- 01 พ.ย. 2560
กราบสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณเป็นล้นพ้น!!ไม่ใช่ปาฎิหาริย์แต่เพราะพระปรีชาสามารถล้วนๆของในหลวงร.9ที่พลิกดอยแห้งแล้งเป็นดอยอ่างขางที่อุดมสมบูรณ์
ในเฟสบุคของบุคคลที่ใช้ชื่อว่า พิษณุ โถยอด ได้โพสต์ถึงโครงการพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช โดยเปรียบเทียบให้เห็นถึงความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้น จากก่อน และ หลังโครงการพระราชดำริ
"ครั้งเมื่อพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร ได้เสด็จพระราชดำเนินไปทรงงานยังบ้านคุ้ม อ่างขาง ช่วงประมาณปี2517-2518 นั้น พื้นที่ดังกล่าวมีสภาพแห้งแล้ง และ ไม่มีป่าไม้ปกคลุมอยู่เลย
หลังจากทรงมีพระราชดำริที่จะพลิกฟื้น ป่า น้ำ ดินในที่ดินเสื่อมโทรมบนดอยสูง ทุกอย่างก็ค่อยๆเปลี่ยนไปช้าๆ ในเวลาหลายสิบปีนี้ พระองค์เสด็จไปติดตามความคืบหน้าของโครงการอีกนับสิบครั้งเพื่อรับทราบปัญหา แก้ไขปัญหา พระราชทานคำแนะนำ ตลอดจนเสริมสร้างขวัญกำลังใจแก่เจ้าหน้าที่ผู้ปฎิบัติงานในถิ่นทุรกันดารนั้นด้วยพระองค์เอง ป่าไม้เริ่มกลับมามีชีวิตเมฆหมอกนำพาไอน้ำ และสายฝนมาชุบเลี้ยงต้นไม้ต่างๆ ให้แย่งกันเติบโต แทงยอดเบียดเสียดแน่นไปทั่วภูเขา ผลผลิตด้านเกษตรกรรมมากมายมหาศาลเริ่มต้นขึ้นมาจากศูนย์ศึกษาต้นแบบแห่งนี้ แล้วกระจายไปยังอีกหลายสิบดอยทั่วทั้งภาคเหนือ
ภาพปัจจุบัน ถ่ายในวันที่ 26 ตุลาคม2560 หลังพระราชพิธีฯ ( นอกพื้นที่จัดงานถวายดอกไม้จันทน์) เราไม่สามารถยืนถ่ายภาพจากพื้นดิน ดั่งเช่นที่เห็นในภาพต้นฉบับได้อีกต่อไป เนื่องจากปัจจุบันพื้นที่ซึ่งพระองค์ทรง#ย่างพระบาทยาตรา ผ่านไปนั้นเต็มไปด้วยต้นไม้สูงใหญ่ ถนนเส้นหลัก เสาไฟฟ้า โรงเรือนเพาะชำ และสวนสวยๆที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวให้เข้าเก็บเกี่ยวความสุขไม่ว่างวัน แต่ถ้าสังเกตุสักนิดก็จะเห็นว่า ภูเขาต่างๆในภาพทั้งสองภาพนี้ เป็นภูเขาชุดเดียวกัน เพียงแต่ใช้เลนส์ต่างระยะ และถ่ายที่ต่างความสูงกันเท่านั้น
ทั้งหมดนี้ล้วนเกิดขึ้นได้ด้วยสายพระเนตรที่ยาวไกลพระเมตตาคุณ พระมหากรุณาธิคุณ ซึ่งพระราชทานไว้เนิ่นนานเกินกว่าที่หลายท่านจะสามารถจดและจำ นี่ไงครับปาฎิหาริย์ที่คนไทยจำนวนมากอยากให้มี ปาฎิหารย์ที่สร้างด้วยหยาดพระเสโทของพระมหากษัตริย์ที่หลั่งรดชะโลมดิน"
ขอบคุณ: ภาพ และ ข้อมูล จากเฟสบุค พิษณุ โถยอด