ใกล้เจอตัว!หลังโซเชี่ยลตามหาสาวชาวดอยกระเตงลูกทำจิตอาสางานพระราชพิธี ยิ่งรู้ข้อมูลยิ่งประทับใจ

จากเรื่องราวที่ถูกบันทึกผ่านเฟซบุ๊คของ หยง ดินรักษ์ฟ้า ถึงเรื่องราวของหญิงสาวเขาพร้อมลูกน้อยที่สะพายอยู่กลางหลังเดินทำหน้าที่จิตอาสาเก็บขยะ ในงานพระราชพิธี  ณ จุดคัดกรองที่ ๙ ถนนพระอาทิตย์ซึ่งสร้างความประทับใจและมีการประกาศตามหาหญิงสาวในภาพนั้น ผู้สื่อข่าวรายงานล่าสุดว่า ข้อมูลของหญิงสาวชาวเขาที่สร้างความประทับใจในโลกโซเชี่ยลค่อยๆมีความชัดเจนเพิ่มเติมเป็นลำดับ

โดยเฟซบุ๊ค ของ หยง ดินรักษ์ฟ้า ให้ข้อมูลเพิ่มเติมอีกว่า “ขยายความเพิ่มเติมครับ ช่วงเวลาประมาณ๓ทุ่ม ในขณะที่ผมกำลังเดินเก็บภาพผู้คนที่ยื่นรอเพื่อคัดกรองเข้าพื้นที่ท้องสนามหลวง ผมเหลือบไปเห็นภาพเธออีกครั้งครับ เธอยีนเข้าเเถวเเละมีเจ้าเด็กตัวน้อยอยู้ข้างหลังเหมือนเดิม เพิ่มเติมคือเด็กผู้หญิงราวๆป๕ ที่เธอจูงอยู่ เลยทำให้ผมมั้นใจว่า เธอเป็นเพียงประชาชนธรรมดาคนที่มีจิต(ที่)อาสา ที่รอต่อคิวคัดกรองเพื่อเข้าท้องสนามหลวง เท่านั้น 

เเต่...ก็เป็นที่น่าเสียดายครับเวลา ๒ยามของวันที่๒๖ เจ้าหน้าที่จุดคัดกรองที่๙ ออกมาบอกว่า พื้นที่ท้องสนามหลวงเต็ม เลยมั้นใจว่าเธอคงไม่ได้เข้า 

ปล. ผมคิดนะครับ หากเธอเปลี่ยนจากเก็บขยะในตอนเช้า ไม่มั่วเเต่ช่วยจิตอาสาเก็บขยะ เเล้วมาเข้าเเถวเพื่อรอคัดกรอง วันนั้นเธอคงได้เข้าร่วมพิธีที่ท้องสนามหลวงเเล้วครับ เเต่นั้นไม่ใช่เธอ เพราะเธอมีจิตที่อาสาครับ”

 

ขณะที่ ผู้ใช้เฟซบุ๊ค Sununtha Bunum  บอกว่า “เธอได้เข้าไปค่ะ เธอกับพวกเราหลายคนยังปักหลักรอถึงแม้เจ้าหน้าที่จะบอกว่าข้างในเต็ม พวกเรานั่งรอนอนตรงจุดนั้นด้วยความหวังว่าจะได้เข้าไปและก็มีคนที่อยู่ด้านหน้าได้ทยอยเข้าไปก่อนตอนก่อนหกโมงเช้า พวกเรายังนั่งรอและสัมผัสหมอกทุมเกตุ จากแถวด้านหน้ามาถึงจุดที่เรายืนอยู่น่าจะประมาณแค่ 20เมตรแต่หางแถวก็ยาวเหมือนกัน เช้าวันที่26 ด้านในกำลังจะมีพิธีขบวนแห่พระอิสริยศ พวกเราต้องรอจนขบวนจบ ถ้าเวลาจำไม่ผิดจุดคัดกรองเปิดให้เข้าเกือบบ่ายสอง หลังจากเข้าไปช่วงตอนเย็นฝนตกหนักมาก หลังจากนั้นยังเห็นเจ้าหน้าที่แบกน้องผู้ชายไปปฐมพยาบาลน้องน่าจะเป็นลมหมดแรง เราเลยเรียกน้องว่าฮีโร่จิตอาสาตัวน้อย”

