น้ำใจไม่แบ่งสัญชาติ!! ฮีโร่สองหนุ่มสาวตาน้ำข้าว กระโดดช่วยพ่อ แม่ ลูก ขับรถตกคูเมือง อย่ามัวแต่ตกใจศึกษาไว้ เมื่อขับรถตกน้ำควรทำอย่างไร??

น้ำใจไม่แบ่งสัญชาติ!! ฮีโร่สองหนุ่มสาวตาน้ำข้าว กระโดดช่วยพ่อ แม่ ลูก ขับรถตกคูเมือง อย่ามัวแต่ตกใจศึกษาไว้ เมื่อขับรถตกน้ำควรทำอย่างไร??

เมื่อวันที่ 19 ส.ค.60 ผู้ใช้เฟซบุ๊กที่ชื่อ Tungmayy May ได้โพสต์เรื่องราวอุบัติเหตุ รถยนต์ 3 พ่อ แม่ ลูก ขับตกน้ำที่คูเมือง จังหวัดเชียงใหม่ แต่ในขณะนั้นได้มีพลเมืองดีเป็นชายหญิงชาวต่างชาติ เข้าช่วยเหลือ 3 ชีวิตไว้ได้อย่างปลอดภัย สร้างความประทับใจให้แก่คนไทย และผู้พบเห็นเป็นอย่างมาก โดยผู้โพสต์ได้ระบุว่า...

"ฝรั่งใจเด็ดเป็น HERO ไปเลยทั้งหล่อและสวยเอาใจคนเชียงใหม่ไปเต็มๆ กระโดดลงไปช่วย 3 พ่อแม่ลูกรถตกน้ำ ปลอดภัยทั้งหมด สุดยอดดด" และเมื่อโพสต์นี้ถูกเผยแพร่ออกไปได้มีผู้เข้ามาแสดงความคิดเห็นเป็นจำนวนมากทั้งชื่นชม และแนะนำว่าให้จัดโปรโมชั่นท่องเที่ยวฟรีให้แก่นักท่องเที่ยวใจดีทั้งสองรายนี้ด้วย "ททท. น่าให้เที่ยวฟรีสักทริป" "จัดรางวัลให้เที่ยวฟรีไปเลย คนดีแบบนี้" "ฝรั่งว่ายน้ำเก่งสามารถกลั้นหายใจใต้น้ำได้นานอีกผมละยอมรับเลยจริงสุดยอดมากๆ" "สุดยอดคับ ฮีโร่ ไม่จำเป็นจะต้องมีพลังวิเศษ" "คนไทยทำไมไม่รักคนไทยด้วยกันฝรั่งยังรักคนไทยเลยสุดยอดมาก" "น้ำใจสุดซึ้งไม่ว่าจะชาติไหนก็คนมีน้ำใจด้วยกัน"

น้ำใจไม่แบ่งสัญชาติ!! ฮีโร่สองหนุ่มสาวตาน้ำข้าว กระโดดช่วยพ่อ แม่ ลูก ขับรถตกคูเมือง อย่ามัวแต่ตกใจศึกษาไว้ เมื่อขับรถตกน้ำควรทำอย่างไร??

น้ำใจไม่แบ่งสัญชาติ!! ฮีโร่สองหนุ่มสาวตาน้ำข้าว กระโดดช่วยพ่อ แม่ ลูก ขับรถตกคูเมือง อย่ามัวแต่ตกใจศึกษาไว้ เมื่อขับรถตกน้ำควรทำอย่างไร??

น้ำใจไม่แบ่งสัญชาติ!! ฮีโร่สองหนุ่มสาวตาน้ำข้าว กระโดดช่วยพ่อ แม่ ลูก ขับรถตกคูเมือง อย่ามัวแต่ตกใจศึกษาไว้ เมื่อขับรถตกน้ำควรทำอย่างไร??

น้ำใจไม่แบ่งสัญชาติ!! ฮีโร่สองหนุ่มสาวตาน้ำข้าว กระโดดช่วยพ่อ แม่ ลูก ขับรถตกคูเมือง อย่ามัวแต่ตกใจศึกษาไว้ เมื่อขับรถตกน้ำควรทำอย่างไร??

