มหามิตรโดยแท้ ...คำว่า “ทรงพระเจริญ” ในภาษาญี่ปุ่น คือ “王様万歳” (โอซะมะ บันไซ) แปลตามตัวอักษรได้อย่างลึกซึ้ง (ชมภาพชุด)

มหามิตรโดยแท้ ...คำว่า “ทรงพระเจริญ” ในภาษาญี่ปุ่น คือ “王様万歳” (โอซะมะ บันไซ) แปลตามตัวอักษรได้อย่างลึกซึ้ง (ชมภาพชุด)

คำว่า จักรพรรดิ ในภาษาญี่ปุ่น อ่านว่า "เท็นโน" (天皇) มีความหมายว่า "ผู้เป็นใหญ่แห่งสรวงสวรรค์" มีที่มาจากตำนานของญี่ปุ่นที่ว่า จักรพรรดิจิมมุทรงเป็นลูกหลานของจันทรเทพ และสุริยเทพี นอกจากคำนี้แล้ว ยังเรียกองค์จักรพรรดิได้อีกอย่างว่า "มิกะโดะ" (帝)

ราชวงศ์ญี่ปุ่นเป็นราชาธิปไตยแบบสืบสายโลหิตสืบต่อกันมาที่เก่าแก่ที่สุดในโลก
 ในนิฮงโชะกิ หนังสือประวัติศาสตร์ญี่ปุ่นในคริสต์ศตวรรษที่แปด กล่าวว่า จักรวรรดิญี่ปุ่นถูกก่อตั้งขึ้นเมื่อ 660 ปีก่อนคริสตกาล โดยจักรพรรดิจิมมุ จักรพรรดิพระองค์ปัจจุบัน คือ จักรพรรดิอะกิฮิโตะ ผู้เสด็จสู่พระราชบัลลังก์เบญจมาศนับแต่พระบรมราชชนก จักรพรรดิโชวะ (ฮิโระฮิโตะ) สวรรคตใน พ.ศ. 1989

บทบาทของจักรพรรดิญี่ปุ่นในประวัติศาสตร์ ได้เปลี่ยนแปลงจากบทบาทเชิงสัญลักษณ์ในพิธีการส่วนใหญ่ตลอดจนบทบาทผู้ปกครองจักรวรรดิที่แท้จริง นับแต่การสถาปนารัฐบาลโชกุนครั้งแรก ใน ค.ศ. 1192 ซึ่งไม่บ่อยครั้งที่จักรพรรดิญี่ปุ่นจะทรงเป็นผู้บังคับบัญชาในสนามรบ ต่างจากพระมหากษัตริย์ตะวันตกหลายพระองค์ จักรพรรดิญี่ปุ่นแทบไม่เคยถูกแทรกแซงจากอำนาจการเมืองภายนอก โดยระหว่าง ค.ศ. 1192-1867 โชกุนหรือชิกเก็ง ในยุคคะมะกุระ (ค.ศ. 1203-1333) เป็นผู้ปกครองญี่ปุ่นโดยพฤตินัย แม้พวกเขาได้รับแต่งตั้งโดยจักรพรรดิในนาม

จักรพรรดิแห่งญี่ปุ่น เป็น "สัญลักษณ์แห่งรัฐและเอกภาพของประชาชน" ตามรัฐธรรมนูญแห่งญี่ปุ่น ค.ศ. 1947 ในสมัยจักรวรรดิญี่ปุ่น ซึ่งรัฐบาลญี่ปุ่นหลังสงครามได้รับมาใช้ต่อ

ในปัจจุบัน จักรพรรดิญี่ปุ่นเป็นพระมหากษัตริย์ในโลกเพียงพระองค์เดียวที่มีฐานันดรศักดิ์เป็นสมเด็จพระจักรพรรดิ

มหามิตรโดยแท้ ...คำว่า “ทรงพระเจริญ” ในภาษาญี่ปุ่น คือ “王様万歳” (โอซะมะ บันไซ) แปลตามตัวอักษรได้อย่างลึกซึ้ง (ชมภาพชุด)

