- 02 ต.ค. 2560
แฉคลิปสุดฉาว!!! บิ๊กขรก.ไถเงินแม่นักกีฬาทีมชาติผ่อนรถ รับสิ้น"ยุคบิ๊กตู่"อดรับใต้โต๊ะ รายได้หายเพียบ!!!(มีคลิป)
วันที่ 1 ต.ค. 60 นางสุนันท์ จารุไพโรจน์ มารดาของ น.ส.กมลวรรณ จารุไพโรจน์ นักกีฬาเพาะกายหญิงทีมชาติไทย พร้อมด้วยทนายสงกานต์ อัจฉริยะทรัพย์ ได้นำหลักฐานนำมายื่นแจ้งความตำรวจกองปราบ เพื่อดำเนินคดีกับเจ้าหน้าที่ของรัฐรายหนึ่งที่อยู่ในพื้นที่จังหวัดสมุทรปราการ หลังถูกข่มขู่เรียกรับเงิน 20 ล้านบาท
ส่วนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนั้นเกิดขึ้นจากทางด้าน นางสุนันท์ มารดาของน.ส.กมลวรรณ นักกีฬาเพาะกายหญิงทีมชาติไทย ได้ถูกกลุ่มคนที่เป็นข้าราชการในพื้นที่ เรียกรับเงินก่อสร้างอพาร์ทเม้นท์ ในจ.สมุทรปราการ รวมทั้งหมด 5 อาคาร วันนี้จึงได้นำเอกสาร และหลักฐานสำคัญ คือ คลิปเสียงที่นางสุนันท์ คุณแม่น.ส.กมลวรรณ ได้พูดคุยกับเจ้าหน้าที่รัฐมามอบให้เพื่อให้เจ้าหน้าที่กองปราบฯ ตรวจสอบข้อเท็จจริง เพราะเชื่อว่ามีการทำเป็นขบวนการ หลังสืบทราบว่าตั้งแต่ขั้นตอนการก่อสร้างจนถึงการก่อกวนสร้างความวุ่นวาย เป็นกลุ่มคนในที่ทำงานเดียวกัน ในข้อหา ฐานปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ , เป็นพนักงานเรียกรับสินบน และความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ โดยจากนี้ จะเดินทางไปร้องเรียนกับกระทรวงมหาดไทยเพื่อดำเนินการกรณีนี้ต่อไป
นางสุนันท์ มารดาน.ส.กมลวรรณ เผยว่า ตนได้วางแผนก่อสร้างอพาร์ทเม้นท์ในพื้นที่ จ.สมุทรปราการ กว่า 80 ล้านบ้าน แต่ได้มีเจ้าหน้าที่รัฐได้แนะนำนายช่างโยธาให้มาดำเนินการเขียนแบบและรับเหมาก่อสร้าง จึงเกิดการเชื่อใจ เพราะตนคิดว่าเป็นเจ้าหน้าที่รัฐจึงไม่น่าจะผิดระเบียบก่อสร้าง จนกระทั่งเริ่มก่อสร้างอาคารในปีพ.ศ. 2550 แล้วเสร็จในปีพ.ศ. 2552 เพียง 2 อาคารและก่อสร้างอีก 2 อาคาร และได้รับอนุญาตในปี 2556
