- 03 ส.ค. 2560
สายใยแห่งรัก!! หนุ่มรับจ้างกรีดยาง ขอสาวพิการแต่งงาน หลังคบกันมา 8ปี เปิดใจชัดๆทำไมถึงอยากใช้ชีวิตกับสาวพิการไปตลอดชีวิต!!
เรื่องได้ว่าเป็นเรื่องราวสุดโรแมนติกเหมือนบุพเพสันนิวาส หลังจากมีเสียงวิพากษ์วิจารณ์หนาหูว่า หนุ่มรับจ้างกรีดยางชาวประจวบคีรีขันธ์ ยกขันหมากสู่ขอสาวพิการแขนขาขาดชาว จ.ชุมพร โดยร่อนการ์ดเชิญแต่งงานกว่า 600 ใบพร้อมเตรียมจัดงานใหญ่โตที่บ้านเจ้าสาวใน อ.ท่าแซะ จ.ชุมพร
ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่ไปที่ จ.ชุมพร เดินทางไปที่บ้านเลขที่ 10/1 บ.เขาหน้าหัก ม.1 ต.สลุย อ.ท่าแซะ จ.ชุมพร ซึ่งเป็นบ้านของ น.ส.อ้อย โพธิ์ทอง หรือ “ตุ๊กตา” อายุ 38 ปี ว่าที่เจ้าสาวที่พิการมาแต่กำเนิด ขาขวาขาดใต้หัวเข่าลงมา ส่วนขาซ้ายอ่อนแรง และแขนขวาขาดตั้งแต่เหนือข้อศอกขึ้นไป นอกจากนี้ยังพบ นายพรภิรมย์ บัวสงค์ หรือ “ต้น” อายุ 23 ปี ว่าที่เจ้าบ่าว ชาว ต.ไชยราช อ.บางสะพานน้อย จ.ประจวบคีรีขันธ์ ที่มาช่วยตรียมจัดงานแต่งงานที่จะมีขึ้นที่บ้านเจ้าสาวในวันพรุ่งนี้ (3 ส.ค.)
น.ส.อ้อย หรือ “ตุ๊กตา” ว่าที่เจ้าสาว เปิดใจกับผู้สื่อข่าว ว่า ครอบครัวของตนมีอาชีพทำสวนปาล์ม โดยเป็นลูกสาวคนโต ส่วนน้องสาวและน้องชายมีครอบครัวไปหมดแล้ว ตนเองพิการมาแต่กำเนิด เรียนจบชั้น ม.3 ที่ศูนย์การศึกษานอกโรงเรียน อ.ท่าแซะ จ.ชุมพร หลังจากนั้นก็ไปเรียนต่อด้านคอมพิวเตอร์ และการบัญชี ที่ศูนย์คนพิการ ห้าแยกปากเกร็ด จ.นนทบุรี หลังเรียนจบมา อาจารย์ที่ศูนย์คนพิการปากเกร็ด ก็ฝากเข้าทำงานเป็นแคชเชียร์ที่โรงแรมชมพูอินน์ อ.เมือง จ.นครปฐม ตั้งแต่ปี 56
ส่วนประเด็นรู้จักกับฝ่ายชายได้อย่างไรนั้น นายพรภิรมย์ หรือ “ต้น” ว่าที่เจ้าบ่าว บอกแทน ว่า เพื่อนของ น.ส.อ้อย ให้เบอร์โทรศัพท์กับตนตั้งแต่ปี 52 ตนจึงโทรศัพท์คุยกันเรื่อยมาโดยที่ไม่รู้ว่า ว่าที่เจ้าสาวเป็นคนพิการ ในตอนแรกตนเองก็ส่งรูปถ่ายแบบเต็มตัวไปให้ฝ่ายหญิงดูและฝ่ายหญิงส่งรูปครึ่งท่อนมาให้ตนดู ก็ไม่ได้เอะใจอะไรและพูดคุยทางโทรศัพท์มาเรื่อย ๆ นานกว่า 3 ปี จึงได้ไปนัดเจอกันก่อนทราบทีหลังว่าหญิงสาวที่ตนคุยอยู่เป็นหญิงพิการ จะเป็นด้วยบุพเพสันนิวาส หรือเนื้อคู่กันมาแต่ชาติก่อน จิตใจตนที่ได้เจอครั้งแรกกลับไม่คิดอะไรเลยกลับยิ่งรักและสงสารว่าที่เจ้าสาวมาโดยตลอด