พระจักรพรรดิ และพระจักรพรรดินีฉลองพระองค์อภิเษกสมรสแบบญี่ปุ่นดั้งเดิม ในขณะที่ดำรงมกุฎราชกุมาร(ทรงชุด โซะกุไต) และมกุฎราชกุมารี(ทรงชุด จูนิฮิโทะเอะ)

ทั้งสองพระองค์ทรงพบกันครั้งแรกในเดือนสิงหาคม พ.ศ. 2500 ที่สนามเทนนิสในเมืองคะรุอิซะวะ สภาพระราชวงศ์ (Imperial Household Council) อนุมัติพระราชพิธีหมั้นของมกุฎราชกุมารกับนางสาวโชดะในวันที่ 24 พฤศจิกายน 2501 พระราชพิธีหมั้น
จัดขึ้นเมื่อวันที่ 14 มกราคม พ.ศ. 2502

มหามิตรโดยแท้ ...คำว่า “ทรงพระเจริญ” ในภาษาญี่ปุ่น คือ “王様万歳” (โอซะมะ บันไซ) แปลตามตัวอักษรได้อย่างลึกซึ้ง (ชมภาพชุด)

ภาพงานอภิเษกสมรส ของสมเด็จพระจักรพรรดิอะกิฮิโตะ และสมเด็จพระจักรพรรดินีมิชิโกะ (เมื่อครั้งเป็น มกุฏราชกุมาร และ มกุฎราชกุมารี) ทรงฉายร่วมกันสมเด็จพระจักรพรรดิโชวะ และสมเด็จพระจักรพรรดินีโคจุง เมื่อวันที่ 10 เมษายน พ.ศ. 2502

ในวันที่ 10 เมษายน พ.ศ. 2502 มกุฎราชกุมารอะกิฮิโตทรงอภิเษกสมรสกับนางสาวมิชิโกะ โชดะ การอภิเษกสมรสครั้งนี้สร้างประวัติศาสตร์ใหม่ให้ญี่ปุ่น เนื่องจากเป็นการอภิเษกของสตรีสามัญชนครั้งแรกกับราชวงศ์ญี่ปุ่น ทำให้นางสาวโชดะกลายเป็น มกุฎราชกุมารีมิชิโกะ

หลังการอภิเษกสมรส มกุฎราชกุมารและมกุฎราชกุมารีได้มาประทับอยู่ในพระราชวังโทงู ตามพระราชประเพณี และออกจากวังดังกล่าวไปประทับพระราชวังอิมพีเรียลเมื่อมกุฎราชกุมารอะกิฮิโตขึ้นครองราชสมบัติเป็น สมเด็จพระจักรพรรดิแห่งญี่ปุ่น เมื่อปี พ.ศ. 2532

ทั้งสองพระองค์ มีพระราชโอรส-ธิดาด้วยกัน 3 พระองค์ คือ

เจ้าชายนะรุฮิโตะ มกุฎราชกุมารแห่งญี่ปุ่น ประสูติเมื่อวันที่ 23 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2503 ปัจจุบันเสกสมรสแล้วกับมะซะโกะ โอะวะดะ มีพระราชธิดาด้วยกัน 1 พระองค์ คือ เจ้าหญิงไอโกะ เจ้าโทะชิ

เจ้าชายฟุมิฮิโตะ หรือ เจ้าชายฟุมิฮิโตะ ประสูติเมื่อวันที่ 11 พฤศจิกายน พ.ศ. 2508 ปัจจุบันเสกสมรสแล้วกับคิโกะ คะวะชิมะ มีพระโอรส และพระธิดาด้วยกัน 3 คน ได้แก่ เจ้าหญิงมะโกะแห่งอะกิชิโนะ, เจ้าหญิงกะโกะแห่งอะกิชิโนะ และเจ้าชายฮิซะฮิโตะแห่งอะกิชิโนะ

อดีตเจ้าหญิงซะยะโกะ เจ้าโนะริ ประสูติเมื่อวันที่ 18 เมษายน พ.ศ. 2512 ต่อมามาสมรสกับสามัญชนนามว่า โยะชิกิ คุโระดะ เจ้าหญิงจึงต้องสละฐานันดรศักดิ์ตามกฎมณเฑียรบาลของญี่ปุ่น และเปลี่ยนชื่อเป็น ซะยะโกะ คุโระดะ

