- 25 มิ.ย. 2562
สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ในรัชกาลที่ 9 ได้เคยทรงพระราชทานสัมภาษณ์แก่คณะผู้สื่อข่าว เมื่อ พ.ศ. 2523 มีความตอนหนึ่งถึงความประทับพระราชหฤทัยในน้ำใจของประชาชน และพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 9 ต่อประชาชนในจังหวัดชายแดนภาคใต้ เมื่อครั้งเสด็จเยี่ยมประชาชนและเกิดเหตุระเบิดจากผู้ก่อการร้ายคอมมิวนิสต์ในสมัยนั้นว่า...
สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ในรัชกาลที่ 9 ได้เคยทรงพระราชทานสัมภาษณ์แก่คณะผู้สื่อข่าว เมื่อ พ.ศ. 2523 มีความตอนหนึ่งถึงความประทับพระราชหฤทัยในน้ำใจของประชาชน และพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 9 ต่อประชาชนในจังหวัดชายแดนภาคใต้ เมื่อครั้งเสด็จเยี่ยมประชาชนและเกิดเหตุระเบิดจากผู้ก่อการร้ายคอมมิวนิสต์ในสมัยนั้นว่า
"แล้วที่จับใจ ในความรักของประชาชน บอกกับฝรั่งว่า จับใจในความรักของประชาชน ไม่มีวันลืมได้เลย คือเรื่องระเบิดที่ยะลา หลายปีมาแล้ว พอเสียงระเบิดดังปึง ปึงๆ นี่ ชาวบ้านวิ่งหนี หกล้มคลุกคลาน เห็นเลยว่า วิ่งหนีเป็นแถวๆ ออกไป กลับบ้าน เหลือคนอยู่น้อย ทีแรกคนแน่น พอสักประเดี๋ยวซี หอบแฮ่กๆ วิ่งกลับมาเป็นแถวอีก วิ่งกลับมากันร้องไห้กันหมด เขาบอก ดูเถอะ ดูใจตัวเองเถอะ กลับไปถึงบ้าน มันตกใจน่ะ มานึกได้ว่า โถทิ้งท่านอยู่ลำพังนะนี่ ฉันก็เลยวิ่งกลับมาอีก เป็นห่วง ทีแรกก็กลัวตาย คราวนี้ขอบอกว่า ตายเป็นตายด้วยกัน "
แล้วเด็กนักเรียนสาวๆคงเป็นไทยพุทธ เห็นพูดไทยได้ ร้องไห้ใหญ่เลย ร้องแบบไม่มีสติ บอก ท่านๆคะ ท่านไปทำอะไรชั่วร้าย ท่านไม่ได้ทำอะไรให้ใคร เขาจะฆ่าท่านทำไม แกพูดซ้ำอยู่นั้น ร้องไห้ไป ตัวสั่น ท่านไม่เคยทำอะไรใคร ในหลวงไม่เคยทำอะไรใคร เขาจะฆ่าท่านทำไม ทำไมเขาต้องการจะฆ่าท่าน ชาวบ้านที่วิ่งกลับมา ร้องไห้น้ำตาไหลเป็นทาง บอกฉันกลับไปถึงบ้านแล้ว พูดทั้งที่หอบ แต่ว่านึกได้ว่า ตายแล้ว พระเจ้าอยู่หัวกับราชินียังอยู่ จึงคิดว่า ตายก็มาตายด้วยกัน เลยวิ่งกลับมาเป็นเพื่อน แหมความรู้สึก ตรงกับเพลงที่ว่า
"หากใครแกล้งเธอ ฉันนี้จะยอมตายแทน "
พุทโธ่ อุตส่าห์วิ่งกลับมากันหมดเลย และท่าที่ร้องไห้ วิ่งเข้ามากำบังคุ้มกัน ระวังพระเจ้าอยู่หัว จับใจ แล้วตำรวจราชสำนักบอกให้กลับพระตำหนัก อย่าเสด็จฯโรงพยาบาลอันตราย เพราะทางที่จะกลับ ถ้าค่ำแล้วยิ่งอันตรายใหญ่ เขาอาจจะยิงด้วยจรวดก็ได้ให้รีบกลับเสียแต่วันๆ เถอะ
พระเจ้าอยู่หัวบอก
" ไม่ได้ เขามานี่ เจ็บเพราะเรามา เขามาหาเรา เราต้องไปเยี่ยม "
มีรายงานบอกว่า
" ไม่ได้เจ็บกันมากพระเจ้าข้า ข้าพเจ้ารับรอง ได้ข่าวว่า เลือดขีดข่วนเท่านั้น ใส่ยาแดงแล้วก็กลับบ้านได้ "
ฉันคิดว่าการที่พระมหากษัตริย์ของบางประเทศล่ม เพราะเหตุอย่างนี้ คือเพราะเชื่อตามคำบอก พระเจ้าอยู่หัว รับสั่งว่าขีดข่วนก็จะไปดู เขาไม่ยอม สั่งรถพระที่นั่งให้กลับพระตำหนัก รถพระที่นั่งวิ่งกลับ พระเจ้าอยู่หัวสั่งให้เลี้ยวกลับเดี๋ยวนี้
"ฉันจะไปโรงพยาบาล"
คนขับรถกลัว เลี้ยวไปอีกทางที่ไปโรงพยาบาล พอไปถึง เราตกตะลึง เพราะเลือดสาดเต็ม แล้วมีเด็กผู้หญิงสาว อายุสัก 17-18 กำลังหอบ ปอดยุบไปข้าง ถ้าเราไม่ไปก็ตาย แล้วเด็กอีกคนตาก็จะบอด คือ คนนอนกันเต็มเห็นแต่เลือดๆทั้งนั้น พอเข้าไป เด็กสาวนั้นเห็นเรา เขาก็ร้องไห้ บอก ท่านคะ หนูเจ็บเหลือเกิน หนูหายใจไม่ออก หนูเจ็บ พ่อแม่ก็ไม่ได้มาท่านช่วยหนูด้วย
ฉันยื่นมือให้จับ หมอบอกว่า ออกซิเจนเข้าไม่ได้ ต้องเจ็บปวด เพราะลมมันดันที่หน้าอก ตับมันเสียไปข้างปวดมาก เขาให้ออกซิเจนอยู่แล้ว แกตกใจ ยึดมือแน่น หมอบอกฉีดยาให้หลับก็ไม่หลับ เพราะตกใจไม่ยอมหลับ
" ถามหนูจะตายไหมคะท่าน หนูจะตายไหม "
ฉันบอก "หนูไม่ตาย แต่ขออย่าพูดนะจ้ะ หมอเขาบอก อย่าพูด ต้องเก็บกำลังไว้ เขากำลังเตรียมห้องผ่าตัด บอก หนูหลับซะ"
แกก็ว่า " หนูไม่กล้าหลับ เดี๋ยวตาย "
ฉันจึงบอก "หลับซะ ไม่ตาย ฉันยืนตรงนี้ จับมือไว้ ฉันยืนอยู่ด้วย จนกว่าพ่อแม่หนูจะมา ฉันยืนตรงนี้ ไม่ไปไหน รับรอง แล้วคุณหมอดนัยก็จัดการให้ออกซิเจนเข้ามาก แกถึงผล็อยหลับไปได้"