Sununtha Bunum ให้ข้อมูลอีกว่า “...เวลาตีสามกว่า ตรงจุดคัดกรองถนนพระอาทิตย์ เสียงเด็กผู้ชายร้องงอแงจะออกไปนอกขบวน สักพักเด็กก็เดินออกไปคนเดียว พวกเราในแถวตกใจกันมาก พูดคุยกันว่ากลัวเด็กจะหลงทางเพราะออกไปคนเดียวแม่เขาไปไหน ทำไมปล่อยลูกเดินออกไป เสียงหนึ่งดังขึ้นว่าแม่มีน้องตัวเล็กมาด้วยเลยออกไปตามลูกชายไม่ได้ สักพักกลุ่มจิตอาสามาเดินแจกของ เด็กผู้ชายคนนี้เดินตะโกนแจกของช่วย รับน้ำมั้ยครับ ลูกอมมั้ยครับ ใครจะรับซาลาเปามั้ยครับ เด็กชายจะยิ้มแย้มมีความสุขเมื่อมีคนรับของจากมือเขา พอ แจกหมดเขาก็กลับมาเข้าแถวที่เดิม จึงรู้ทีหลังว่าน่าจะเป็นชาวเขา สายขึ้นมาด้านในพิธีมีเสียงยิงปืนใหญ่ เสียงเด็กบนหลังแม่ร้องไห้ แม่ก็เอาปีโป้ให้ลูกกินแล้วสั่นตัวให้หยุดร้อง ทุกคนในแถวได้ จนถึงเวลาบ่ายโมงกว่าจุดคัดกรองรอเปิด ทุกคนสงสารแม่และเด็กเสนอให้เธอลัดคิวไปก่อน พาลูกเข้าร่ม เธอไม่ยอมออกไปค่ะ นั่งตากแดดอยู่กับพวกเรา จนมีเจ้าหน้าที่มาบอกให้เธอออกไปหลบแดด พอจุดคัดกรองเปิด เธอกับลูกกลับมายืนที่คิวเก่าของตัวเอง ไม่ยอมแซงคิวไปก่อนทั้งที่เธอมีโอกาส เรานับถือน้ำใจเธอมาก มีจิตสำนึกดีกว่าคนไทยบางคนที่มีโอกาสก็แซงคิว ประทับใจเธอกับลูกมาก ตัวเราใช้เวลา 32ชั่วโมงผ่านจุดคัดกรองใต้สะพานปิ่นเกล้านี้ พอเข้าไปข้างในฝนตกหนักมาก เจ้าหน้าที่แบกเด็กออกมาเพราะเป็นลม เด็กชายชาวเขาฮีโร่จิตอาสาคนนั้นเอง”

 

สมาชิกผู้ใช้เฟซบุ๊ค Nok Kosoo บอกว่า “ลูกสาวของน้องคนนี้เรียนที่เดียวกับลูกสาวคะไปรับลูกเจอบ่อยที่ บ.ร(โรงเรียนเบญจมราชาลัย) คะวันที่26ก็ทำจิตอาสาแต่พอเห็นภาพน้องเค้าก็นึกถึงความรักที่เค้าทำทั้งหน้าที่แม่และประชาชนของพ่อถ้าเจอเค้าจะบอกน้องเค้าว่ามีคนชมมากๆคะ” 
มีผู้ให้ข้อมูลเพิ่มเติมอีกว่า ลูกสาวของหญิงชาวดอยคนนี้ ชื่อหญิง ส่วน ลูกชาย ชื่ออาฉ่าง บ้านอยู่ซอยสวนมะลิ

โดย ผู้ใช้เฟซบุ๊คNapaporn Pittayawaraporn บอกว่า “มีโอกาสบันทึกรูปเธอและลูกทั้งสามเมื่อช่วงเดือนมีนาคม ๒๕๖๐ ที่เต็นท์พักรอกลางท้องสนามหลวง เคยถามไถ่รายละเอียดของเธอ แต่เธอและลูกๆค่อนข้างขี้อาย และมักจะขอตัวไปทำหน้าที่เก็บขยะ ซึ่งตลอดปีที่ทำกิจกรรมอ่านระหว่างรอ ก็จะเจอะเจอเธอและลูกๆสม่ำเสมอ ช่วงที่ยังมีนิทรรศการเย็นศิระเพราะพระบริบาล หลังเสร็จภารกิจจิตอาสา เธอก็จะชวนลูกๆเข้าไปชมนิทรรศการเท่าที่โอกาสเอื้ออำนวย สรุปว่าเธอทำหน้าที่จิตอาสาแบบไร้สังกัดมาร่วมปีได้”

