ดิ้นพล่าน !!! "โอ๊ค พานทองแท้" โอดโอย กระบวนการยุติธรรมบิดเบี้ยว ยัดเยียดความผิด ระวังเวรกรรมจะตามทัน!

สืบเนื่องจากที่นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เคลื่อนไหวเป็นครั้งแรกหลัง น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี หายตัวไปอย่างไร้ร่องรอยไม่ปรากฏตัวที่ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ตามนัดหมายเมื่อวันที่ 25 สิงหาคมที่ผ่านมา เพื่อฟังคำพิพากษาคดีปล่อยปละละเลยให้เกิดความเสียหายในโครงการรับจำนำข้าว

นายทักษิณทวีตข้อความ ระบุว่า "มงแต็สกีเยอ เคยกล่าว 'ไม่มีความเลวร้ายใด ที่จะยิ่งไปกว่าความเลวร้ายที่ได้กระทำโดยอาศัยอำนาจตามกฎหมายหรือในนามของกระบวนการยุติธรรม'"

การเคลื่อนไหวของนายทักษิณครั้งนี้ทำให้บรรดานักการเมืองและผู้ที่ไม่เห็นด้วยกับนายทักษิณออกมาวิพากษ์วิจารณ์ถึงการโพสต์ข้อความในครั้งนี้เช่น "พลโท นันทเดช เมฆสวัสดิ์" ได้โพสต์ข้อความเปรียบเทียบระหว่าง มองเตสกิเยอร์ กับ ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี โดยบอกว่าทักษิณ นั้นเลียนแบบมองเตสกิเยอร์มาตลอด แต่เลียบแบบได้ไม่หมด โดยได้ระบุข้อความว่า

มองเตสกิเยอร์ กับ คุณ ทักษิณฯ หลังสงครามโลกครั้งที่ 2 ยุติลง มาเลเซียก็เป็นอิสระจากการปกครองของอังกฤษ  ความขัดแย้งเรื่องเชื่อชาติจึงเกิดขึ้นอย่างรุนแรงในสิงค์โปร์ ฝ่ายขวาในพรรค อัมโน ให้ขับไล่ สิงค์โปร์ ออกจาก มาเลเซีย วันนั้น ลี กวน ยู ออกมาร้องให้แจ้งข่าวนี้ให้ชาวสิงคโปร์ทราบ จะทำอย่างไร ในเมื่อสิงคโปร์ตอนนั้น ไม่มีทั้ง เรือกสวนไร่นา แม้กระทั้งน้ำจืด

ลี กำหนดยุทธศาสตร์ชาติขึ้นมา วางตัวคนลงทำงานให้เหมาะสมกับงานทุกด้าน โดยไม่เห็นแก่หน้าใคร ถ้าไม่มีก็จ้างมา ร่วมกันสร้างสิงคโปร์ใหม่ขึ้น อีก15ปีต่อมา พรรคอัมโน จึงรู้สึกตัวว่าตัดสินใจผิดพลาดไปมาก เพราะสิงคโปร์ยืนหยัดขึ้นมาอย่างสง่างาม แม้จะต้องซื่อ ข้าว ผลไม้ และ น้ำจืด ก็ตาม

ลี เป็นต้นแบบที่คุณ ทักษิณฯ เลียนแบบตลอดมา แต่เลียนแบบได้ไม่หมด เพราะ "ลี ใช้อำนาจ เพื่อชาติ และ ประชาชน " ส่วน คุณ ทักษิณฯ ใช้อำนาจ เพื่อชาติ และ ญาติพี่น้อง " แตกต่างกันตรงนี้เอง ดังนั้นอย่ามาอ้าง หลักการแบ่งแยกอำนาจของ มองเตสกิเยอร์เลยครับ เมื่อ อำนาจบริหาร,อำนาจนิติบัญญัติ และ อำนาจจากขบวนการยุติธรรมขั้นต้นอยู่กับ คุณ ทักษิณฯทั้งหมด ตอนคุณ ทักษิณฯเป็นนายกฯ

ล่าสุดวันที่ 8 กันยายน 2560 มีความเคลื่อนไหวจากนายพานทองแท้ ชินวัตร ลูกชายของนายทักษิณ ชินวัตรได้ออกมาโพสต์ข้อความผ่านทางเฟซบุ๊ก โอดครวญต่อว่ารัฐบาลว่าไม่เป็นธรรม ยัดเยียดความผิด ระวังกรรมจะตามสนอง 

