มีไฟฟ้าส่องสว่างข้างทาง พบรถเก๋งยี่ห้อนิสสันสีดํา หมายเลขทะเบียน 7กณ 2608 กทม. จอดอยู่บนถนนในสภาพด้านหน้ารถพังยับเยิน และมีตู้ลำโพงกระจัดกระจายเต็มถนน ถัดออกไปประมาณ 20 เมตร พบรถไถนาเดินตามตกลงไปในร่องข้างถนนในสภาพพลิกตะแคงข้าง โดยมีร่างผู้เสียชีวิตอยู่ใกล้ๆกับรถไถ ทราบชื่อต่อมาคือ นายบุญยัง กองแก้ว อายุ 27 ปี อยู่บ้านเลขที่ 23 หมู่ที่ 1 ต.ไผ่ อ.รัตนบุรี จ.สุรินทร์
จากการสอบถามญาติและชาวบ้านทราบว่า ในวันนี้ผู้เสียชีวิตได้นำเครื่องเสียงมาเปิดเล่นน้ำสงกรานต์ที่บ้านเพื่อนซึ่งอยู่ติดถนนตั้งแต่เช้า จนฝนตกจึงแยกย้ายกับกลับบ้าน แต่พอฝนหยุดตกผู้เสียชีวิตก็ได้ขับรถไถนาต่อพวงมาเก็บเครื่องเสียงกลับบ้านคนเดียว ซึ่งในบริเวณที่เกิดเหตุไม่มีไฟฟ้าส่องสว่างข้างทาง จึงทำให้ถูกรถชนจนเสียชีวิตดังกล่าว โดยชาวบ้านยังได้บอกอีกว่า ในบริเวณนี้มักจะเกิดอุบัติเหตุบ่อยครั้ง เนื่องจากมืดมากและไม่มีไฟข้างทาง
ด้านนายทัศนัย ธรรมโชติ อายุ 30 ปี อยู่บ้านเลขที่ 14 หมู่ที่ 7 ต.ตะกุดไร อ.ซนเดน จ. เพชรบูรณ์ ซึ่งเป็นผู้ขับขี่รถเก๋งคันที่เกิดเหตุ ก็ได้เล่าเหตุการณ์ให้ฟังว่า ตนขับรถเก๋งมาจาก จังหวัดเพชรบูรณ์ กำลังจะมุงหน้ากลับบ้านแฟนสาวที่จ.ศรีสะเกษ พอมาถึงที่เกิดเหตุซึ่งเป็นทางโค้ง และไม่มีไฟฟ้าส่องสว่างข้างทาง จู่ๆก็ได้มีรถไถนาเดินตามมีพ่วงท้ายพุ่งขึ้นมาจาก บริเวณข้างทางในระยะกระชั้นชิด ตนจึงเบรกและหักหลบไม่ทัน จึงได้ชนกับรถไถเต็มแรง จนมี ผู้เสียชีวิตดังกล่าว
ภายหลังจากที่ได้ทำการสอบปากคำพยานและผู้ขับขี่ เจ้าหน้าที่จึงได้ทำการบันทึกเพื่อรอให้กองพิสูจน์หลักฐาน มาทำการตรวจสอบสาเหตุที่แท้จริงอีกครั้ง เพื่อรวบรวมหลักฐานในการดำเนินคดีผู้ทำผิดต่อไป
ภาพ/ข่าว บุญเรือง เกษรจันทร์ ผู้สื่อข่าวภูมิภาค สำนักข่าวทีนิวส์ จ.สุรินทร์