ตัดเกรด4ปีกีฬาอาชีพไทย ฟุตบอล-วอลเลย์-ยัดห่วงสุดบูม

        พระราชบัญญัติส่งเสริมกีฬาอาชีพ ประกาศใช้เมื่อปี 2556 ถือเป็นกฎหมายสำคัญที่ช่วยส่งเสริม สนับสนุน ช่วยเหลือ คุ้มครอง และพัฒนานักกีฬาอาชีพ บุคลากรกีฬาอาชีพในช่วงที่มีการเติบโตขึ้นอย่างรวดเร็ว โดยมีทั้งหมด 74 มาตรา ดูแลกลุ่มบุคคล 5 กลุ่มทั้งนักกีฬา, บุคลากรกีฬาอาชีพ, สโมสรกีฬาอาชีพ, สมาคมกีฬาอาชีพ และผู้จัดการแข่งขันกีฬาอาชีพ จนถึงปี 2561 พ.ร.บ.กีฬาอาชีพ บังคับใช้มาแล้วกว่า 4 ปีแล้ว ซึ่งมีส่วนสำคัญในการพัฒนาวงการกีฬาอาชีพไทยให้ยกระดับพัฒนาต่อเนื่อง โดยดูแล 13 ชนิดกีฬาอาชีพ 40 รายการ ประกอบด้วย ฟุตบอล, กอล์ฟ, เจ็ตสกี, วอลเลย์บอล, ตะกร้อ, โบว์ลิ่ง, สนุกเกอร์, แข่งรถจักรยานยนต์, แข่งรถยนต์, จักรยาน, เทนนิส, แบดมินตัน และบาสเกตบอล

      ผ่านพ้นเวลากว่า 4 ปี การกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) ได้มีการประเมินพัฒนาการของทั้ง 13 ชนิดกีฬาอาชีพอย่างต่อเนื่องทุกปี เพื่อชี้วัดให้เห็นถึงแนวโน้มการพัฒนาของแต่ละชนิดกีฬาว่ามีทิศทางที่ดีขึ้นอย่างไรบ้าง เพื่อนำมาวิเคราะห์วางแผนแก้ไขพัฒนาต่อไปในอนาคต

 

 

"ผอ.น้อย" ทนุเกียรติ จันทร์ชุม ผอ.ฝ่ายกีฬาอาชีพและกีฬามวย กกท. ระบุว่า หลังจาก พ.ร.บ.กีฬาอาชีพ บังคับใช้มาแล้วกว่า 4 ปี วงการกีฬาอาชีพไทยพัฒนาขึ้นต่อเนื่อง ต้องขอบคุณรัฐบาลที่ตรากฎหมายกีฬาอาชีพฉบับนี้ขึ้นมา เพื่อให้เกิดการพัฒนาทั้งองคาพยพวงการกีฬาอาชีพไทย  การประเมินทั้งหมด 13 ชนิดกีฬาอาชีพ จำนวน 40 รายการ มีรายละเอียดค่อนข้างมาก ซึ่งหลายกีฬามีการพัฒนา แต่หากจะให้มีการชี้วัดว่า กีฬาอาชีพใดที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดในประเภททีมคงจะหนีไม่พ้น ฟุตบอล โดย กกท.มีความพึงพอใจเป็นอย่างยิ่งกับการพัฒนาของวงการฟุตบอลอาชีพไทย

    "ในมุมมองของผมแน่นอนว่า มีบางชนิดกีฬา และบางรายการที่ไปได้ดีมาก โดยเฉพาะฟุตบอลที่ไปสู่อาชีพได้อย่างแน่นอน ผลของการประเมินถือว่า ฟุตบอลน่าพอใจเป็นอย่างยิ่ง สามารถสร้างมูลค่า สร้างอาชีพให้กับนักฟุตบอล และผู้เกี่ยวข้องอย่างแท้จริง" ผอ.น้อยกล่าว

 

