- 22 ก.ย. 2560
ฟื้นมา ฟื้นมาสิลูก!! นายทหารร้องสุดเสียงขณะช่วยยื้อชีวิตลูกสุนัขจมน้ำ หวิดดับหลายรอบไม่ย่อท้อ ดูจบถึงกับน้ำตาไหล ชื่นใจเหลือเกิน (คลิป)
เมื่อวันที่ 22 ก.ย.60 ผู้ใช้เฟซบุ๊กที่ชื่อ Tongchana Paeloy ได้โพสต์คลิปวิดีโอเผยให้เห็นเจ้าหน้าที่ทหาร กำลังช่วยปั๊มหัวใจลูกสุนัขที่จมน้ำ โดยในตอนแรกลูกสุนัขตัวนี้แน่นิ่งไปแล้วซึ่งอาการค่อนข้างย่ำแย่ แต่สุดท้ายแล้วด้วยการช่วยชีวิตจากเจ้าหน้าที่ทหารลูกสุนัขตัวนี้ก็สามารถรอดชีวิตมาได้อย่างปาฏิหาริย์ ซึ่งภายหลังจากที่คลิปนี้ถูกเผยแพร่ออกได้มีผู้เข้าไปแสดงความคิดเห็นชื่นชมนายทหารรายนี้เป็นจำนวนมากที่เป็นดั่งวีรบุรุษช่วยชีวิตน้อยๆ ให้ปลอดภัยลืมตาดูโลกได้อีกครั้ง โดยชาวเน็ตบางส่วนได้กล่าวว่า...
"ลุ้นตามสุดๆๆ ขอบคุณมากๆนะค่ะ น้องยังเล็กมาก ถ้าพาไปหา หมอ ด้วยก็ดี หรือไม่ก็หาไฟกก ให้ความอบอุ่น เค้านะค่ะ" "กราบใจพี่ทหารเลยค่ะ" "ขอบคุณที่เห็นค่าของชีวิตน้อยๆนะคะ" "ขอบคุณที่เห็นคุณค่าชีวิตน้อยขอบคุณที่ไม่ทิ้งเค้านะ" "กังวลว่ารอดมาแล้วจะมีอาการอะไรบ้าง อยากให้พาไปหาหมอแต่ไม่อน่ใจพี่ไเค้าจะสะดวกไหม" "ขอบคุณมากๆเลยนะคะที่ช่วยน้องไว้ น่ารักกันทุกคนเลย" " หัวใจพี่หล่อมากกกกกกกกก ปรบมือรัวๆ ค่ะ" "สุดยอดมากเลยค่ะ ขอบคุณที่ช่วยน้องไว้นะค่ะ ใจพี่ใหญ่มาก" " น้ำตาจะไหล คุณมีความพยายามมากจริงๆ" "สุดยอดมากพี่ โกงความตายให้น้องหมา" "ต้องงี้ดิ... ขอบคุณพี่ๆแทนน้องหมาด้วยครับ" "ขอบคุณที่ ช่วย น้อง เค้า นะ พี่ดูแล้วซึ้งง่าขอบคุณจริง ๆ ค่ะทำดีแบบนี้ต่อไปนะพี่ทหาร"
หากพบน้องหมาตกน้ำหรือจมน้ำสิ่งแรกที่ต้องทำ คือ ต้องช่วยเหลือน้องหมาขึ้นมาจากน้ำ โดยอาจจะใช้ไม้ยาวเกี่ยวสายรัดอก ปลอกคอ หรือโยนห่วงยางผูกเชือกไปคล้องตัวน้องหมา ถ้าอยู่ห่างริมตลิ่งหรือชายฝั่งอาจต้องใช้เรือหรือว่ายน้ำออกไป แต่ต้องระวังอันตรายด้วย โดยว่ายเข้าด้านหลังใช้มือคล้องอกแล้วดึงเข้ามาริมตลิ่ง
เมื่อขึ้นจากน้ำได้แล้วต้องรีบเอาน้ำออกจากปอด ถ้าเป็นน้องหมาตัวเล็กๆ ให้ดึงขาหลังทั้ง 2 ข้างห้อยหัวลง โดยเอาหลังน้องหมาเข้าหาตัวเราแล้วเขย่าขึ้นลง ถ้าตัวใหญ่หน่อยให้กอดรัดตรงใต้ซี่โครง โดยเอาหลังน้องหมาแนบอกเราแล้วกดอย่างรวดเร็วเพื่อระบายเอาน้ำออกทางจมูกและปาก แต่ถ้าไม่สามารถยกตัวน้องหมาห้อยหัวลงให้หาอะไรมาหนุนตัวให้สูงกว่าหัวเพื่อระบายน้ำแทน