 

มหามิตรโดยแท้ ...คำว่า “ทรงพระเจริญ” ในภาษาญี่ปุ่น คือ “王様万歳” (โอซะมะ บันไซ) แปลตามตัวอักษรได้อย่างลึกซึ้ง (ชมภาพชุด)

ค.ศ. 1964 มกุฎราชกุมารอากิฮิโตะและเจ้าหญิงมิชิโกะได้เสด็จฯ แทนพระองค์สมเด็จพระจักรพรรดิฮิโรฮิโตะเยือนประเทศไทยอย่างเป็นทางการ

มหามิตรโดยแท้ ...คำว่า “ทรงพระเจริญ” ในภาษาญี่ปุ่น คือ “王様万歳” (โอซะมะ บันไซ) แปลตามตัวอักษรได้อย่างลึกซึ้ง (ชมภาพชุด)

ในครั้งนั้นพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดชทรงทูลเชิญทั้งสองพระองค์ให้เสด็จฯ ประพาสเชียงใหม่ร่วมกับพระองค์ และระหว่างการเดินทางพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดชยังทรงเป่าคลาริเน็ตเพลง “Memories of You“ ถวายด้วย ทำให้ทั้งสองพระองค์ทรงประทับพระราชหฤทัยเป็นอย่างยิ่ง นอกจากนี้พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดชยังทรงขับรถยนต์พระที่นั่งพาทั้งสองพระองค์ขึ้นเขาชมวิถีชีวิตชาวบ้านและทิวทัศน์ธรรมชาติด้วยพระองค์เองอีกด้วย

 

มหามิตรโดยแท้ ...คำว่า “ทรงพระเจริญ” ในภาษาญี่ปุ่น คือ “王様万歳” (โอซะมะ บันไซ) แปลตามตัวอักษรได้อย่างลึกซึ้ง (ชมภาพชุด)

ในปีค.ศ. 2006 แม้เวลาจะล่วงเลยมานานกว่า 42 ปีแล้ว สมเด็จพระจักรพรรดิอากิฮิโตะก็ยังตรัสถึงการเสด็จฯ เยือนประเทศไทยในครั้งนั้น โดยทรงมีพระราชดำรัสกับสื่อมวลชนว่า

"ได้รับการต้อนรับอย่างอบอุ่นทั้งจากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและประชาชนชาวไทย เป็นช่วงเวลา 3 วันที่พิเศษและยังคงอยู่ในความทรงจำของเราเป็นอย่างยิ่ง"

และในวันที่ 5-6 มีนาคม 2560 ที่ผ่านมาสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงต้อนรับสมเด็จพระจักรพรรดิ์และสมเด็จพระจักรพรรดินีแห่งญี่ปุ่นอย่างอบอุ่น  ณ พระที่นั่งอัมพรสถาน พระราชวังดุสิต ทั้ง 3 พระองค์ ทรงมีพระราชปฏิสันถารกันอย่างใกล้ชิดเป็นเวลา 30 นาที ซึ่งสมเด็จพระจักรพรรดิอากิฮิโตะ และสมเด็จพระจักรพรรดินีมิชิโกะ แห่งญี่ปุ่น ทรงซาบซึ้งในพระมหากรุณาธิคุณ ที่สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงต้อนรับอย่างอบอุ่น  ในการเดินทางมาประเทศไทยเพื่อทรงเคารพพระบรมศพ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ณ พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท ในพระบรมมหาราชวัง

 ในการนี้สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวได้พระราชทานรถยนต์พระที่นั่งโรลส์-รอยซ์ ที่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช เคยประทับ มาให้ประทับในการเสด็จพระราชดำเนินไปในระหว่างการเสด็จพระราชดำเนินเยือนประเทศไทย เป็นการส่วนพระองค์ 

