เปิดใจทั้งน้ำตา..."อ.เฉลิมชัย" เล่า "ในหลวง รัชกาลที่ ๙" คือแรงบันดาลใจทั้งหมดในการสร้างวัดร่องขุ่น

ติดตามข่าวสารที่ www.Tnew.co.th

 

 

วันนี้ (17 ต.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า อาจารย์เฉลิมชัย โฆษิตพิพัฒน์ ศิลปินแห่งชาติชื่อดังชาวเชียงราย ผู้รังสรรค์ผลงานศิลปะวัดร่องขุ่น ต.ป่าอ้อดอนชัย อ.เมือง จ.เชียงราย ได้ออกมาเปิดเผยว่า ตนรักพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช หรือในหลวงรัชกาลที่ ๙ มาตั้งแต่เกิด รู้เรื่องที่พระองค์ได้เสด็จพระราชดำเนินไปยังหลายจังหวัดรวมถึงเชียงราย ทรงช่วยเหลือชาวไทยที่อาศัยอยู่บนพื้นที่สูง และด้านอื่นๆ มากมาย
      
      
เมื่อโตขึ้น และได้มีโอกาสไปเรียนด้านการวาดรูป หรือจิตรกรรม จึงได้รู้ว่าในหลวงรัชกาลที่ ๙ ก็ทรงชอบการวาดภาพ และยังมีพระอัจฉริยภาพด้านศิลปะอย่างมากอีกด้วย และนั่นถือเป็นแรงบันดาลใจสำหรับตน ตั้งแต่ยังเรียนที่วิทยาลัยเพาะช่างว่า “จะขอมีโอกาสถวายงานด้านศิลปะ เพื่อพระองค์สักครั้งหนึ่งในชีวิต” ตนจึงได้ตั้งใจศึกษาเล่าเรียนด้านศิลปะอย่างแข็งขัน
      
      
ครั้นเมื่อต่อมาได้จบการศึกษาจากมหาวิทยาลัยศิลปากร จึงได้รับทราบจากอาจารย์ของตน ซึ่งเคยเข้าเฝ้าฯ พระองค์ว่า ขณะนั้นยังไม่มีศิลปะประจำรัชกาลที่ ๙ ไม่ว่าจะเป็นด้านจิตรกรรม สถาปัตยกรรม และประติมากรรม ที่มีอยู่ล้วนเป็นศิลปะที่สืบทอดกันมาตั้งแต่อดีตเท่านั้น ยิ่งทำให้ตนพยายามตั้งใจจะสร้างผลงานทางศิลปะเพื่อให้อยู่คู่รัชกาลที่ ๙
      
      
โดยอาจารย์เฉลิมชัย ระบุว่าแรงบันดาลใจดังกล่าว ทำให้ตนได้เลือกเรียนวิชาศิลปะไทยเพื่อที่จะสร้างงานศิลปะสมัยใหม่ โดยตนได้อุทิศตนด้วยการเดินทางไปวัดพุทธประทีบ ณ กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ และร่วมกับรุ่นน้องคนหนึ่งวาดรูปศิลปะร่วมสมัยเพื่อถวายพระองค์ โดยใช้เวลาสร้างสรรค์ผลงานเป็นเวลา 4 ปี
      
      
เมื่อเดินทางกลับมายังประเทศไทย พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชก็มีพระราชนิพนธ์หนังสือพระมหาชนก และได้รวบรวมจิตรกรรมที่เป็นศิลปะประจำรัชกาลที่ ๙ จากศิลปินทั้งหมด 8 คน ตนจึงมีโอกาสได้ถวายงานพระองค์ ด้วยการสร้างสรรค์ผลงานจิตรกรรมในตอน “พระมหาชนกออกเรือ แล้วเรือแตก ว่ายน้ำ 7 วัน 7 คืน” ซึ่งตนเห็นว่าเป็นตอนที่ดีที่สุดด้วย
      
      

"เป็นความปลาบปลื้มในพระมหากรุณาธิคุณต่อผมอย่างล้นพ้นหาที่สุดไม่ได้อย่างแท้จริง"


ศิลปินแห่งชาติชาวเชียงราย ยังระบุด้วยว่า และการที่ตนได้มีโอกาสถวายงานในหนังสือพระมหาชนกนั้น ทำให้ตนได้ล่วงรู้หลายเรื่อง โดยเฉพาะได้เห็นพระองค์ทรงตรวจงานที่มีอยู่เป็นจำนวนมากอย่างละเอียด เมื่อตนได้ถวายงานแทบเบื้องพระยุคลบาท ก็ได้นำรูปเข้าถวายทีละชิ้นเพื่อให้พระองค์ทรงพระราชวินิจฉัย ซึ่งทำให้ตนได้ทราบว่า พระองค์ทรงเป็นพระมหากษัตริย์ที่มีพระอัจฉริยภาพด้านศิลปะอย่างแท้จริง ทรงมีความทุ่มเทและละเอียดอ่อน
      
      

"จากนั้นมาผมก็ยอมถวายชีวิตตัวเอง ตั้งใจว่าเมื่อเสร็จจากงานหนังสือพระมหาชนกแล้วก็จะกลับบ้านที่เชียงราย แล้วมาทุ่มเทเพื่อสร้างงานศิลปะสมัยใหม่ประจำรัชกาลของพระองค์ให้มีความยิ่งใหญ่ เพื่อจะได้ตอบแทนในพระมหากรุณาธิคุณของพระองค์ จนวัดร่องขุ่นมีผลงานทางศิลปะที่ยิ่งใหญ่ ให้ผู้คนจากทั่วโลกเดินทางมาชมศิลปะในสมัยของพระองค์ และผมก็จะทำต่อไปจนวันตาย" อาจารย์เฉลิมชัย กล่าวทิ้งท้าย

 

ขอบคุณข้อมูลจาก : MANAGER