หนุ่มนักดนตรีร้องเรียนพนักงานสายการบินดัง บังคับโหลดกีตาร์ทั้งๆที่ถือขึ้นเครื่องได้ กระเป๋าก็ไม่ได้โหลด เเถมเสีย 900 ฟรี

หนุ่มนักดนตรีร้องเรียนสายการบินดังเรื่องที่ไม่อนุญาตให้นำกีตาร์ขึ้นเครื่อง และยังเก็บค่าโหลด 900 ด้วยความข้องใจตอนลงเครื่องจึงได้ถามผมติดต่อเคาร์เตอร์เซอร์วิสสอบถามปรากฏว่าเจ้าหน้าที่ทุกคนในนั้นทำหน้าแสดงอาการงงงวยว่าเกิดเหตุแบบนี้ได้อย่างไร

 

เมื่อวันที่ 8 ต.ค. ผู้ใช้เฟสบุ๊ก Yuwabun Thungsuwan  ได้โพสต์ข้อความ เมื่อเวลาประมาณ18.15น.ของวันที่7 ตุลาคา 2560 ผมเข้าเช็คอินที่เคาร์เตอร์แอร์เอเชีย พิษณุโลก เพื่อเดินทางไปดอนเมือง กรุงเทพฯ เข้าเช็คอินตามปกติ พนักงานถามมีของโหลดมั้ยผมตอบไม่มีพนักงานจัดการเช็คอินให้เรียบร้อยผมก็เดินออกมาจากเคาร์เตอร์ ระหว่างเดินเพื่อไปเตรียมตัวเดินทาง พนักงานวิ่งตามผมให้กลับไปที่เคาร์เตอร์แจ้งให้ผมโหลดสัมภาระเนื่องจากผมมีกีต้าร์หนึ่งตัวใส่ซอฟเคส(ถุงผ้าธรรมดา)

พนักงานบังคับให้ผมโหลดกีต้าร์และต้องเสียเงินค่าโหลดเพิ่ม 900 บาท ซึ่งปกติผมเดินทางโดยเจาะจงเลือกสายการบินแอร์เอชียตลอดทั้งปีเพราะไม่เคยมีปัญหาเรื่องนี้เหมือนสายการบินอื่น (ผมเคยถูกทำกีต้าร์ตัวนี้แตกกับสายการบินหนึ่ง ผมจึงระวังเรื่องนี้เป็นพิเศษ และเมื่อมาใช้บริการแอร์เอเชียก็พบว่าไม่มีปัญหา สบายใจ สามารถหิ้วขึ้นเครื่องไปวางไว้ในช่องเก็บสัมภาระได้เลย) แต่ครั้งนี้เป็นครั้งแรกที่โดนบังคับให้โหลดกีต้าร์ เมื่อชั่งน้ำหนักแล้วพบว่ามันมีน้ำหนัก3กิโลเท่านั้น ผมอธิบายให้พนักงานฟังว่าผมเดินทางตลอดกับสายการบินนี้ และไม่เคยมีปัญหานี้ผมสามารถหิ้วขึ้นเครื่องได้เลย พนักงานแจ้งยืนยันว่าไม่สามารถทำได้ เป็นนโยบายที่ไม่อนุญาติให้นำเครื่องดนตรีขึ้นเครื่องได้เด็ดขาดต้องโหลดเท่านั้น ซึ่งผมก็ยังอธิบายย้ำกับพนักงานว่าผมเอาขึ้นเครื่องตลอดมาทั้งปีนี้(ผมเป็นนักดนตรีต้องเดินทางตลอด)

เจอครั้งนี้เป็นครั้งแรกผมถามพนักงานว่าถ้าเป็นนโยบายแล้วตลอดมาผมเอาชึ้นเครื่องได้อย่างไรเขายีนยันหนักแน่นว่าไม่ได้ต้องเสียค่าโหลดเป็นการบังคับเด็ดขาด 900 บาท และพนักงานยังแจ้งอีกว่าเที่ยวบินนี้เต็มยังไงๆกีต้าร์ตัวนี้ขึ้นเครื่องไม่ได้เพราะจะเป็นการรบกวนชั้นวางของแก่ผู้อื่น เพื่อเป็นการจบปัญหาเถียงกันไปก็ไม่มีประโยชน์ผมจึงยอมจ่ายแต่ก็ยังกังวัลในความปลอดภัยของกีต้าร์ว่ามันจะเสียหายอีกหรือไม่ ผมถามพนักงานเขาก็ไม่สามารถยืนยันให้ความมั่นใจในความปลอดภัยแก่ผมได้เขาเข้มข้นกับการเก็บค่าโหลดเพิ่ม 900 เท่านั้นโอเคเมื่อเป็นเช่นนั้นผมก็ต้องทำใจใช่มั้ย

