"อภัยภูเบศร" ยึด 8 ยุทธศาสตร์ บูรณาการ 5 กระทรวง พัฒนาสมุนไพรหวังดันรายได้พุ่งพันล้าน 

ติดตามข่าวเพิ่มได้ที่ www.tnews.co.th

จากการที่รัฐบาลมีนโยบายผลักดันให้สมุนไพรเป็นพืชเศรษฐกิจที่สามารถสร้างรายได้ให้แก่ประเทศ  โดยเฉพาะการกระจายรายได้สู่เกษตรกรและผู้ประกอบการรายย่อย  มีการบูรณาการทำงานของ 5 กระทรวงหลัก  ได้แก่  กระทรวงสาธารณสุข  กระทรวงเกษตรและสหกรณ์  กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี  กระทรวงพาณิชย์  กระทรวงอุตสาหกรรม  โดยมีการพัฒนาแผนงานโครงการอย่างเป็นระบบ ตั้งแต่ต้นทาง กลางทาง  และปลายทาง  โดยเน้นให้มีการพัฒนานวัตกรรม หรือ Value creation ที่ตอบสนองต่อความต้องการของตลาดโลก  และผลักดันให้อภัยภูเบศรเป็น Business Innovation  ที่สามารถสร้างรายได้จากการส่งออกได้  เพื่อเป็นกรณีศึกษาให้ผู้ประกอบการสมุนไพรไทยรายอื่น ๆ ได้เรียนรู้เส้นทางความสำเร็จ   และสร้างความเข้มแข็งทางธุรกิจในต่างประเทศได้  

 

นพ.จรัญ  บุญฤทธิการ  ประธานมูลนิธิโรงพยาบาลเจ้าพระยาอภัยภูเบศร  ได้กล่าวถึงการดำเนินงานเพื่อขับเคลื่อนอภัยภูเบศรให้สามารถสร้างมูลค่าเพิ่มได้มากขึ้นว่า   ตามที่ท่านนายกรัฐมนตรี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา มีนโยบายให้มีการพัฒนาด้านสมุนไพร  รวมทั้งนโยบายไทยแลนด์ 4.0 ทำให้เราเห็นแนวทางในการทำงานที่ชัดเจนขึ้น  โดยใช้กลไกทั้ง ประสิทธิผล การมีส่วนร่วม และการเติบโตแบบสีเขียว เพื่อให้เกิดการพัฒนาที่ยั่งยืน  และประชาชนทุกกลุ่มได้รับประโยชน์  โดยเรามีการกลยุทธ์ในการดำเนินการ 8 ข้อ ได้แก่ เพิ่มช่องทางการกระจายสินค้า  เพิ่มการการยอมรับในบุคลากรทางการแพทย์   พัฒนาบรรจุภัณฑ์หีบห่อให้แข่งขันได้   พัฒนาตลาดโดยบูรณาการกับการท่องเที่ยว  ขยายตลาดต่างประเทศร่วมกับเครือข่าย  สร้างงานวิจัยและนวัตกรรม  พัฒนาการตลาดออนไลน์  และสร้างภาพลักษณ์ให้ประเทศไทยเป็นศูนย์ลางสุขภาพ  (Health Hub)  ซึ่งหากการดำเนินงานในทั้ง 8 ยุทธศาสตร์นี้เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ  จะส่งผลให้อภัยภูเบศรมีรายได้เพิ่มขึ้นอีก 400-500 ล้านบาท  รวมกับยอดเดิมที่ทำได้คือ 380 ล้านบาท  ก็จะเกือบถึงพันล้านทีเดียวตามที่นายกรัฐมนตรีมีบัญชาอยากเห็นประเทศไทยไปถึงจุดนั้น  ซึ่งจะสามารถสร้างรายได้หลังหักค่าใช้จ่ายแก่เกษตรกรได้เพิ่มขึ้นปีละ 200,000 บาท/ปี/คน

 

ด้าน ภญ.ดร.สุภาภรณ์  ปิติพร  เลขาธิการมูลนิธิโรงพยาบาลเจ้าพระยาอภัยภูเบศร  ผู้ก่อตั้งสมุนไพรอภัยภูเบศร กล่าวถึงผลตอบแทนทางสังคมที่จะได้รับจากการดำเนินงานของอภัยภูเบศรว่า   จากการศึกษาของเราพบว่า อภัยภูเบศรได้ก่อให้เกิดผลตอบแทนต่อสังคมในคนหลากหลายกลุ่ม  ไม่ว่าจะเป็นเกษตรกร  แรงงานในพื้นที่ หมอยาพื้นบ้าน เยาวชน  บุคลากรทางสาธารณสุข เนื่องจากอภัยภูเบศรมีความสามารถในการเชื่อมร้อยเครือข่ายบนห่วงโซ่คุณค่าให้เห็นทิศทางเดียวกัน  แต่จากโจทย์ที่รัฐบาลให้มานับว่าเป็นสิ่งท้าทายที่อภัยภูเบศรกำลังเผชิญ  ครั้งนี้เราต้องปรับองค์กรครั้งใหญ่  พัฒนาระบบการจัดการตลาดที่มีประสิทธิภาพในการเชื่อมร้อย ความต้องการทั่วโลก กับซัพพลายของเรา พัฒนานวัตกรรมบนเทคโนโลยีและความหลากหลายทางชีวภาพที่ประเทศไทยมี  รวมทั้งการสร้างความร่วมมือกับเครือข่าย ซึ่งขณะนี้เรามีเครือข่ายทั้งเอกชนที่จะพัฒนาตลาดต่างประเทศร่วมกัน  เครือข่ายวิชาการที่จะพัฒนานวัตกรรมร่วมกัน  เครือข่ายภาครัฐที่จะดำเนินการช่วยกันในการผลักดันนโยบายและมาตรฐานสมุนไพร  ซึ่งต้องขอขอบคุณท่านนายกและรัฐบาลที่เห็นความสำคัญของสมุนไพรและช่วยเชื่อมต่อให้เครือข่ายต่าง ๆได้มาทำงานร่วมกัน  ภายใน 1 ปีเราคาดว่าจะมีนวัตกรรมผลิตภัณฑ์และบริการที่ทำตลาดในอาเซียนได้อย่างแน่นอน

 

\"อภัยภูเบศร\" ยึด 8 ยุทธศาสตร์ บูรณาการ 5 กระทรวง พัฒนาสมุนไพรหวังดันรายได้พุ่งพันล้าน 

ภญ.ดร.สุภาภรณ์  ปิติพร  เลขาธิการมูลนิธิโรงพยาบาลเจ้าพระยาอภัยภูเบศร

 


วิทย์ณเมธา  สำนักข่าวทีนิวส์