- 19 มี.ค. 2560
ดูให้ชัด อ่านให้ลึก!!! "ขอนแก่นโมเดล"คืออะไร หลายคนตั้งข้อสังเกตุ อาจเชื่อมโยง โกตี๋ - ชายชุดดำ - ธรรมกาย จริงหรือไม่??(รายละเอียด)
จากวันที่ 18 มี.ค. มีรายงานว่า ในช่วงเช้า เวลาประมาณ 06.15 เจ้าหน้าที่ทหาร และ ตำรวจ เข้าตรวจค้นบ้านพักของ นายธีรชัย อุตรวิเชียร (ระพิน) บ้านเลขที่ 1/16 หมู่ 6 ถ.ลำลูกกา 11 ต.คูคต อ.ลำลูกกา จว.ปทุมธานี แนวร่วมหัวรุนแรงกลุ่มของ "นายวุฒิพงศ์ กชธรรมคุณ" หรือ "โกตี๋" แกนนำแดงผู้กักขฬะที่ระเห็จไปอยู่ฝั่งโขง เนื่องจากเป็นผู้ต้องสงสัยคดีครอบครองอาวุธสงคราม อั้งยี่ซ่องโจร และเตรียมการก่อเหตุสร้างสถานการณ์
ทั้งนี้จากการตรวจค้นบ้านพักของ นายธีรชัยฯ ขั้นต้น พบสิ่งของผิดกฎหมาย ได้แก่
- ปลย.M16 จำนวน 4 กระบอก
- เครื่องยิง M79 จำนวน 1 กระบอก
- ปืนคาร์บิน จำนวน 1 กระบอก
- ปืนลูกซองยาว จำนวน 1 กระบอก (มีทะเบียน)
- ลูกกระสุนปืนลูกซอง จำนวน 160 นัด
- ลูกกระสุนปืนขนาด 5.56 มม.จำนวน 4,566 นัด
- ลูกกระสุนปืนขนาด 7.62 มม. ซ้อมรบ จำนวน 8 นัด
- ลูกกระสุนปืนขนาด .22 นิ้ว จำนวน 220 นัด
- ลูกกระสุนปืนขนาด 7.62 มม. จำนวน 235 นัด
- ลูกกระสุนปืนขนาด .45 นิ้ว (11 มม.) จำนวน 189 นัด
- ลูกกระสุนปืนขนาด .38 นิ้ว จำนวน 78 นัด
- ลูกกระสุนปืนขนาด .38 นิ้ว ซุปเปอร์ จำนวน 33 นัด
- ลูกกระสุนปืนขนาด 9 มม. จำนวน 38 นัด
- ปลอกลดเสียง ปลย.เอ็ม 16 จำนวน 3 อัน
- ซองกระสุน จำนวน 7 ซอง
- กล้องสไนเปอร์ จำนวน 1 อัน
- ขาทรายปืน จำนวน 1 อัน
- ลูกระเบิด M79 จำนวน 8 นัด (LOT 1-12)
- ลูกระเบิดขว้าง SFG75 จำนวน 1 ลูก
- ลูกระเบิดขว้าง RGD5 จำนวน 10 ลูก และ เรือนชนวน จำนวน 16 อัน
- ซองปืนพกขนาด 11 มม. จำนวน 1 ซอง
- มีดดาบ จำนวน 12 เล่ม
- เครื่องช็อตไฟฟ้า จำนวน 1 เครื่อง
- วิทยุสื่อสาร ว.ดำ จำนวน 7 เครื่อง
- วิทยุสื่อสาร ว.เเดง จำนวน 1 เครื่อง
- พลั่วสนาม จำนวน 1 อัน
- ป้ายทะเบียน จำนวน 2 ป้าย หมายเลขทะเบียน ภศ 8064 กรุงเทพฯ และ กธ 5011 ลพบุรี
และมีการตั้งข้อสังเกตว่าอาจจะมีการเชื่อโยงถึง "ขอนแก่นโมเดล" / ชายชุดดำ / และธรรมกาย หรือไม่?? วันนี้เราเลยนำข้อมูลของขอนแก่นโมเดลมาขยายเพื่อให้ได้รับรู้กันว่ามีความเป็นมาอย่างไร