ตนเองมีอาชีพรับจ้างกรีดยางอยู่ที่ อ.บางสะพานน้อย จ.ประจวบคีรีขันธ์ ส่วนพ่อแม่เปิดร้านขายของชำอยู่ในหมู่บ้านที่ ต.ไชยราช ฐานะครอบครัวก็ปานกลาง ส่วนครอบครัวฝ่าย น.ส.อ้อย ก็มีฐานะปานกลาง คบหาดูใจกันมา 8 ปีเต็ม จู่ ๆ น.ส.อ้อย บอกกับตนว่า ถ้ารักกันจริงก็ให้พ่อแม่ไปสู่ขอ ตนจึงบอกว่าขอเก็บเงินก่อนถึงจำนวน 5 หมื่นบาทเมื่อไร ก็จะพาพ่อแม่ไปสู่ขอ ในที่สุดเมื่อเดือน เม.ย.60 ที่ผ่านมา ตนก็พาพ่อและแม่ไปเดินทางไปสู่ขอ น.ส.อ้อย ตามประเพณีโดยพ่อแม่ของ น.ส.อ้อย เรียกสินสอดทองหมั้นเป็นเงินสด 2 หมื่นบาท , สร้อยคอทองคำหนัก 2 บาท และกำหนดพิธีแต่งงานในวันพรุ่งนี้ (3 ส.ค.60 เวลา 10.00 น.) ที่บ้านเจ้าสาว โดยพิธีแห่ขันหมากจะเริ่มเวลา 08.09 น. จากนั้นก็จะจัดงานเลี้ยงแบบโต๊ะไทยสำเร็จ ซึ่งตนเองและว่าที่เจ้าสาวแจกการ์ดเชิญแขกไปแล้วจำนวน 620 ใบ จัดโต๊ะในงานเลี้ยงไว้ 130 โต๊ะ ส่วนของชำร่วยที่แจกในงานเป็นแก้วน้ำ
นายพรภิรมย์ บอกกับผู้สื่อข่าวอีกว่า หลังเสร็จพิธีแต่งงานตนเองก็จะอยู่ที่บ้านเจ้าสาว 3 คืน หลังจากนั้นก็จะพาเจ้าสาวไปอยู่กับพ่อแม่ที่ อ.บางสะพานน้อย ช่วยพ่อแม่ที่ร้านขายของชำ โดยตนเองและเจ้าสาววาดอนาคตเอาไว้ว่า จะมีลูกทันทีเพียง 1 คน แต่สำหรับตนอยากได้ลูกผู้ชาย
ทางด้าน นางสะอื้น พานทอง คุณแม่ว่าที่เจ้าสาว เปิดเผยว่า รู้สึกดีใจและไม่คิดว่าจะมีวันนี้เพราะลูกสาวพิการมาแต่กำเนิด แต่เมื่อเห็นฝ่ายชายว่าที่ลูกเขยเป็นคนจริงจังและรักลูกสาวของตนเองจริงก็สบายใจว่าเขาคงจะเลี้ยงดูลูกสาวได้ สำหรับการ์ดเชิญ ตนเองได้เชิญผู้ใหญ่บ้าน กำนัน สมาชิก อบต. นายก อบต. รวมทั้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.สลุย ให้มาร่วมเป็นสักขีพยานในครั้งนี้ด้วย
ขอบคุณข่าว+ภาพจาก ไบร์ททีวี