   ผอ.น้อย บอกอีกว่า ฟุตบอลอาชีพไทยพัฒนาขึ้นมาก โดยเฉพาะไทยลีก 1 ขณะที่ลีกรองลงไปอย่างไทยลีก 2, 3, 4 พัฒนาต่อเนื่องอย่างเป็นระบบ และ กกท.ก็มีลีกเยาวชนรองรับให้อคาเดมีแต่ละสโมสรในลีกอาชีพด้วย ทำให้โดยรวมแล้วเกิดการพัฒนาอย่างเป็นระบบครอบคลุมทั้งหมด ขณะที่กีฬาอาชีพเกิดการพัฒนารองลงมาจากฟุตบอลคือ วอลเลย์บอล สืบเนื่องจากกระแสที่ได้รับความนิยมอย่างมากจากผลงานของนักตบลูกยางทีมชาติสร้างผลงานได้ยอดเยี่ยม ให้องคาพยพต่างๆ ในวงการลูกยางไทยต่างคอยได้รับอานิสงส์ไปด้วย

 

 

รองลงมาอันดับ 3 บาสเกตบอล เป็นกีฬาอาชีพที่กำลังมาแรง และพยายามพัฒนาขึ้นมาในทุกด้านทุกองค์ประกอบ ทั้งเรื่องการประชาสัมพันธ์, การสร้างความรู้ผ่านการถ่ายทอดสด และการนำนักกีฬาต่างประเทศเข้ามาเล่น เพื่อสร้างแรงดึงดูดให้กับผู้ชมเกิดความสนุกสนาน ตื่นตาตื่นใจ และชวนติดตามมากยิ่งขึ้น

 

 

     "กีฬาอาชีพมีทั้งหมด 13 ชนิดกีฬา จำนวน 40 รายการ โดยในประเภททีมผมค่อนข้างพอใจกับ 3 ชนิดกีฬานี้เป็นอย่างยิ่ง ทั้ง ฟุตบอล, วอลเลย์บอล และบาสเกตบอล ที่พัฒนาอย่างเห็นได้ชัดเจน สืบเนื่องมาจากการมีกฎหมายกีฬาอาชีพที่เข้ามาช่วยพัฒนาอย่างแท้จริง" นายทนุเกียรติกล่าว ส่วนชนิดกีฬาอาชีพประเภททีมที่จำเป็นจะต้องเข้าไปช่วยเหลืออีกพอสมควรคือ ตะกร้อ ซึ่งกระแสความนิยมค่อนข้างน้อยลงไป ทั้งเรื่องการประชาสัมพันธ์น้อยลง และนักกีฬาก็ไม่หลากหลาย โดยตะกร้อถือเป็นกีฬาเอกลักษณ์ประจำชาติของไทย แต่การพัฒนากีฬาตะกร้ออาชีพไทยเหมือนหยุดนิ่งอยู่กับที่

 

      ด้านกีฬาประเภทบุคคลที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดคงจะหนีไม่พ้น กอล์ฟ ซึ่งพัฒนาการมากอย่างต่อเนื่อง ทั้งในด้านการจัดการแข่งขันกอล์ฟอาชีพในไทยที่มีทุกระดับ ทั้งรายการระดับโลกอย่าง แอลพีจีเอทัวร์, ระดับรองลงมาอย่าง ยูโรเปี้ยนทัวร์, เอเชี่ยนทัวร์ รวมทั้งรายการโลคอลทัวร์ภายในประเทศก็แน่นตลอดทั้งปี

      กีฬาอาชีพประเภทบุคคลที่เกิดการพัฒนารองลงมาคือ แบดมินตัน และเทนนิส เป็นชนิดกีฬาที่เกิดการพัฒนาตามมา แต่อีกหนึ่งกีฬาที่กำลังมาแรงอย่างมากคือ มอเตอร์สปอร์ต ทั้งแข่งรถจักรยานยนต์, แข่งรถยนต์ ซึ่งขณะนี้ประเทศไทยเกิดความตื่นตัวในเรื่องกีฬาแข่งความเร็วนี้เป็นอย่างมากผ่านพ้นไปแล้วกว่า 4 ปี วงการกีฬาอาชีพไทยเกิดการพัฒนาต่อเนื่อง เส้นทางต่อไปข้างหน้ายังมีให้พิสูจน์อีกหลายเรื่อง...