"ไม่มีความเลวร้ายใด ที่จะยิ่งไปกว่าความเลวร้ายที่ได้กระทำโดยอาศัยอำนาจตามกฎหมาย หรือในนามของกระบวนการยุติธรรม"
เป็นคำกล่าวของ มงแต็สกีเยอ ที่คุณพ่อผมเพิ่งนำมาทวิตไปเมื่อวันก่อนครับ

ในช่วงเวลาที่คุณพ่อทวิตนั้น ปรากฏว่ามี "เอกสารหลุด" จากคณะกรรมการนโยบายและบริหารจัดการข้าวฯ ที่มีพล.อ.ประยุทธ์ฯ ในฐานะหัวหน้า คสช. เป็นประธาน ได้สั่งการในที่ประชุมว่า ให้เร่งดำเนินการส่งฟ้องเรื่องจำนำข้าว โดยไม่ต้องคำนึงถึงกระบวนการยุติธรรม โดยให้เร่งดำเนินการ มิฉะนั้นเจ้าหน้าที่ซึ่งรับผิดชอบทั้ง 3 หน่วยงาน จะต้องมีความผิด

ผ่านไปเพียงไม่กี่วัน ขณะนี้ได้มีเอกสารหลุดอีกฉบับหนึ่ง เกี่ยวกับเรื่องของตัวผมโดยตรง ซึ่งเป็นของอดีตรองอธิบดีดีเอสไอ ที่ได้ทำหนังสือร้องเรียนไปยังคณะกรรมการพิทักษ์ระบบคุณธรรม ว่าได้รับคำสั่งให้แจ้งข้อกล่าวหาเพื่อดำเนินคดีกับพานทองแท้ ทั้งๆ ที่ตนเองได้ชี้แจงข้อเท็จจริงให้ผู้สั่งการทราบแล้วว่า ธุรกรรมของนายพานทองแท้นั้น ไม่ได้มีส่วนใดที่ผิดกฎหมาย จึงไม่สามารถแจ้งข้อกล่าวหาเพื่อดำเนินคดีได้ เป็นเหตุให้ตนเองต้องถูกปลดออกจากตำแหน่งรองอธิบดีฯ ไปนั่งตบยุงที่สำนักนายกรัฐมนตรี พร้อมทั้งได้บรรยายเหตุการณ์ในการสั่งการอย่างไม่ชอบธรรม โดยมีพยานยืนยันซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่ของดีเอสไอเองอยู่ในเหตุการณ์ดังกล่าวด้วย

กระบวนการยุติธรรมของไทยเราทุกวันนี้ บิดเบี้ยวถึงขั้นจะตรวจสอบเรื่องข้าว หัวหน้าคสช.ก็สั่งการกับข้าราชการด้วยตัวเองว่า ไม่ต้องคำนึงกระบวนการยุติธรรม ใครไม่เร่งทำถือว่ามีความผิด จะตรวจสอบคดีแบงค์กรุงไทย ซึ่งมีการกู้เงินนับหมื่นล้าน แทนที่จะไปตรวจสอบองค์กรที่ได้รับผลประโยชน์ก้อนใหญ่ หรือรายชื่อนายทหารนายตำรวจ และบุคคลองค์กรอื่นๆ อีกกว่า 300 ธุรกรรม (รวมถึงมูลนิธิรัฐบุรุษฯ และนายพลเรือคนดัง ก็มีชื่อรับโอนเงินก้อนดังกล่าวด้วย) กลับไม่สนใจจะตรวจสอบ แต่กลับมาสั่งการกับผู้ปฏิบัติแบบเน้นๆ ให้จ้องเอาผิดกับธุรกรรมทางการเงินจำนวน 10 ล้าน ซึ่งเท่ากับ 0.1 % ของจำนวนเงินทั้งหมด เพียงเพราะว่าเป็นธุรกรรมทางการเงินของลูกอดีตนายกรัฐมนตรี ที่ตัวเองตั้งธงเอาไว้แล้วว่า จะต้องยัดเยียดความผิดให้ได้

เรื่องแบบนี้ ถ้าไม่เกิดกับลูกหลานตัวเองบ้าง ผู้มีอำนาจที่สั่งการกันมาเป็นทอดๆ อาจจะยังไม่รู้สึกหรอกครับ แต่ผมเชื่อว่าสักวันหนึ่งเวรกรรมจะตามทัน ถ้าไม่เชื่อใน"กฎแห่งกรรม" ก็เชิญผู้มีอำนาจสั่งการหาเรื่องกันต่อไปเถอะครับ วันไหนกรรมตามสนองลูกหลานตัวเองบ้าง ก็ขออย่าได้โอดครวญแล้วกัน

 

อ้างอิง Oak Panthongtae Shinawatra