หยิกแรง!! ผู้ว่าฯสตง.เตรียมเรียกกรมชลฯแจง หลังพบงบฯปราบผักตบเพิ่มทุกปี สงสัยตั้งเอางบฯไปกำจัดหรือไปเพาะพันธุ์

วันนี้ (13 ก.ย.) นายพิศิษฐ์ ลีลาวชิโรภาส  ผู้ว่าการสำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน(สตง.)  เปิดเผยถึงความคืบหน้าการตรวจสอบหน่วยงานที่ใช้งบประมาณจัดเก็บ กำจัดผักตบชวา ว่า  ตนเห็นตัวเลขการใช้งบฯ ของกรมชลประทานที่ใช้จัดเก็บผักตบชวา ในแต่ละปีใช้ไปเยอะมาก  งงจนคาดคิดไม่ถึง  ซึ่งไม่ได้ใช้ชื่อเป็นงบเก็บผักตบชวาโดยตรงแต่ไปแฝงอยู่ในงบระบายน้ำ  พัฒนาระบบชลประทาน  พัฒนาเส้นทางน้ำ  ซึ่งต้องเรียกกรมชลฯมาชี้แจง   เมื่อมีงบเยอะพอสมควร  มีเรือจัดเก็บ มีเรือผลักดันน้ำ  ทำไมไม่เก็บผักตบไปด้วย  การใช้งบฯ ดังกล่าวเป็นตัวเลขที่น่าสนใจ  และทำไมถึงได้เพิ่มขึ้นทุกปี  ซึ่งตามความเข้าใจถ้าได้งบประมาณมากขนาดนี้  ไม่น่าจะมีผักตบมาระบาดจำนวนมากกีดขวางเป็นอุปสรรคการระบายน้ำในลำน้ำ หรือเต็มหน้าเขื่อน และไม่ควรล่องมาถึงปากแม่น้ำลงอ่าวไทย มาชุมนุมถึงกรุงเทพ

นายพิศิษฐ์ กล่าวต่อว่า ขณะนี้กำลังรวบรวมตัวเลขจากทุกหน่วยงาน แต่กรมชลฯ ใช้งบมากกว่าที่อื่น และในวันนี้ (13 ก.ย.) จะสรุปตัวเลขงบฯ ทั้งหมด  ภาระกิจที่กรมชลฯ จัดเก็บหน้าเขื่อน ใต้เขื่อน เขตชลประทาน ทำไมจึงมาตกค้างเต็มไปหมดจนกลายเป็นปัญหา  หลักการตั้งงบฯ เพื่อใช้บริหารจัดการป้องกัน แก้ไขปัญหา ไม่ใช่ไปเพาะพันธุ์ผักตบ  เรื่องวงเงินไม่ว่าเท่าไหร่ในทางตรวจสอบงบประมาณแล้วต้องแก้ปัญหาได้หมด   จะเร่งขอคำอธิบายจากรมชลฯ ว่างบเพิ่มทุกปีและปีต่อไปก็ขอเพิ่มอีก ทำอย่างนี้ถูกต้องหรือไม่   

" สิ่งที่นายกรัฐมนตรีพูดมา  ชี้ให้เห็นปัญหา ทุกหน่วยงานปล่อยค้างคาให้งบเพิ่มปีต่อไปซี่งไม่ถูกต้อง  และที่มีคนมาบอกว่าทำไมระดับนายกรัฐมนตรี  ต้องมาพูดเรื่องผักตบ  ถ้าท่านไม่พูดก็เป็นปัญหารุกลาม  และกรณีผักตบเป็นตัวบ่งชี้ว่าเป็นปัญหาใหญ่ของบ้านเมืองหากทุกหน่วยงานปล่อยปละ มีแต่ใช้เงินแต่งานไม่ได้ทำ ถ้าเรื่องแค่นี้ทำไม่ได้  ควรเปลี่ยนผู้บริหาร  ใช้งบฯไปมากแล้วผักตบต้องน้อยลง ไม่ใช่เพิ่มขึ้นทุกปี  ตั้งงบเพื่อกำจัดผักตบไม่ใช่เพาะพันธุ์ผักตบ" นายพิศิษฐ์ กล่าวย้ำ

ขอบคุณข้อมูลจาก เว็ปไซต์สนามข่าวดอทคอม