อุทยานแห่งชาติผาแต้มสั่งรื้อถอน 4 รีสอร์ทหรู ภายใน 30 พ.ย.60 หลังศาลมีคำพิพากษาบุกกรุกที่อุทยานแห่งชาติผาแต้มและป่าสงวนแห่งชาติป่าดงภูโหล่น

อุบลราชธานี – อุทยานแห่งชาติผาแต้มมีคำสั่งทางปกครองสั่งรื้อ รีสอร์ทหรู 4 แห่งประกอบด้วย บ้านพักตากอากาศ(รีสอร์ท)บ้านไม้หอม,เรือนกะยอมรีสอร์ท, ศรีชัยริเวอร์อินน์ และบ้านดินผาแต้ม ให้เจ้าของพร้อมด้วยลูกจ้าง และบริวารออกจากพื้นที่อุทยานแห่งชาติผาแต้ม อ.โขงเจียม จ.อุบลราชธานี พร้อมทั้งทำลาย รื้อถอนสิ่งปลูกสร้าง หรือสิ่งอื่นใดที่ผิดไปจากสภาพเดิมออกไปให้พ้นอุทยานแห่งชาติผาแต้ม หรือทำให้สิ่งนั้น ๆ กลับคืนสู่สภาพเดิม แล้วแต่กรณี ภายในวันที่ 30 พฤศจิกายน พ.ศ.2560 หลังศาลมีคำพิพากษาบุกกรุกที่อุทยานแห่งชาติผาแต้มและป่าสงวนแห่งชาติป่าดงภูโหล่น ในความรับผิดชอบของกรมป่าไม้

 

เมื่อวันที่ 21 พฤศจิกายน นายนครินทร์ สุทัตโต หัวหน้าอุทยานแห่งชาติผาแต้มเปิดเผยว่าจากกรณีอุทยานแห่งชาติผาแต้ม ได้เข้าแจ้งความกับพนักงานสอบสวน สภ.โขงเจียม จ.อุบลราชธานีเมื่อวันที่ 25 พ.ย. 58เพื่อดำเนินคดีกับรีสอร์ท  4 แห่งสร้างรุกที่อุทยานแห่งชาติผาแต้ม อ.โขงเจียม จ.อุบลราชธานี ประกอบด้วย บ้านพักตากอากาศ(รีสอร์ท) บ้านไม้หอม , เรือนกะยอมรีสอร์ท, รีสอร์ทศรีชัยริเวอร์อินน์ และรีสอร์ทบ้านดินผาแต้ม (บ้านดินโฮมสเตย์) มีการรุกล้ำสร้างเข้าไปในพื้นที่เขตอุทยานแห่งชาติผาแต้ม และป่าสงวนแห่งชาติป่าดงภูโหล่น กรมป่าไม้บางส่วน ในความผิดก่อสร้างแผ้วถางหรือการกระทำด้วยประการใดๆ อันเป็นการทำลายป่าหรือเข้ายึดถือครอบครองป่าโดยไม่ได้รับอนุญาต ตาม พ.ร.บ.ส่งเสริมและรักษาคุณภาพสิ่งแวดล้อม พ.ศ.2534  ซึ่งการดำเนินการดังกล่าวเป็นไปตามตามคำสั่ง คสช.ฉบับที่ 64 เกี่ยวกับการป้องกันและปราบปรามการกระทำผิดเกี่ยวกับทรัพยากรป่าไม้และสิ่งแวดล้อม  และจากการตรวจสอบเอกสารที่แสดง และสอบถามข้อเท็จจริงจากพยานบุคคล พบว่ารีสอร์ท 2 แห่ง เอกสาร ส.ค.1 ที่นำมาแสดง ไม่ตรงกับต้นขั้วฉบับที่ว่าการอำเภอโขงเจียม และอีก 2 แห่ง ไม่สามารถระบุยืนยันตำแหน่งที่ตั้งได้ ในส่วนการอ้างซื้อที่ดินต่อมาจากชาวบ้านที่ทำกินอยู่เดิม ทางอุทยานแห่งชาติอนุญาตให้ชาวบ้านที่อยู่มาก่อนการประกาศเป็นพื้นที่อุทยานฯ และป่าสงวนแห่งชาติสามารถทำกินได้ แต่ไม่อนุญาตให้ทำเชิงธุรกิจหรือมีการซื้อขายเปลี่ยนมือ