สำหรับเมื่อเกิดอุบัติเหตุรถจมน้ำ น้อยคนคงจะเคยเจอประสบการณ์แบบนี้  ซึ่งวิธีการเอาตัวรอดเมื่อรถจมน้ำสามารถปฏิบัติได้ดังนี้
ต้องตั้งสติให้มั่นเมื่อ รถจมน้ำ
หากเกิดเหตุรถจมน้ำ อันดับแรกสำคัญมากที่สุด คือต้องตั้งสติให้มั่น ให้คิดง่าย ๆ ว่ามันไม่ยากเกินไปที่จะแก้ไขเมื่อมีสติ และขณะที่รถยนต์กำลังเคลื่อนที่ไปในทิศทางที่จะตกน้ำ อย่าปลดเข็มขัดนิรภัยออกจนกว่ารถจะหมดแรงกระแทก หลายคนเมื่อเห็นว่ารถกำลังเคลื่อนที่จะลงน้ำก็จะปลดเข็มขัดนิรภัยออกในทันที ซึ่งกรณีนี้อาจทำให้ศีรษะไปกระแทกจากแรงประทะของผิวน้ำได้ อย่าลืมว่าการกระแทกผิวน้ำจากที่สูง ไม่ต่างอะไรกับการปะทะกับกำแพงคอนกรีตเลย

จะออกจากรถทางไหนดี
1. ทางหน้าต่าง รอให้น้ำเข้ารถจนเกือบเต็ม และให้ออกทางหน้าต่างเท่านั้น โดยลดกระจกลง หากเป็นรถที่มีกระจกหน้าต่างแบบมือหมุน (Manual) แต่สำหรับกระจกไฟฟ้าจากสถานการณ์จำลองพบว่า แม้รถจะจมอยู่ในน้ำระบบไฟฟ้าต่างๆ ก็ยังสามารถใช้งานได้ดีอีกประมาณ 10 นาที และถึงแม้เครื่องยนต์จะดับ คุณก็ไม่ต้องกลัวไฟช็อตแต่อย่างใด เพราะในรถยนต์จะใช้ไฟกระแสตรง (D.C.) ไม่เหมือนไฟบ้านที่เป็นกระสลับ (A.C.) ซึ่งเมื่อโดนน้ำแล้วช็อตเลย ฉะนั้นในรถยนต์จะไม่มีการช็อต การทำงานของกระจกไฟฟ้าไม่กี่วินาทียังพอมีเวลาที่จะทำงานได้ค่ะ

2. ทางประตู ทันทีเมื่อรถยนต์นิ่งสงบอยู่ในน้ำ จะไม่สามารถเปิดประตูรถได้ทันที เพราะแรงดันน้ำจากภายนอก จะทำให้ไม่สามารถเปิดประตูได้ (จนท.ตำรวจสหรัฐ พิสูจน์ความจริงข้อนี้แล้วว่า จากการนำรถยกห้อยรถในน้ำไว้ครึ่งคัน แล้วให้ตำรวจทั้งที่อยู่ในและนอกรถลองพยายามเปิดประตูรถ แต่ก็ไม่สามารถกระทำได้) ดังนั้น สิ่งที่คุณจะทำได้คือรอ เริ่มต้นด้วยการปลดล็อกประตูที่เป็นแบบหมุดดึง (Manual) ถ้าเป็นประตูไฟฟ้าก็ต้องกดปลดล็อก เมื่อน้ำเข้ามาในรถมากพอเกือบถึงหลังคา จะทำให้ความดันภายนอกและภายในรถใกล้เคียงกัน ซึ่งจะช่วยให้ประตูสามารถเปิดออกได้ ให้ผลักบานประตูออกให้กว้างสุดและออกจากตัวรถทางประตู

ถ้าเปิดทั้งประตูและหน้าต่างไม่ได้วิธีที่ควรปฏิบัติคือ...
เมื่อไม่สามารถเปิดประตูหรือลดกระจกลงได้เนื่องจากเกิดแรงกระแทกและชน (เกิดอุบัติเหตุ) ก่อนรถจะตกน้ำ ขั้นตอนต่อไปควรหาของแข็งมาทุบกระจก เครื่องมือประจำรถที่เหมาะสมที่สุด คือ เหล็กขันน็อตที่มีอยู่ในถุงอะไหล่ รถกระบะทุกชนิดไม่ว่าสี่ประตู หรือ CAB จะเก็บถุงเครื่องมือไว้ใต้เบาะหลัง หรือ ส่วนที่อยู่ในเก๋งด้านหลัง ส่วนรถเก๋งต้องหาวัสดุที่เป็นเหล็กหรือของแข็งพอที่จะทุบให้กระจกแตกได้ เช่น แท่งเหล็กของหมอนรองคอบนเบาะคนขับ กระจกที่เลือกทุบมีหลักอยู่ว่ากระจกหน้าจะเป็นกระจกนิรภัยออกแบบให้แตกยาก ควรทุบกระจกด้านข้าง ซึ่งมีความเป็นไปได้ที่จะไม่สามารถทุบกระจกข้างให้แตกได้ เพราะแรงดันน้ำจากภายนอก หากรถยังจมไม่มิดคัน วิธีต่อไปให้เลือกทุบกระจกหลังเพราะเป็นส่วนที่จมน้ำหลังสุด (เพราะโดยปกติ ส่วนหัวจะจมก่อน)

น้ำใจไม่แบ่งสัญชาติ!! ฮีโร่สองหนุ่มสาวตาน้ำข้าว กระโดดช่วยพ่อ แม่ ลูก ขับรถตกคูเมือง อย่ามัวแต่ตกใจศึกษาไว้ เมื่อขับรถตกน้ำควรทำอย่างไร??