 

เมื่อผมจัดการจ่ายค่าโหลดเรียบร้อย ก็ได้เวลาเครื่องออกระหว่างขึ้นเครื่องก็มีพนักงานมารับกีต้าร์จากมือผมไปเก็บใต้ท้องเครื่อง
(อ้อ..ลืมบอก..ผมต่อรองได้เพียงไม่โหลดผ่านระบบสายพานเท่านั้น..ผมได้รับอนุญาตให้เป็นการโหลดข้างเครื่อง..) ผมสำทับไปด้วยความกังวัลว่าช่วยระวังหน่อยนะครับพอขึ้นเครื่องได้ที่นั่งผมก็มองสำรวจที่ชั้นวางว่ามีที่ว่างเหลือให้ใส่กีต้าร์ได้มั้ย

ปรากฏว่ามีที่เหลือมากมายกว้างขวาง และเมื่อมองสำรวจผู้โดยสายว่าเต็มเที่ยวบินหรือไม่ตามที่พนักงานเคาร์เตอร์กล่าวอ้าง ปรากฏว่าผู้โดยสารไม่เต็มนะครับ ที่นั่งข้างๆผมก็ว่างและมองไปก็พบว่าอีกหลายทีก็ว่าง ผมจึงตัดสินใจแจ้งพนักงานต้อนรับบนเครื่องขอให้นำกีต้าร์ของผมจากท้องเครื่องขึ้นมาเก็บบนเครื่องเพื่อความปลอดภัยให้ผมด้วย และผมก็เล่าเรื่องทั้งหมดที่เกิดขึ้นให้ฟัง พนักงานต้อนรับก็รีบจัดการนำกีต้าร์ขึ้นมาเก็บให้ผมทันที
ต้องขอบคุณในความน่ารักนี้ทำให้เที่ยวบินนี้ผมเดินทางอย่างสบายใจขึ้น

และเมื่อถึงดอนเมือง ด้วยความข้องใจเกี่ยวกับนโยบายเรื่องนี้ผมติดต่อเคาร์เตอร์เซอร์วิสสอบถามปรากฏว่าเจ้าหน้าที่ทุกคนในนั้นทำหน้าแสดงอาการงงงวยว่าเกิดเหตุแบบนี้ได้อย่างไรเจ้าหน้าที่ยันยันกับผมว่าไม่มีนโยบายนี้แน่นอนซึ่งมันก็สอดคล้องกับที่ผมคิดหากมีนโยบายนี้พนักงานต้อนรับบนเครื่องก็คงไม่สามารถนำกีต้าร์มาเก็บบนเครื่องให้ผมได้แน่นอนและที่ผ่านมาของการเดินทางก็ได้ยืนยันแล้วว่าผมสามารถนำกีต้าร์ขึ้นเครื่องได้เพราะฉะนั้นปัญหานี้เกิดขึ้นเพราะบุคคลไม่ใช่ตัวองค์กรแน่นอน เรื่องนี้ผมพบว่าเป็นความไม่ถูกต้องและไม่เป็นธรรมแก่ผู้โดยสารโดยทั่วไปไม่ใช่เฉพาะผมผมจำใจเสียค่าโหลด 900 บาทเพื่อตัดปัญหาแต่ซื้อความไม่สบายใจกลับมาแทน แล้วสรุปผมก็เสียค่าโหลดฟรี900 เพราะกีต้าร์ก็ไม่ได้รับการโหลดแต่อย่างใด วอนทางสายการบินช่วยติดตามด้วย

ขอบคุณข้อมูล Yuwabun Thungsuwan