สำหรับปฏิบัติการ "ขอนแก่นโมเดล" นั้นเป็นชื่อที่เจ้าหน้าที่รัฐใช้เรียก กลุ่มแกนนำเครือข่ายดอกจาน นำโดย นายมีชัย ม่วงมนตรี ซึ่งมีแนวร่วมในหลายจังหวัด เช่น จ.นครราชสีมา กาฬสินธุ์ มุกดาหาร และจ.ขอนแก่น ขณะนี้ฝ่ายความมั่นคงได้สั่งหน่วยข่าวลงพื้นที่คุมเข้มความปลอดภัย
สำหรับคดีขอนแก่นโมเดล สืบเนื่องมาจากวันที่ 23 พ.ค. 57 ทหาร ตำรวจและพลเรือนกว่า 50 นาย บุกเข้าจับกลุ่มคนเสื้อแดงที่กำลังประชุมกันอยู่ในอพาร์ตเมนต์ริมบึงหนองโคตร บ้านกอก ต.บ้านเป็ด อ.เมือง จ. ขอนแก่น หลังได้รับแจ้งจากพลเมืองดีว่า สังเกตเห็นความเคลื่อนไหวเข้าออกผิดปกติของกลุ่มชายฉกรรจ์ เมื่อทราบจุดแน่ชัด เจ้าหน้าที่ได้จู่โจมไปที่ชั้น 4 ของอพาร์ตเมนต์แห่งนั้น พบคน 2 กลุ่ม แยกห้องประชุมเป็น 2 ห้อง โดยห้องพักหมายเลข 406 มีคนประชุมอยู่ 10 คน ห้องหมายเลข 407 มีคนนั่งอยู่ 9 คน และจับกุมได้ในห้องพักอีก 2 คน ทั้งหมดรวม 21 คน เป็นชาย 20 คน มีผู้หญิงเพียงคนเดียว ตรวจค้นเบื้องต้นทั้งหมดไม่มีอาวุธสงครามพกติดตัว
จากการตรวจสอบรถของผู้ต้องหาทั้ง 10 คัน ที่จอดอยู่ลานจอดรถ ซึ่งมีทั้งรถเก๋งและรถกระบะ ป้ายทะเบียนทั้งจากกรุงเทพฯ ขอนแก่น นครราชสีมา และชัยภูมิ
การค้นรถพบอาวุธสงครามหลายรายการ ทั้งกระสุนปืนและวัตถุระเบิด และที่น่าตกใจคือ มีเอกสารเกี่ยวกับอุปกรณ์ระเบิด เอกสารการฝึกของกลุ่ม อพปช. ผ้าพันคอของ อพปช.อีกจำนวนมาก บัตรสมาชิก นปช.และภาพถ่ายของผู้ต้องหาที่เคยถ่ายกับบุคคลสำคัญๆ เอาไว้อีกหลายแผ่น โดยเฉพาะภาพถ่ายกับ เสธ.แดง
จากนั้นผู้ต้องหาทั้งหมด พร้อมของกลาง ถูกนำตัวไปควบคุมที่ค่ายสีหราชเดโชไชย ซึ่งอยู่ติดกับสนามบินขอนแก่น เพื่อสอบปากคำ
จากการสอบประวัติเบื้องต้นพบว่า ผู้ต้องหาคนสำคัญที่ทหารควบคุมตัวไว้ชื่อ มีชัย ม่วงมนตรี ชาว อ.จังหาร จ.ร้อยเอ็ด แกนนำกองทัพปราบกบฏ ที่เคลื่อนไหวอย่างต่อเนื่องในพื้นที่อีสานกลาง, จ.ส.ต.ประทิน จันทร์เกศ เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของธนาคารแห่งประเทศไทย สำนักงานภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ซึ่งมีภาพถ่ายสมัยเข้าฝึกเป็นอาสาสมัครตำรวจและมีภาพถ่ายกับบุคคลสำคัญของกลุ่มคนเสื้อแดงด้วย