น้ำใจไม่แบ่งสัญชาติ!! ฮีโร่สองหนุ่มสาวตาน้ำข้าว กระโดดช่วยพ่อ แม่ ลูก ขับรถตกคูเมือง อย่ามัวแต่ตกใจศึกษาไว้ เมื่อขับรถตกน้ำควรทำอย่างไร??

น้ำใจไม่แบ่งสัญชาติ!! ฮีโร่สองหนุ่มสาวตาน้ำข้าว กระโดดช่วยพ่อ แม่ ลูก ขับรถตกคูเมือง อย่ามัวแต่ตกใจศึกษาไว้ เมื่อขับรถตกน้ำควรทำอย่างไร??

เมื่อหาทางออกได้แล้ว วิธีที่ควรต่อไปคือ...
สูดลมหายใจให้เต็มที่และค่อย ๆ และดันตัวออกจากรถ ไม่ต้องห่วงข้าวของมีค่า ถ้ามีผู้โดยสารมาด้วยก็บอกให้กระทำเช่นเดียวกัน หากมีเด็กให้หนีบเด็กเข้าเอว ออกมากับตัวคุณได้ทีละคน หากมากกว่านี้ อาจจะเป็นอันตรายต่อตัวคุณได้ และจะพาลไม่รอดกันหมด ดังนั้น แม้เวลาเสี้ยววินาทีก็ต้องรีบกระทำดีกว่าไม่ทำอะไรเลยนะคะ เมื่อหลุดพ้นออกมาจากตัวรถแล้ว ให้ปล่อยตัวให้ลอยขึ้นเหนือน้ำตามธรรมชาติ หรือ จะว่ายขึ้นมาก็ได้ ในกรณีที่น้ำลึกมาก ๆ อาจจะมองไม่เห็นว่าทิศใดเหนือหรือใต้น้ำ เพราะว่ามืดไปหมด ไม่ควรใช้วิธีว่ายน้ำ เพราะอาจว่ายน้ำไปทางทิศที่ยิ่งจมลงไปอีก ในกรณีนี้ควรปล่อยให้ตัวลอยขึ้นตามธรรมชาติ หรือลองเป่าอากาศดูว่า ฟองอากาศลอยขึ้นทางทิศใด ก็ให้ว่ายไปทางทิศของฟองอากาศลอยไป เช่นนี้แล้วจะไม่มีอาการหลงทาง ในน้ำแน่นอนค่ะ

สิ่งที่ห้ามทำอย่างเด็ดขาด
การเสียชีวิตส่วนใหญ่จากเหตุการณ์รถจมน้ำ เนื่องจากผู้เสียชีวิตพยายามตามอากาศที่ไหลไปรวมกันอยู่หลังรถ เพราะหน้ารถพุ่งลงน้ำ (เครื่องยนต์อยู่ด้านหน้า) หัวรถจะจมน้ำก่อนแล้วท้ายรถก็จะโด่งขึ้นอากาศจึงไหลไปรวมกันที่นั่งหลัง อากาศที่อยู่หลังรถดูเหมือนจะมีให้หายใจได้ แต่เมื่อจมลงไปเรื่อย ๆ ตัวรถจะเริ่มตั้งฉากอากาศจะถูกบีบออกทางกระโปรงหลังภายในไม่กี่นาที จนสุดท้าย ไม่มีอากาศเหลืออยุ่ภายในรถอีกต่อไป และทำให้ไม่มีเวลา และอากาศมากพอที่จะหนีออกมาจากตัวรถ

น้ำใจไม่แบ่งสัญชาติ!! ฮีโร่สองหนุ่มสาวตาน้ำข้าว กระโดดช่วยพ่อ แม่ ลูก ขับรถตกคูเมือง อย่ามัวแต่ตกใจศึกษาไว้ เมื่อขับรถตกน้ำควรทำอย่างไร??

น้ำใจไม่แบ่งสัญชาติ!! ฮีโร่สองหนุ่มสาวตาน้ำข้าว กระโดดช่วยพ่อ แม่ ลูก ขับรถตกคูเมือง อย่ามัวแต่ตกใจศึกษาไว้ เมื่อขับรถตกน้ำควรทำอย่างไร??

 

ขอบคุณ : Tungmayy May    MoneyGuru.co.th