"ชาวออสซี่" เคยแข่งเรือใบกับ"ในหลวงร.9" ระบุเสียใจมาก ขอใช้ชีวิตที่เหลือเป็นข้ารองพระบาทจนวันตาย

วันนี้ (16 ต.ค.)  ที่สโมสรเรือใบราชวรุณในพระบรมราชนูปถัมภ์ จ.ชลบุรี   นาย ปีเตอร์ คัมมินส์  อายุ 82 ปี สัญชาติออสเตรเลีย  อดีตนายกสมาคมสโมสรเรือใบราชวรุณในพระบรมราชนูปถัมภ์  เปิดเผยว่า  ในปี พ.ศ.2514  ตนทำงานที่ สหประชาชาติในตำแหน่งฝ่ายประชาสัมพันธ์  ทำหน้าที่ ในการแจ้งข่าวให้กับสำนักพิมพ์ต่างๆ  ต่อมาในปี 2528 ขณะนั้นได้ถูกสั่งให้ไปทำข่าว เกี่ยวกับ กีฬาเรือใบ ที่พระราชวังไกลกังวล อ.หัวหิน โดยวันนั้น มีนักกีฬาเรือใบ ไทยรวมกันเกือบ 300 คน เข้าเฝ้า.  ตนเป็นฝรั่งเพียงคนเดียวที่ได้รับเชิญจาก หม่อมเจ้า ภีศเดช รัชนี ในวันนั้น ถือว่าเป็นครั้งที่สองที่ดีใจที่สุด  ครั้งแรก คือการได้เกิดมามีชีวิตบนโลกนี้ ครั้งนี้คือการได้เข้าเฝ้าพระองค์

         

นาย ปีเตอร์  กล่าวต่อว่า ตนรู้สึกผูกพันกับในหลวงเป็นอย่างมาก  ตั้งแต่วันนั้นเป็นต้นมา เมื่อครั้งที่ในหลวงท่านตรงตรัส ว่า  กลับมาพบกับข้าพเจ้าที่วังไกลกังวล ได้ทุกเมื่อที่เธอต้องการ  พระองค์ท่านไม่เคยถือตัวถึงแม้ว่าท่านเป็นถึงพระมหากษัตริย์  ท่านวางตัวเป็นธรรมชาติเช่นคนธรรมดาที่มีอารมณ์ขัน และโปรดปราน กีฬาเรือใบอย่างมาก ตนมีความประทับใจอย่างสุดซึ้งในชั่วชีวิตนี้ที่ได้เข้าใกล้กับพระองค์ท่าน และได้สัมผัสอย่างใกล้ชิดกับท่านในกีฬาเรือใบที่ท่านทรงโปรด
         

เมื่อผู้สื่อข่าวถามถึงที่มาของภาพถ่าย ยืนอยู่กับพระองค์ท่าน สองต่อสอง บริเวณริมชายหาด  นายปีเอตร์เล่าว่าภาพดังกล่าวเกิดขึ้นที่ชายหาดหัวหิน เป็นการพูดคุยกันหลังแข่งขันเรือใบกันเสร็จ ในหลวงทรงตรัสกับตนว่า  เธอชนะข้าพเจ้าในเกมส์นี้ แต่เกมส์หน้าเธอจะไม่ชนะ  จึงย้อนถามพระองค์ว่าถ้าไม่ชนะครั้งนี้กระหม่อมจะได้ที่เท่าไหร่ พระองค์ตอบว่าเธอจะได้ที่เจ็ดในเกมส์นี้  คุณปีเตอร์จึงย้อนตอบว่ากระหม่อมไม่เอาที่เจ็ด  แต่กระหม่อมอยากจะได้ที่สาม ปีเตอร์เล่าด้วยสีหน้าที่มีความสุข

 

         

นายปีเตอร์เล่าต่ออีกว่า พระองค์ท่านไม่เคยสนใจผู้แข่งขันคนอื่น แต่พระองค์ท่านสนใจแต่เรือที่ท่านทรงสภาพลม และคลื่นทะเล พระองค์เป็นนักกีฬาเรือใบที่มีพระปรีชาสามารถอย่างสูง  จากที่เห็นในข่าวที่ท่าน ได้รับรางวัลเหรียญทอง ในกีฬาการแข่งขัน  ในอดีตที่ผ่านมา เช่น การแข่งขันซีเกมส์ ในวันที่ 16 ธันวาคม ปี 2510 ถือว่า เป็นวันหนึ่ง ในประวัติศาสตร์ ทางการกีฬา ที่สนามศุภชลาศัย โดยพระองค์และเจ้าฟ้าหญิงอุบลรัตน์ทั้งสองพระองค์ได้รับเหรียญทองจากสมเด็จพระราชินี ในการแข่งขัน เรือโอเคดิงกี้ส์ ท่านทรงเรือเบอร์ 27 และ ฟ้าหญิงทรงเรือเบอร์ 18 ชนะผู้แข่งขัน จากประเทศมาเลเซีย เมียนมาร์ สิงคโปร์ และไทย ในการแข่งเกมส์สุดท้ายฟ้าหญิงแล่น  เรือชิงตำแหน่งกับ ดร. รชฎ ทำให้ท่านชนะเกมส์การแข่งขัน  โดยพระองค์ ได้แต้มเท่ากันจึงทำให้ ทั้งคู่ได้เหรียญทองทั้งสองพระองค์  จึงตั้งให้วันที่ 16 ธ.ค.ของทุกปี เป็นวันกีฬาแห่งชาติ
         

นายปีเตอร์ ยังกล่าวอีกว่า  หลังจากทราบว่าในหลวงท่านทรงสวรรคต  ตนเสียใจอย่างมาก ไม่เคยรู้สึกเสียใจเท่านี้  พระองค์ เป็นคนที่ดี และ งดงาม หากโลกเรามี กษัตริย์ อย่างพระองค์ท่าน  อีกหลายๆ คน โลกเราคงไม่มีปัญหา ในโลกนี้ผมดีใจที่ได้อยู่เมืองไทย  แล้วได้เล่นเรือใบกับในหลวง ตลอดเวลาที่ผ่านมา พอได้ยินข่าว ผมเสียใจอย่างมาก ผมร้องไห้ ทุกครั้งเมื่อคิดถึงในหลวง   ชีวิตที่เหลือขออยู่ที่ประเทศไทยและขอเป็นข้ารองพระบาทพระองค์ท่านจนวันสุดท้ายของชีวิต

ขอบคุณข้อมูล-ภาพจากเว็ปไซต์แนวหน้า