กทม. ห่วง 5 โรคฤดูแล้ง แนะประชาชนดูแลสุขภาพ

ติดตามข่าวสารที่ www.tnews.co.th


รองปลัดกรุงเทพฯ ห่วงสุขภาพประชาชน โดยเฉพาะ 5 โรคที่มากับภัยแล้ง แนะดูแลสุขภาพให้แข็งแรง โดยเฉพาะกลุ่มเสี่ยงเด็กเล็ก 0-4 ปี ผู้สูงอายุ และผู้ป่วยเรื้อรัง

 

 

วันนี้ (21 ม.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า แพทย์หญิงวันทนีย์ วัฒนะ รองปลัดกรุงเทพมหานคร เปิดเผยว่า ช่วงฤดูแล้งมีการเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศเสี่ยงต่อการเกิดโรคติดต่อทางอาหารและน้ำ ซึ่งส่งผลกระทบต่อสุขภาพประชาชน กรุงเทพมหานครห่วงใยสุขภาพอนามัยของประชาชน แจ้งเตือนระมัดระวังสุขภาพร่างกายให้แข็งแรงอยู่เสมอ โดยเฉพาะกลุ่มเสี่ยง เด็กเล็ก 0-4 ปี ผู้สูงอายุ และผู้ป่วยเรื้อรัง แนะนำประชาชนป้องกันโรคโดยยึดหลักปฏิบัติ “กินร้อน ช้อนกลาง ล้างมือ ปราศจากโรค” ล้างมือให้สะอาดด้วยน้ำและสบู่ ทั้งก่อนรับประทานอาหาร ก่อนเตรียมอาหาร และหลังเข้าห้องน้ำทุกครั้งกินอาหารที่ปรุงสุกสะอาดใหม่ และอุ่นอาหารให้ร้อนก่อนรับประทาน ดื่มน้ำสะอาดและเลือกซื้อน้ำแข็งที่สะอาด รวมถึงกำจัดขยะมูลฝอยและสิ่งปฏิกูลให้ถูกต้องในที่เหมาะสมเพื่อป้องกันไม่ให้เป็นแหล่งเพาะพันธุ์สัตว์นำโรค


โดยให้ระวัง 5 โรคติดต่อที่มากับภัยแล้ง ได้แก่

1.โรคอุจจาระร่วงเฉียบพลัน เกิดจากการรับประทานอาหารหรือน้ำดื่มที่มีเชื้อโรคปนเปื้อนผู้ป่วยอาจมีไข้หรืออาเจียนร่วมด้วย

2.โรคอาหารเป็นพิษ เกิดจากรับประทานอาหารหรือน้ำที่มีสิ่งปนเปื้อนของสารพิษจากเชื้อโรคมักพบในอาหารปรุงสุกๆดิบๆ อาหารกระป๋อง อาหารทะเล น้ำนมที่ยังไม่ผ่านการฆ่าเชื้อ อาหารที่ทำล่วงหน้าไว้นานและไม่ได้อุ่นร้อนก่อน ผู้ป่วยจะมีไข้ คลื่นไส้ อาเจียน ปวดท้อง อ่อนเพลีย

3.โรคอหิวาตกโรค เกิดจากรับประทานอาหารหรือดื่มน้ำที่มีเชื้ออหิวาตกโรคปนเปื้อน ผู้ป่วยจะถ่ายอุจจาระเป็นน้ำซาวข้าวไม่มีอาการปวดท้อง อาเจียนหากเสียน้ำมากอาจหมดสติและเสียชีวิตได้

4.โรคบิด เกิดจากรับประทานอาหาร ผักดิบหรือน้ำที่มีเชื้อบิดปนเปื้อน


5.โรคไข้รากสาดน้อยหรือไทฟอยด์ เกิดจากรับประทานอาหารและน้ำที่ปนเปื้อนเชื้อไทฟอยด์จากอุจจาระหรือปัสสาวะของผู้ป่วยหรือผู้ที่เป็นพาหะ ผู้ป่วยหรือพาหะควรหลีกเลี่ยงการประกอบอาหารให้ผู้อื่นรับประทานอาจทำให้เกิดการระบาดได้ ซึ่งหากพบผู้ป่วย กองควบคุมโรคจะส่งทีมสอบสวนไปหาต้นตอของอาการป่วย หากพบว่าเป็นสถานที่ใดก็จะเร่งทำความสะอาดแก้ไขปรับปรุง ซึ่งหากร้านค้าใดไม่ให้ความร่วมมือในการตรวจสอบความสะอาดและสารปนเปื้อน ก็จะดำเนินการตามกฎหมายตามอำนาจหน้าที่อย่างเคร่งครัดต่อไป

 

ภาพ : สำนักการแพทย์ กทม.