- 30 ม.ค. 2565
จับตาน้ำมันดิบรั่วลงทะเลระยอง เปิดจากภาพถ่ายดาวเทียมของจิสต้า พบทิศทางหัวของคราบน้ำมัน มวลคราบน้ำมันก้อนใหญ่ถูกกระแสน้ำพัดมุ่งเข้าอ่าวพร้าว-เกาะเสม็ด
อัพเดทล่าสุดพบทิศทางมวลคราบน้ำมันก้อนใหญ่เข้าเกาะเสม็ด โดยวันที่ 30ม.ค.65 ได้รับการเปิดเผยจากนายสุรินทร์ สินรัตน์ ที่ปรึกษานายอรรถพล เจริญชันษา อธิบดีกรมควบคุมมลพิษ ว่า จากเฝ้าระวังโดยศูนย์บัญชาการปฏิบัติการกู้คราบน้ำมันรั่วไหลกลางทะเล จังหวัดระยอง การเฝ้าระวังป้องกันชายฝั่ง มีเรือปั่นไฟส่องสว่าง เฝ้าระวังตลอดทั้งคืน 3 ลำ ปฏิบัติการในทะเลห่างฝั่ง 2 กม.เรียงเป็นหน้ากระดานห่างกันลำละ 600 ม.สังเกตุการณ์ร่องน้ำระหว่างลานหินดำ-ก้นอ่าว และร่องน้ำเขาแหลมหญ้า-อ่าวพร้าว เกาะเสม็ด
หากพบผิดสังเกตุคราบน้ำมันเข้ามาใกล้ระยะประมาณ 2,000 ม.ให้รีบแจ้งมายังฝั่ง เพื่อจะเตรียมการรับมือ ทั้งนี้เรือเฝ้าระวังต้องมีต่อไปสักระยะ เพื่อเฝ้าระวังก้อนน้ำมันใช้สารเคมีฉีดสลาย อาจจะจับตัวกันใต้ท้องทะเลที่มองไม่เห็น พัดเข้าฝั่งส่งผลกระทบเสียหายได้ในวงกว้าง สำหรับมวลคราบน้ำมันจุดหนาแน่น หรือไข่แดง รวมทั้งเป็นฟิล์มบางๆ ที่พบมีประมาณ 51 ตร.กม.หรือ 32,000 ไร่ จากภาพถ่ายดาวเทียมของจิสต้า
พบว่าทิศทางหัวของคราบน้ำมัน กระแสน้ำพัดมุ่งเข้าอ่าวพร้าว เกาะเสม็ด เคลื่อนตัวอย่างช้าๆ อย่างไรก็ตามต้องดูว่าจะถึงฝั่งเวลาใด ทั้งนี้ในการรับมือทางกรมควบคุมมลพิษ กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง และกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช ได้ผนึกกำลังกับภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง รับมือเพิ่มสารเคมีฉีดสลายกลางทะเล และติดตั้งทุ่นร่องน้ำป้องกันพื้นที่เกาะเสม็ดเต็มที่ เนื่องจากเป็นแหล่งปะการัง และหญ้าทะเลจำนวนมาก
ล่าสุดนั้น นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เดินทางไปติดตามการแก้ปัญหาคราบน้ำมันดิบรั่วลงทะเล ณ บริเวณสถานีรายงานบ้านเพ หาดแม่รำพึง พร้อมกับได้ขึ้นเฮลิคอปเตอร์บินตรวจติดตามสถานการณ์คราบน้ำมันบริเณหาดแม่รำพึงและอุทยานแห่งชาติแหลมหญ้า-เกาะเสม็ด
นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กล่าวว่า จากการติดตามการเก็บกู้คราบน้ำมันตลอด 5 วันที่ผ่านมา เก็บกู้น้ำมันไปแล้วบางส่วน ยังเหลือคราบน้ำมันอีกจำนวนหนึ่ง เป็นคราบบางๆบนผิวน้ำ กำลังมุ่งหน้าไปยังอ่าวพร้าว เกาะเสม็ด ซึ่งเจ้าหน้าที่กำลังเร่งสกัดกั้นอย่างเต็มที่ เพื่อไม่ให้ขึ้นฝั่งอ่าวพร้าว เกาะเสม็ด ในคืนนี้
อย่างไรก็ตาม รู้สึกเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น อยากให้ผู้ประกอบน้ำมัน เตรียมความพร้อมมากกว่านี้ โดยการหมั่นตรวจสอบ บำรุงรักษาเครื่องมือ อุปกรณ์ให้มีความพร้อมที่สุด มิเช่นนั้นจะเกิดเหตุการเช่นนี้อย่างต่อเนื่อง เหมือนปี 2556 กว่าจะใช้เวลาฟื้นฟูต้องใช้เวลานานหลายปี แต่ถูกทำลายด้วยระยะเวลาเพียงไม่กี่ชั่วโมง
ทั้งนี้ ขอความร่วมมือชาวประมง งดจับสัตว์น้ำประมาณ 1 เดือน หากขาดรายได้ สามารถรับเงินเยียวยาได้ตามกฎหมาย ซึ่งขณะนี้ จ.ระยอง ได้ตั้งจุดรับเรื่องร้องเรียนผู้ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นแล้ว
ขอบคุณ
สวท.ระยอง