ต่อมาวันที่ 24 พฤษภาคม มีข่าวว่า พล.ต.ธวัช สุกปลั่ง รองแม่ทัพภาคที่ 2 แถลงข่าวว่า ผู้ต้องหาสารภาพว่า จะนำอาวุธทั้งหมดไปก่อเหตุสร้างความวุ่นวายทางการเมือง ตามคำสั่งของแกนนำคนเสื้อแดง เพื่อหวังให้เป็น “ขอนแก่นโมเดล” เหมือนเมื่อครั้งที่มีกองกำลังคนเสื้อแดงบุกไปเผาสถานที่ราชการ เผาธนาคาร และสถานที่สำคัญๆ อีกหลายแห่ง เป็นการก่อเหตุปะทุเบื้องต้น แล้วให้อีกหลายจังหวัดก่อเหตุระเบิดตาม
ขบวนการของกลุ่มขอนแก่นโมเดลมี “ผู้บงการใหญ่อยู่ต่างประเทศ” มีแกนนำระดับจังหวัด 7 คน คอยจัดหามวลชนจัดตั้งกลุ่มอาสาสมัครพิทักษ์ประชาธิปไตยแห่งชาติ (อพปช.) และกองทัพปราบกบฏ จากนั้นจะคัดเลือก ฝึกฝนการรบ ใช้อาวุธปืนและระเบิด โดยมีแกนนำ 2 คนจัดหาอาวุธ จากนั้นจะแบ่งกลุ่มปฏิบัติการเป็น 3 กลุ่ม คือ กองทัพปราบกบฏ กลุ่มเดินสายฝึกอาวุธ และกลุ่มหัวใจสิงห์ โดยนักการเมืองระดับประเทศให้การสนับสนุนเงิน
จากการสอบสวนพบว่า กลุ่มบุคคลกลุ่มนี้เตรียมก่อวินาศกรรมต่อเป้าหมายทางเศรษฐกิจและการเงิน โดยได้รับการสนับสนุนงบประมาณจากนักการเมืองจำนวน 5 ล้านบาท ใช้ในการประชุมนัดหมายวางแผนก่อความไม่สงบ มีการเตรียมอาวุธสงครามจำนวนมาก จากการสอบสวนสาเหตุที่กลุ่มผู้ไม่หวังดีรวมกลุ่มกัน เพื่อเตรียมการก่อเหตุในพื้นที่ จ.ขอนแก่น ต้องการโครงสร้างขอนแก่นโมเดล มีผู้บงการใหญ่อยู่ต่างประเทศ ทำงานเป็นลำดับขั้นตอน และการจับกุมกลุ่มผู้ไม่หวังดี 23 คนแรก ยืนยันว่า มีเจ้าของโครงการสั่งการให้ทำ แต่ไม่กล้ายืนยันตัวบุคคล โดย 23 คนที่ถูกจับทำหน้าที่ในส่วนสนับสนุนและส่วนปฏิบัติการจัดหาอาวุธ ตามแผนการขอนแก่นโมเดล
สำหรับ แผนการลงมือขอนแก่นโมเดลนั้น แบ่งเป็น 4 ขั้นตอน
คือ 1.ระดมมวลชนให้มากที่สุด
2.เจรจาปลดอาวุธเจ้าหน้าที่
3.เจรจาเจ้าหน้าที่ฝ่ายทหาร
4.ทำลายสถาบันการเงินและนำเงินมาแจกจ่ายให้ประชาชน (ปฏิบัติการโรบินฮู้ด) “ทั่วปฐพีหนี้เป็นศูนย์” ซึ่งหากกลุ่มผู้ไม่หวังดีก่อเหตุที่ จ.ขอนแก่น สำเร็จ อาจมีการก่อเหตุที่ภาคเหนือ การที่ทหารจับกุมกลุ่มผู้ต้องหาได้ ทำให้แผนการก่อเหตุต่างๆ หยุดชะงัก” พล.ต.ธวัช กล่าวในคราวนั้น
