แม่ทะเลาะกับลูก หลบมานอนกระท่อมร้างคนเดียว ไม่กินข้าวกินน้ำ ไร้คนสนใจ

วันนี้( 5 ก.ค.62)ผู้สื่อข่าวประจำ จ.สุรินทร์ ได้รับแจ้งจากนายบุญหลี ดีมาก อายุ 50 ปี อยู่บ้านเลขที่ 53 บ้านท่าลาด ตำบลศรีณรงค์ อำเภอชุมพลบุรี จังหวัดสุรินทร์  ว่าได้พบกับหญิงชรา ไม่ทราบชื่อสกุล สภาพอิดโรย ชีพจรอ่อนแรง ไม่รู้ว่าเป็นคนที่ไหน เนื่องจากไม่ได้รับประทานน้ำ และอาหารมา 1 วันเต็มๆ ประกอบกับมีโรคประจำตัว ในกระท่อมร้างปลายนาท้ายหมู่บ้าน  อ้างว้างอยู่เพียงคนเดียว ถูกยุงกันทั้งคืน จึงรุดลงพื้นที่ตรวจสอบ พร้อมประสานตามหาญาติ มารับตัว เพื่อนำตัวส่งโรงพยาบาลชุมพลบุรี เพื่อให้แพทย์ตรวจร่างกายต่อไป

 

แม่ทะเลาะกับลูก หลบมานอนกระท่อมร้างคนเดียว ไม่กินข้าวกินน้ำ ไร้คนสนใจ

แม่ทะเลาะกับลูก หลบมานอนกระท่อมร้างคนเดียว ไม่กินข้าวกินน้ำ ไร้คนสนใจ

 

แม่ทะเลาะกับลูก หลบมานอนกระท่อมร้างคนเดียว ไม่กินข้าวกินน้ำ ไร้คนสนใจ

 

นายบุญหลี ดีมาก อายุ 50 ปี ผู้พบเห็น เล่าว่า ปกติตนก็ไปนาตอนเช้าทุกวัน แต่เมื่อเช้าของวันนี้ ตนออกไปที่นาตั้งแต่เวลา 06.00 นก็ได้พบกับหญิงชรา มานอนในกระท่อมร้าง ซึ่งอยู่ติดกับที่นาของตนเอง ซึ่งก็ไม่รู้ว่า เป็นใคร มาจากที่ไหน เพราะดูอาการแล้วน่าจะมานอนตั้งแต่เมื่อคืนที่ผ่านมา ตนจึงรีบกลับมาแจ้งผู้ใหญ่บ้านให้ทราบ เพื่อจะเป็นคนในหมู่บ้าน อีกอย่างตนก็ไม่กล้าปลุก เพราะนึกว่าแกเสียชีวิตแล้วเลยไม่กล้า  ไม่รู้ว่าเป็นคนที่ไหน


แม่ทะเลาะกับลูก หลบมานอนกระท่อมร้างคนเดียว ไม่กินข้าวกินน้ำ ไร้คนสนใจ

 

แม่ทะเลาะกับลูก หลบมานอนกระท่อมร้างคนเดียว ไม่กินข้าวกินน้ำ ไร้คนสนใจ

 

แม่ทะเลาะกับลูก หลบมานอนกระท่อมร้างคนเดียว ไม่กินข้าวกินน้ำ ไร้คนสนใจ

 

หลังจากที่ชาวบ้านได้มากันเยอะจึงได้ทราบชื่อต่อมาภายหลัง คือ นางสาว ชัยนาม หรือ ยายสาว อายุ 69 ปีบ้านเลขที่ 53 บ้านหัวนาคำ หมู่ที่ 4 ตำบลกระเบื้อง อำเภอชุมพลบุรี จังหวัดสุรินทร์ จากการสอบถามคนในหมู่บ้านทราบว่า ช่วงเช้าของเมื่อวานนี้ ได้ยินเสียงทะเลาะกันกับลูกที่บ้าน แต่ก็ไม่รู้สาเหตุอะไรถึงทำให้ยายสาวได้เดินออกจากบ้านมาตั้งแต่ 09.00 นของเมื่อวาน และได้มานอนที่กระท่อมตั้งแต่เมื่อวาน ทั้งวันทั้งคืนยายสาว บอกว่า น้ำยังไม่ได้กิน ข้าวก็ยังไม่ได้กิน อีกอย่างยายก็มีโรคประจำตัวคือ เบาหวาน และความดัน จึงทำให้ยายมีอาการเหนื่อยล้า และอ่อนแรง ชาวบ้านที่พบเห็นเหตุการณ์จึงโทรศัพท์แจ้ง 1669 ให้มารับเพราะยายบ่นบอกว่า ปวดหัว อาจจะเป็นที่ยายแกไม่ได้นอนทั้งคืนและมุ้งก็ไม่ได้กางยุงน่าจะกัดทั้งคืน

 