มหามิตรโดยแท้ ...คำว่า “ทรงพระเจริญ” ในภาษาญี่ปุ่น คือ “王様万歳” (โอซะมะ บันไซ) แปลตามตัวอักษรได้อย่างลึกซึ้ง (ชมภาพชุด)

มหามิตรโดยแท้ ...คำว่า “ทรงพระเจริญ” ในภาษาญี่ปุ่น คือ “王様万歳” (โอซะมะ บันไซ) แปลตามตัวอักษรได้อย่างลึกซึ้ง (ชมภาพชุด)

มหามิตรโดยแท้ ...คำว่า “ทรงพระเจริญ” ในภาษาญี่ปุ่น คือ “王様万歳” (โอซะมะ บันไซ) แปลตามตัวอักษรได้อย่างลึกซึ้ง (ชมภาพชุด)

มหามิตรโดยแท้ ...คำว่า “ทรงพระเจริญ” ในภาษาญี่ปุ่น คือ “王様万歳” (โอซะมะ บันไซ) แปลตามตัวอักษรได้อย่างลึกซึ้ง (ชมภาพชุด)

มหามิตรโดยแท้ ...คำว่า “ทรงพระเจริญ” ในภาษาญี่ปุ่น คือ “王様万歳” (โอซะมะ บันไซ) แปลตามตัวอักษรได้อย่างลึกซึ้ง (ชมภาพชุด)

มหามิตรโดยแท้ ...คำว่า “ทรงพระเจริญ” ในภาษาญี่ปุ่น คือ “王様万歳” (โอซะมะ บันไซ) แปลตามตัวอักษรได้อย่างลึกซึ้ง (ชมภาพชุด)

 

เวลา 14.00 น. ของวันที่ 5 มีนาคม 2560 สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เฝ้าทูลละอองธุลีพระบาทรับเสด็จสมเด็จพระจักรพรรดิอากิฮิโตะ และสมเด็จพระจักรพรรดินีมิชิโกะ แห่งญี่ปุ่น ณ โรงแรมแมนดาริน โอเรียนเต็ล ที่ประทับ

มหามิตรโดยแท้ ...คำว่า “ทรงพระเจริญ” ในภาษาญี่ปุ่น คือ “王様万歳” (โอซะมะ บันไซ) แปลตามตัวอักษรได้อย่างลึกซึ้ง (ชมภาพชุด)

มหามิตรโดยแท้ ...คำว่า “ทรงพระเจริญ” ในภาษาญี่ปุ่น คือ “王様万歳” (โอซะมะ บันไซ) แปลตามตัวอักษรได้อย่างลึกซึ้ง (ชมภาพชุด)

มหามิตรโดยแท้ ...คำว่า “ทรงพระเจริญ” ในภาษาญี่ปุ่น คือ “王様万歳” (โอซะมะ บันไซ) แปลตามตัวอักษรได้อย่างลึกซึ้ง (ชมภาพชุด)

มหามิตรโดยแท้ ...คำว่า “ทรงพระเจริญ” ในภาษาญี่ปุ่น คือ “王様万歳” (โอซะมะ บันไซ) แปลตามตัวอักษรได้อย่างลึกซึ้ง (ชมภาพชุด)

จากนั้น เวลา 17.47 น. สมเด็จพระจักรพรรดิอากิฮิโตะ และสมเด็จพระจักรพรรดินีมิชิโกะ แห่งญี่ปุ่น เสด็จพระราชดำเนินไปทรงวางพวงมาลาถวายราชสักการะพระบรมศพ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ณ พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท ในพระบรมมหาราชวัง เป็นการส่วนพระองค์ เพื่อแสดงความเสียพระราชหฤทัย และแสดงความอาลัยเป็นครั้งสุดท้าย เนื่องจากสองประเทศมีพระราชไมตรีอันแน่นแฟ้นและมีความสัมพันธ์อันดีต่อกันมาอย่างยาวนาน

 

 

มหามิตรโดยแท้ ...คำว่า “ทรงพระเจริญ” ในภาษาญี่ปุ่น คือ “王様万歳” (โอซะมะ บันไซ) แปลตามตัวอักษรได้อย่างลึกซึ้ง (ชมภาพชุด)