ที่น่าตกใจคือ ข้อมูลที่ว่า สถานที่ป่วนเมืองในปฏิบัติการขอนแก่นโมเดล เป็นสถานที่สำคัญทั้งสิ้น ทั้งห้างสรรพสินค้าดังใจกลางเมืองขอนแก่น ธนาคารแห่งประเทศไทย สาขาภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ซึ่งตั้งอยู่ย่านใจกลางธุรกิจของเมืองขอนแก่น และยังมีโรงเรียนขอนแก่นวิทยายนอยู่ใกล้ๆ ที่นัดบึ้ม เผาพร้อมกันทุกจุดในวันเสาร์ที่ 24 พฤษภาคม โชคดีที่ถูกจับกุมก่อนการป่วนครั้งใหญ่ไม่กี่ชั่วโมง มิเช่นนั้น จ.ขอนแก่น คงย่ำแย่และเกิดความสูญเสียทั้งชีวิตและทรัพย์สินอย่างมากมาย
ต่อมาเจ้าหน้าที่ได้นำตัวผู้ต้องหาไปคุมตัวไว้ในค่ายทหาร มทบ.23 จากนั้นถูกนำไปฝากขังที่เรือนจำกลางจังหวัดขอนแก่น
ทั้งนี้อัยการจังหวัดทหารบกที่ 23 ยื่นฟ้องอาญาผู้ต้องหาทั้งหมด เป็นคดีหมายเลขดำ ที่ 10 ก./2557 ในฐานความผิด 9 ข้อหา คือ
1. ร่วมกันฝ่าฝืนประกาศคณะรักษาความสงบแห่งชาติ เรื่อง ห้ามชุมนุมทางการเมือง
2. ร่วมกันสะสมกำลังพลหรืออาวุธ จัดหาหรือรวบรวมทรัพย์สินให้หรือรับการฝึกการก่อการร้าย ตระเตรียมการอื่นใด หรือสมคบกันเพื่อก่อการร้าย หรือกระทำความผิดใดๆ อันเป็นส่วนของแผนการเพื่อก่อการร้าย หรือรู้ว่าจะมีผู้ก่อการร้ายแล้วกระทำการใดอันเป็นการช่วยปกปิดไว้
3. เป็นซ่องโจร
4. มีและร่วมกันมีอาวุธปืน เครื่องกระสุนปืน วัตถุระเบิดที่ใช้เฉพาะแต่การสงครามที่นายทะเบียนไม่อาจออกใบอนุญาตให้ได้ไว้ในครอบครองโดยฝ่าฝืนกฎหมาย
5. มีอาวุธ เครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต
6. พาอาวุธปืนติดตัวไปในเมืองและทางสาธารณะโดยไม่ได้รับใบอนุญาตและโดยไม่มีเหตุอันควร
7. มีเครื่องกระสุนปืนซึ่งมิใช่สำหรับใช้กับอาวุธปืนที่ได้รับใบอนุญาต
8. มีเครื่องยุทธภัณฑ์ไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับใบอนุญาต
และ 9. มีเครื่องวิทยุคมนาคมไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับใบอนุญาต
ซึ่งทั้งหมดก็อยู่ระหว่างการต่อสู้คดี ที่ศาลทหารจังหวัดขอนแก่น แต่เหตุผลสำคัญว่า คนกลุ่มนี้เป็นใครอย่างไร และใครคือไอ้โม่งที่อยู่เบื้องหลัง การประชุมลับ ฝึกซ้อม จัดตั้งขอนแก่นโมเดลนี้