จนกระทั่งในปี พ.ศ.2557 เจ้าหน้าที่รัฐในพื้นที่ได้มาเรียกรับเงินครั้งแรกจำนวน 30,000 บาท กระทั่งเรียกสูงสุดจำนวน 20,000,000 บาท แต่ตนไม่ได้จ่ายและพยายามเจรจา ทางเจ้าหน้าที่ีรัฐจึงขอเรียกรับเงินเพียง 5,000,000 บาท แต่ตนก็ไม่ยินยอมที่จะจ่าย เพราะมั่นใจว่าที่ผ่านมาก่อสร้างโดยถูกต้องตามกฎหมาย แต่ในวันที่ 21 ก.ย.ที่ผ่านมา มีการติดป้ายห้ามใช้อาคาร และห้ามบุคคลภายนอกเข้าออก เพื่อเตรียมทำการรื้อถอน ตนจึงไปยื่นอุทธรณ์คำสั่งแต่ไม่เป็นผลจึงไปฟ้องร้องศาลปกครอง เพื่อยกเลิกคำสั่งรื้อถอนอาคาร และเข้าแจ้งความความกองปราบฯ เพื่อดำเนินการกับเจ้าหน้าที่รัฐคนดังกล่าว
ซึ่งที่ผ่านมายังไม่ได้จ่ายเงินไปให้ใคร เพราะมั่นใจในความถูกต้อง โดยผู้ดูแลเรื่องการก่อสร้างรับผิดชอบเขียนแบบแปลนอาคารเองทั้งหมด ตนเพียงแค่เซนชื่อรับ ที่สำคัญครอบครัวถูกใส่ร้ายว่าเป็นมาเฟียในพื้นที่ จึงอยากขอความเป็นธรรมเพราะมั่นใจว่านี่คือการกลั่นแกล้งประชาชน
ด้าน พ.ต.อ.ชาคริต ได้รับเรื่องไว้ก่อน โดยมอบหมายให้พนักงานสอบสวน กก.2 บก.ป.สอบปากคำผู้ร้องทุกข์ และตรวจสอบข้อเท็จจริงจากหลักฐานที่ได้รับมา อย่างไรก็ดี สำหรับพยานหลักฐานต่างๆ พบว่ายังมีไม่ครบถ้วน จึงแจ้งให้ผู้ร้องได้กลับไปจัดเตรียมมาเพิ่มเติม ได้แก่ แบบแปลนการก่อสร้างอาคาร เพื่อใช้ประกอบการพิจารณาดำเนินคดี ซึ่งหลังจากนี้จะต้องประสานไปยังวิศวกรรมสถาน จัดส่งเจ้าหน้าที่ผู้เชี่ยวชาญเพื่อช่วยตรวจสอบ กรณีการก่อสร้างอาคารดังกล่าวว่าถูกต้องตามแบบแปลนหรือไม่ ส่วนกรณีที่ผู้ร้องอ้างว่าถูกข่มขู่เรียกรับเงินนั้น ก็จะต้องสืบสวนหาข้อเท็จจริงต่อไป
ส่วนทางด้านของ น.ส.กมลวรรณ ได้เผยว่า ตนรู้สึกเป็นห่วงความปลอดภัยของครอบครัว เนื่องจากไม่สามารถใช้ชีวิตได้ตามปกติเพราะถูกคุกคามโดยเจ้าหน้าที่รัฐจึงอยากให้เจ้าหน้าที่ช่วยตรวจสอบด้วย เพราะอาคารทั้ง 5 อาคาร สร้างมาด้วยหยาดเหงื่อและแรงกายของครอบครัว ที่สำคัญตัวเองต้องเดินทางไปชิงแชมป์โลกกับคณะนักกีฬาไทยในวันที่ 2 ต.ค. 60 ที่ประเทศมองโกเลีย จึงอยากให้เร่งดำเนินการ เพื่อความสบายใจของทุกคน
ซึ่งในบทสนทนาดังกล่าว ทางบิ๊กข้าราชการได้โทรศัพท์มาหาทางนางสุนันท์ และขอยืมเงิน 5,000 บาทเพื่อนำไปผ่อนรถ โดยอ้างว่าช่วงนี้ช็อต เพราะถูกคำสั่งทางปกครอง พร้อมอ้างว่า ก่อนหน้านี้ตนหาเงินนอกระบบได้ถึงเดือนละ 200,000 บาท แต่พอถึงยุคของพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ทำให้รายได้หดหาย
ขอบคุณข้อมูลจากรายการ ทุบโต๊ะข่าว Amarin TV 34