ผู้ใช้เฟซบุ๊ค Narachon Songsomboon ให้ข้อมูลอีกว่าลูกชายที่ชื่ออาฉ่าง ก็ทำหน้าที่จิตอาสาไม่ต่างจากแม่ของเขา “ ลูกชายอีกคนใช่คนนี้มั้ยคะ เจอบนสะพานพระปิ่นเกล้าวันที่ 26 ตุลาคม ประมาณ 8 โมงกว่าๆ น้องเอาขนมห่อเล็กๆ มาเดินแจก ทำหน้าที่แข็งขันมากค่ะ บอกให้คนละ 1 ชิ้นเท่านั้น มีคนจะขอเผื่อคนข้างหลังที่เอื้อมไม่ถึงน้องยังไม่ให้เลย พยายามเดินไปแจกให้ถึงมือน้องมาคนเดียว บอกเดินไปเรื่อยๆ เดี๋ยวก็เจอแม่”

 

ทั้งนี้เรื่องราวดังกล่าวเกิดขึ้นจากเฟซบุ๊คของเฟซบุ๊คของ หยง ดินรักษ์ฟ้าที่โพสต์ภาพและเนื้อหาและมีการแชร์ต่อจนเป็นกระแสในโลกโซเชี่ยล
“ณ งานพระราชพิธี จุดคัดกรองที่ ๙ ถนนพระอาทิตย์ ..
.. มีคายะทิงมายคะ คายมีคายะทิง บาคะ .. ( มีขยะทิ้งมั้ยคะ ใครมีขยะทิ้งบ้างคะ )
สำเนียงที่พูดภาษาไทยไม่ชัด ดังขึ้นตลอดถนนพระอาทิตย์ สะกิดหูให้ผมสนใจ เมื่อหันกลับไปพบว่า สิ่งที่น่าสนใจกว่าเสียงนั้นก็คือ ภาพผู้หญิงคนนึงสะพายลูกไว้ข้างหลัง กำลังช่วยกลุ่มจิตอาสาเก็บขยะ

 

ภาพข้างหน้าทำให้ผมตื่นเต้น ตื้นตัน มันเป็นภาพที่น่าชื่นชมยิ่ง กับสิ่งที่เธอทำ เธอไม่มีหมวก เหมือนจิตอาสาคนอื่นๆ ผ้าพันคอ ป้ายชื่อก็ไม่มี แต่ .. เธอมีจิต ( ที่ ) อาสา

 

ผมไม่รีรอที่จะเดินตามเพื่อเก็บภาพของเธอ จังหวะหนึ่งลูกเธอร้อง เธอหยุดหยิบขวดน้ำในกระเป๋าป้อนลูกด้วยแววตาของคนเป็นแม่ .. หลังป้อนเสร็จ เธอกะไม่รีรอที่จะหยิบถุงขยะ แล้วเดินต่อไป .. มีคายะทิงมายคะ คามีคายะทิงบาคะ .. ด้วยสีหน้าที่มีความสุข ..

 

ผมพยายามวิ่งเข้าไปถามเธอว่า เธอมาจากไหน หล่อนตอบด้วยสีหน้ายิ้มแย้มว่า .. แถๆเน่ลาคา .. ( แถวๆนี้ล่ะค่ะ ) แล้วเธอก็หันหลังพร้อมตะโกนด้วยถ้อยคำเดิม .. มีคายะทิงมายคะ คามิคายะทิงบาคะ .. ด้วยสีหน้ายิ้มแย้มแบบเดิม ..
ช่วงคำ่ๆประมาณสามทุ่ม ผมเห็นเธอสะพายลูกไว้ข้างหลัง ( เหมือนเดิม ) วิ่งไปต่อแถวเพื่อเข้าบริเวณท้องสนามหลวง จุดคัดกรองที่ ๙ หลังจากนั้น ผมก็ไม่เห็นเธออีก ..

.. ประกาศตามหาผู้หญิงชาวดอยในภาพ ใครรู้จักฝากบอกเธอด้วยว่า คนดีๆอย่างนี้ ผมขอชื่นชมด้วยใจจริง ...!!!”

 

 

Cr.FB: หยง ดินรักษ์ฟ้า