นายนครินทร์ สุทัตโต หัวหน้าอุทยานแห่งชาติผาแต้ม กล่าวว่า ซึ่งต่อมาศาลจังหวัดอุบลราชธานีได้มีคำพิพากษาว่ารีสอร์ททั้ง 4 แห่งได้บุกรุกที่อุทยานแห่งชาติผาแต้มและป่าสงวนแห่งชาติป่าดงภูโหล่น  กรมป่าไม้บางส่วนจริง โดยศาลได้พิจารณาตามหลักฐาน เอกสารและมีคำพิพากษาว่าบริเวณที่ดินของรีสอร์ททั้ง 4 แห่งเป็นของรัฐ หลักฐานที่เจ้าของรีสอร์ทนำมาแสดงเป็นคนละพื้นที่ ซึ่งศาลได้ดูที่เจตนา ซึ่งผู้ซื้อที่ดินไม่มีเจตนาเพราะเป็นการซื้อต่อก็เลยยกฟ้องในคดีอาญากับเจ้าของรีสอร์ท แต่ศาลมีคำพิพากษาว่าเป็นที่ดินของรัฐ

ดังนั้นในฐานะพนักงานเจ้าหน้าที่ตามพระราชบัญญัติอุทยานแห่งชาติ พ.ศ.2504 ตามประกาศกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ฉบับลงวันที่ 19 เดือน เมษายน พ.ศ.2547 อาศัยอำนาจตามมาตรา 21 และมาตรา 22 แห่งพระราชบัญญัติอุทยานแห่งชาติ พ.ศ.2504  จึงมีหนังสือสั่งการให้ เจ้าของบ้านพักตากอากาศ(รีสอร์ท)บ้านไม้หอม   ผู้ถือครองที่ดิน  ผู้เช่าและเจ้าของเรือนกะยอมรีสอร์ท  เจ้าของรีสอร์ทศรีชัยริเวอร์อินน์ และ เจ้าของรีสอร์ทบ้านดินผาแต้ม (บ้านดินโฮมสเตย์) พร้อมด้วยลูกจ้าง และบริวาร ออกจากอุทยานแห่งชาติผาแต้ม พร้อมทั้ง ทำลาย หรือรื้อถอนสิ่งปลูกสร้าง หรือสิ่งอื่นใด ที่ผิดจากสภาพเดิมออกไปให้พ้นอุทยานแห่งชาติผาแต้ม หรือทำให้สิ่งนั้นๆ กลับคืนสู่สภาพเดิม โดยให้ดำเนินการให้แล้วเสร็จ ภายในวันที่ 30 พฤศจิกายน พ.ศ.2560 หากฝ่าฝืนไม่ปฏิบัติตามคำสั่งดังกล่าวให้แล้วเสร็จ หากพ้นจากนี้ ผู้ประกอบการยังเพิกเฉยต่อคำสั่ง เจ้าหน้าที่จะเข้าไปดำเนินการให้ พร้อมเรียกค่าใช้จ่ายตามจริง

นายนครินทร์ สุทัตโต กล่าวเพิ่มเติมว่า รีสอร์ททั้ง 4 แห่งมีสิทธิอุทธรณ์คำสั่งนี้ต่อหัวหน้าอุทยานแห่งชาติผาแต้ม (ผู้ออกคำสั่ง) ภายในสิบห้าวันนับแต่วันที่ได้ออกคำสั่งนี้ โดยคำอุทธรณ์ต้องทำเป็นหนังสือ ระบุข้อโต้แย้ง และข้อเท็จจริง หรือข้อกฎหมายที่อ้างอิง

ข่าว/ภาพ จิรวัฒน์ บุญจอง ผู้สื่อข่าว ผู้ภูมิภาคสำนักข่าวทีนิวส์ จังหวัดอุบลราชธานี