- 21 เม.ย. 2562
ชาวสมุยขอให้ตรวจสอบมาสคอทตัวปลาหมึกยักษ์บนโขดหินในทะเล และการใช้งบไทยนิยมยั่งยืนมาสร้างศาลาที่พักรุกล้ำลำน้ำ ชี้เข้าข่ายความผิดตามพ.ร.บ.เดินเรือในน่านน้ำไทย(ฉบับที่17) พ.ศ.2560ฝากถึงหน่วยงานที่รับผิดชอบตรวจสอบความถูกต้อง
เมื่อวันที่ 21 เมษายน 2562 ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริงบริเวณปากร่องน้ำลำคลองเขย่า ชายหาดบ้านใต้ ม.5 ต.แม่น้ำ อ.เกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี หลังได้รับการร้องเรียนเข้ามาว่ามีกลุ่มบุคคลกลุ่มหนึ่งเข้ามาดำเนินการก่อสร้างศาลาที่พัก"ศาลาพ่อตาปากเหยา" และสร้างมาสคอทตัวปลาหมึกยักษ์บนพื้นที่เขื่อนกันคลื่นที่มาจากการขุดลอกปากร่องน้ำลำคลองเขย่า โดยที่ไม่ได้รับอนุญาตก่อสร้างและบดบังทัศนียภาพทางทะเล
จากการตรวจสอบพบศาลาที่พักทำจากไม้เสาคอนกรีตยกพื้นสูงลักษณะเป็นอาคารถาวร ขนาดกว้าง 5 เมตร ยาว 5 เมตร ด้านข้างมีแท็งค์เก็บน้ำ 2 ใบวางอยู่บนโครงสร้างที่จะสร้างห้องน้ำ ส่วนด้านหน้าศาลายังพบโต๊ะเก้าอี้คอนกรีตวางเรียงรายตามแนวอีก 22 ชุด และที่ส่วนปลายของเขื่อนกันคลื่นยังพบการก่อสร้างมาสคอทตัวปลาหมึกยักษ์ตั้งอยู่บนโขดหินในทะเลที่น้ำทะเลท่วมถึงตามที่ร้องมา
สอบถามชาวบ้านในพื้นที่ให้ข้อมูลว่า อาคารศาลาที่พักและมาสคอทตัวปลาหมึกยักษ์นั้นไม่มีการขออนุญาตปลูกสร้างให้ถูกต้องและไม่ได้รับความเห็นชอบจากชาวบ้านส่วนใหญ่ โดยมาสคอทตัวปลาหมึกยักษ์นี้ใช้เงินที่เรี่ยไรเงินจากชาวบ้านมาก่อสร้าง ส่วนศาลาพี่พักได้ใช้งบประมาณก่อสร้างจากการจัดสรรงบไทยนิยมยั่งยืนประจำปี พ.ศ.2561 มาสนับสนุม ซึ่งกลุ่มชาวบ้านเคลือบแคลงสงสัยว่าการใช้งบโครงการไทยนิยมยั่งยืนของหมู่ที่ 4,5 ตำบลแม่น้ำ จำนวน 4 ชุมชนนำเงินมารวมกันเพื่อสร้างอาคารศาลาเพียงหมู่บ้านแห่งเดียว และก็ไม่ได้สร้างแทนอาคารศาลาเดิมที่มีอยู่มาหลายสิบปีที่ห่างกัน 150 เมตรในชายหาดเดียวกัน ซึ่งชาวบ้านเชื่อว่าเป็นการก่อสร้างล่วงล้ำลำน้ำมีความผิดตามพระราชบัญญัติการเดินเรือในน่านน้ำไทย(ฉบับที่17) พ.ศ.2560ของกรมเจ้าท่า จึงอยากให้มีการตรวจสอบความถูกต้องในเรื่องดังกล่าว และการใช้งบประมาณไทยนิยมยั่งยืนประจำปีพ.ศ.2561 เข้าหลักเกณฑ์อย่างถูกต้องหรือไม่
จากแหล่งข่าวเปิดเผยอีกว่า พื้นที่บริเวณที่มีการรุกล้ำปลูกสร้างอาคารศาลาที่พักและมาสคอทตัวปลาหมึกยักษ์นั้น มีผู้ลงทุนเอกชนรายหนึ่งที่ได้รับอนุญาตปลูกสร้างสิ่งล่วงล้ำลำน้ำเพื่อพัฒนาเป็นท่าจอดเรือสำราญขนาดไม่เกิน 500 ตันกรอส และมีการดำเนินการปลูกสร้างพัฒนาเขื่อนคันทรายตามใบอนุญาตที่กรมเจ้าท่าได้เคยออกใบอนุญาตให้แล้วแต่การปลูกสร้างยังไม่แล้วเสร็จ ทั้งนี้โครงการท่าเทียบเรือสำราญอยู่ระหว่างดำเนินการเจรจากับแหล่งทุนกันเพื่อขอสนับสนุนการเงินมาลงทุน
ภาพ/ข่าว อัญชลีพร โย่งโต ผู้สื่อข่าวภูมิภาค สำนักข่าวทีนิวส์ จ.สุราษฎร์ธานี