จากนั้นสังเกตที่อกว่าน้องหมาหายใจได้หรือไม่ ถ้าอกไม่ขยับให้ช่วยปั้มหายใจโดยวิธีปากต่อจมูกสลับกับการปั้มหัวใจ เมื่อเป่าไปได้ 12-20 ครั้ง (ประมาณ 1 นาที) ให้หยุดแล้วสังเกตช่องอกว่าหายใจได้เองแล้วหรือยัง ถ้ายังให้ทำซ้ำต่อไป จนกว่าน้องหมาจะกลับมาหายใจและหัวใจเต้นได้เอง
เมื่อตัวเปียกน้ำอุณหภูมิร่างกายจะลดลง (ถ้าต่ำว่า 96 ๐F จะเป็นอันตรายต่อชีวิต) เราต้องเช็ดตัวหรือเป่าขนให้แห้ง อาจเพิ่มอุณหภูมิร่างกายด้วยการประคบอุ่นด้วยถุงน้ำร้อนก็ได้ จากนั้นพาน้องหมานำส่งโรงพยาบาล ซึ่งคุณหมอจะตรวจร่างกาย ฟังปอด ตรวจเลือดและถ่ายภาพรังสีดูช่องอก เพื่อประเมินสภาพนำมาประกอบการรักษาต่อไป
ซึ่งการรักษาน้องหมาอาจต้องได้รับออกซิเจน สารน้ำ (น้ำเกลือ) ยาขับน้ำ และยาฆ่าเชื้อ เพราะอย่างที่บอก คือ สิ่งที่ลำลักเข้าไปอาจนำเชื้อโรคมาได้ บางรายที่ขาดออกซิเจนเป็นเวลานานจะส่งผลต่อสมองทำให้สมองบวม (Brain edema) ซึ่งจำเป็นต้องลดภาวะดังกล่าวอย่างเร่งด่วน น้องหมาอาจต้องพักที่โรงพยาบาล 1-2 วันหรือมากกว่านั้นตามแต่สภาพ
เราสามารถป้องกันน้องหมาจมน้ำได้ โดยอาจให้น้องหมาสวมชูชีพสำหรับสุนัข หรือสวมสายรัดอกแล้วคล้องสายจูงไว้ โดยเราต้องช่วยพยุงดึงสายจูงเพื่อให้น้องหมาลอยตัว สังเกตสภาพน้ำ อุณหภูมิ ความลึก และสิ่งที่อาจทำอันตรายต่อน้องหมา เช่น เศษไม้ สัตว์มีพิษ แมงกะพรุน เป็นต้น อาจสอบถามข้อมูลจากเจ้าหน้าที่หรือยามฝั่งก็ได้
อย่าให้น้องหมาว่ายน้ำเกินครั้งละ 5 นาที ให้ขึ้นน้ำมาพักสัก 10-15 นาที แล้วค่อยลงเล่นต่อ ข้อควรระวังการเล่นน้ำไม่เหมาะกับลูกสุนัข สุนัขที่ปอดไม่ดีหรือมีโรคประจำตัวเกี่ยวกับระบบทางเดินหายใจ ข้อดีของการว่ายน้ำนอกจากจะคลายร้อนได้แล้ว ยังเป็นการออกกำลังกายที่ดี เพราะช่วยเรื่องกระดูก ข้อต่อ และสร้างมวลกล้ามเนื้อได้ครับ
เหตุการณ์ไม่คาดฝันเกิดได้ทุกที่ทุกเวลานะครับ แต่อย่าลืมสิ่งแรกที่ต้องต้องทำ คือ เราต้องควบคุมสติให้อยู่ อย่าตื่นตระหนกตกใจเด็ดขาด แล้วทำตามขั้นตอนด้วยความรวดเร็วแต่ต้องไม่ถึงกับเร่งรีบร้อนรน อากาศร้อนอย่างนี้การพาน้องหมาไปคลายร้อนด้วยการเล่นน้ำก็ไม่เลวนะครับ แต่จำไว้เสมอว่า “ปลอดภัยไว้ก่อน”
ขอบคุณ : Tongchana Paeloy dogilike.com