พระราชสาส์นอันแสนจะอบอุ่นจากสมเด็จพระจักรพรรดิ์และสมเด็จพระจักรพรรดินีถวายสมเด็จพระบรมราชินีนาถของเรา

มหามิตรโดยแท้ ...คำว่า “ทรงพระเจริญ” ในภาษาญี่ปุ่น คือ “王様万歳” (โอซะมะ บันไซ) แปลตามตัวอักษรได้อย่างลึกซึ้ง (ชมภาพชุด)

พระองค์ทรงเรียกในหลวงรัชกาลที่๙ ของประเทศไทยว่า"พี่ชาย"

 

สมเด็จพระจักรพรรดิอากิฮิโตะ และสมเด็จพระจักรพรรดินี มิชิโกะแห่งญี่ปุ่น   ทรงมีความสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้นยาวนานกับราชวงศ์ของไทย ในช่วงการครองราชย์นาน 70 ปีของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวในพระบรมโกศ

มหามิตรโดยแท้ ...คำว่า “ทรงพระเจริญ” ในภาษาญี่ปุ่น คือ “王様万歳” (โอซะมะ บันไซ) แปลตามตัวอักษรได้อย่างลึกซึ้ง (ชมภาพชุด)

โดยเมื่อทั้ง 2 พระองค์ทรงทราบข่าวการสวรรคตของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช   สำนักพระราชวังอิมพีเรียล ของญี่ปุ่น ได้ออกแถลงว่า สมเด็จพระจักรพรรดิอากิฮิโตะ ซึ่งมีพระชนมายุ 82 พรรษา พร้อมกับจักรพรรดินี มิชิโกะ ได้เริ่มไว้อาลัยเป็นเวลา 3 วันต่อการสวรรคตของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวในพระบรมโกศ

พร้อมกันนั้นสมเด็จพระจักรพรรดิอากิฮิโตะ  ยังได้มอบหมายให้นายชิเคโอะ คาวาอิ ประธานองคมนตรี เป็นตัวแทนพระองค์ไปยังสถานทูตไทยประจำกรุงโตเกียวเพื่อแสดงความอาลัยต่อพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวในพระบรมโกศอีกด้วย  ขณะที่  พระสงฆ์ญี่ปุ่น 1,300 รูป และพุทธศาสนิกชนชาวญี่ปุ่น  พร้อมใจประกอบพิธีกรรมทางศาสนาเพื่อถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช   ที่วัด Nenbutsushu จังหวัดเฮียวโกะ

 ไม่เท่านั้นในวันที่  20  ตุลาคม   2559  ซึ่งเป็นวันพระราชสมภพ 82  ชันษา ของสมเด็จพระจักรพรรดินีมิชิโกะแห่งญี่ปุ่น    เป็นทางด้านสมเด็จพระจักรพรรดิอากิฮิโตะ  ได้ทรงตอบคำถามผ่านทางจดหมาย    ซึ่งส่งผ่านสมาคมผู้สื่อข่าวประจำสำนักพระราชวังของญี่ปุ่น   พระองค์ยังได้ทรงเขียนข้อความระลึกถึงพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช เมื่อครั้งพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชทรงให้การต้อนรับพระองค์ในการเสด็จเยือนประเทศไทยเมื่อ 26 กันยายน  2534 ความว่า

 
 “ในค่ำวันที่ 13 ตุลาคม ซึ่งฉันกำลังเริ่มเขียนตอบจดหมายของผู้สื่อข่าว ฉันได้รับข่าวอันน่าเสียใจเรื่องการสวรรคตของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชของประเทศไทย พระองค์ทรงมีอายุมากกว่าฉัน 6 หรือ 7 ปี และทรงให้ความกรุณาต่อฉันเสมือนพี่ชายผู้แสนดีตั้งแต่ฉันยังอายุ 20 กว่าปี ฉันได้ทราบข่าวเรื่องการประชวรของพระองค์ และหวังมาตลอดที่จะมีโอกาสได้พบพระองค์อีกสักครั้ง ฉันขอแสดงความเสียใจมายังสมเด็จพระบรมราชินีนาถ และพระราชวงศ์ไทยทุกพระองค์ รวมทั้งประชาชนชาวไทย ด้วยความอาลัยอย่างยิ่ง”

และเนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษาสมเด็จพระจักรพรรดิอากิฮิโตะแห่งญี่ปุ่น ที่ผ่านมา ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้คณะสื่อมวลชนญี่ปุ่นเข้าเฝ้าฯ พระราชทานสัมภาษณ์ โดยความตอนหนึ่งมีพระราชปรารภถึงพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ด้วยความระลึกถึงว่า  “  เมื่อเดือนตุลาคมที่ผ่านมา พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชสวรรคต ทั้งนี้ เมื่อปีคริสต์ศักราช 1963 (ปีโชวะที่ 38) ข้าพเจ้าได้เข้าเฝ้าฯ พระองค์เป็นครั้งแรก เมื่อครั้งเสด็จฯ เยือนประเทศญุ่ปุ่นในฐานะพระราชอาคันตุกะ


 ในปีถัดมาในฐานะผู้แทนพระองค์สมเด็จพระจักรพรรดิโชวะ  ได้ไปเยือนประเทศไทยพร้อมด้วยสมเด็จพระจักรพรรดินี  ได้รับการต้อนรับอย่างอบอุ่นจากพระองค์และสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ และได้พาข้าพเจ้าไปเยี่ยมเยียนยังจังหวัดเชียงใหม่และจังหวัดอื่นๆ ด้วย และข้าพเจ้าก็ได้รับเชิญให้ไปร่วมฉลองพระราชพิธีครองสิริราชสมบัติครบ  60  ปีของพระองค์ เป็นการเจริญสัมพันธไมตรีให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น เป็นช่วงเวลาที่อยู่ในใจข้าพเจ้าเสมอ”

มหามิตรโดยแท้ ...คำว่า “ทรงพระเจริญ” ในภาษาญี่ปุ่น คือ “王様万歳” (โอซะมะ บันไซ) แปลตามตัวอักษรได้อย่างลึกซึ้ง (ชมภาพชุด)

 

คำว่า “ทรงพระเจริญ” ในภาษาญี่ปุ่น คือ “王様万歳” (โอซะมะ บันไซ) แปลตามตัวอักษรได้ว่า “พระราชา เจริญหมื่น ๆ ปี”

มหามิตรโดยแท้ ...คำว่า “ทรงพระเจริญ” ในภาษาญี่ปุ่น คือ “王様万歳” (โอซะมะ บันไซ) แปลตามตัวอักษรได้อย่างลึกซึ้ง (ชมภาพชุด)

มหามิตรโดยแท้ ...คำว่า “ทรงพระเจริญ” ในภาษาญี่ปุ่น คือ “王様万歳” (โอซะมะ บันไซ) แปลตามตัวอักษรได้อย่างลึกซึ้ง (ชมภาพชุด)

มหามิตรโดยแท้ ...คำว่า “ทรงพระเจริญ” ในภาษาญี่ปุ่น คือ “王様万歳” (โอซะมะ บันไซ) แปลตามตัวอักษรได้อย่างลึกซึ้ง (ชมภาพชุด)

มหามิตรโดยแท้ ...คำว่า “ทรงพระเจริญ” ในภาษาญี่ปุ่น คือ “王様万歳” (โอซะมะ บันไซ) แปลตามตัวอักษรได้อย่างลึกซึ้ง (ชมภาพชุด)

มหามิตรโดยแท้ ...คำว่า “ทรงพระเจริญ” ในภาษาญี่ปุ่น คือ “王様万歳” (โอซะมะ บันไซ) แปลตามตัวอักษรได้อย่างลึกซึ้ง (ชมภาพชุด)

มหามิตรโดยแท้ ...คำว่า “ทรงพระเจริญ” ในภาษาญี่ปุ่น คือ “王様万歳” (โอซะมะ บันไซ) แปลตามตัวอักษรได้อย่างลึกซึ้ง (ชมภาพชุด)

 

 

 

--------------------------

ภัทราพร สำนักข่าวทีนิวส์