แม่ทะเลาะกับลูก หลบมานอนกระท่อมร้างคนเดียว ไม่กินข้าวกินน้ำ ไร้คนสนใจ

 

แม่ทะเลาะกับลูก หลบมานอนกระท่อมร้างคนเดียว ไม่กินข้าวกินน้ำ ไร้คนสนใจ

 

แม่ทะเลาะกับลูก หลบมานอนกระท่อมร้างคนเดียว ไม่กินข้าวกินน้ำ ไร้คนสนใจ

ทำไมลูกถึงไม่แจ้งหรือว่าบอกญาติพี่น้องให้ไปตามหาจะโกรธจะเกลียดกัน อย่างไรนั่นก็คือแม่ถึงแม่จะเอาแต่ใจสติสตังไม่ค่อยดีนอนโดยที่ไม่มีมุ้งกางทั้งคืนไม่ได้กินข้าวมาถึง 3 เวลา ก็ยังดีที่ยายไม่เสียชีวิต นี่แหละเป็นอุทาหรณ์ว่า แม่มีแค่เพียงคนเดียว จะโกรธจะเกลียดอย่างไ รก็ขอให้นึกถึงบุญคุณพ่อแม่ที่เลี้ยงเรามาขนาด มีแต่ชาวบ้านมาดูแต่ไม่เห็นแม้ แต่ลูกของตัวเองมาเลยสักคน

ภาพ/ข่าว สำลี กิเลน ผู้สื่อข่าวสุรินทร์นิวส์

เรียบเรียง ธนินท์ทัศน์ ภูแก้ว ผู้สื่อข่าวภูมิภาคสำนักข่าวทีนิวส์ จ.สุรินทร์

หลังจากที่ชาวบ้านได้มากันเยอะจึงได้ทราบชื่อต่อมาภายหลัง คือ นางสาว ชัยนาม หรือ ยายสาว อายุ 69 ปีบ้านเลขที่ 53 บ้านหัวนาคำ หมู่ที่ 4 ตำบลกระเบื้อง อำเภอชุมพลบุรี จังหวัดสุรินทร์ จากการสอบถามคนในหมู่บ้านทราบว่า ช่วงเช้าของเมื่อวานนี้ ได้ยินเสียงทะเลาะกันกับลูกที่บ้าน แต่ก็ไม่รู้สาเหตุอะไรถึงทำให้ยายสาวได้เดินออกจากบ้านมาตั้งแต่ 09.00 นของเมื่อวาน และได้มานอนที่กระท่อมตั้งแต่เมื่อวาน ทั้งวันทั้งคืนยายสาว บอกว่า น้ำยังไม่ได้กิน ข้าวก็ยังไม่ได้กิน อีกอย่างยายก็มีโรคประจำตัวคือ เบาหวาน และความดัน จึงทำให้ยายมีอาการเหนื่อยล้า และอ่อนแรง ชาวบ้านที่พบเห็นเหตุการณ์จึงโทรศัพท์แจ้ง 1669 ให้มารับเพราะยายบ่นบอกว่า ปวดหัว อาจจะเป็นที่ยายแกไม่ได้นอนทั้งคืนและมุ้งก็ไม่ได้กางยุงน่าจะกัดทั้งคืน

 

ทำไมลูกถึงไม่แจ้งหรือว่าบอกญาติพี่น้องให้ไปตามหาจะโกรธจะเกลียดกัน อย่างไรนั่นก็คือแม่ถึงแม่จะเอาแต่ใจสติสตังไม่ค่อยดีนอนโดยที่ไม่มีมุ้งกางทั้งคืนไม่ได้กินข้าวมาถึง 3 เวลา ก็ยังดีที่ยายไม่เสียชีวิต นี่แหละเป็นอุทาหรณ์ว่า แม่มีแค่เพียงคนเดียว จะโกรธจะเกลียดอย่างไ รก็ขอให้นึกถึงบุญคุณพ่อแม่ที่เลี้ยงเรามาขนาด มีแต่ชาวบ้านมาดูแต่ไม่เห็นแม้ แต่ลูกของตัวเองมาเลยสักคน

แม่ทะเลาะกับลูก หลบมานอนกระท่อมร้างคนเดียว ไม่กินข้าวกินน้ำ ไร้คนสนใจ

แม่ทะเลาะกับลูก หลบมานอนกระท่อมร้างคนเดียว ไม่กินข้าวกินน้ำ ไร้คนสนใจ

แม่ทะเลาะกับลูก หลบมานอนกระท่อมร้างคนเดียว ไม่กินข้าวกินน้ำ ไร้คนสนใจ

ภาพ/ข่าว สำลี กิเลน ผู้สื่อข่าวสุรินทร์นิวส์

เรียบเรียง ธนินท์ทัศน์ ภูแก้ว ผู้สื่อข่าวภูมิภาคสำนักข่าวทีนิวส์ จ.สุรินทร์