อุทาหรณ์!!! จัดฟันแฟชั่น ฟันร่วง หมดปาก อันตรายมากกว่าที่คุณคิด!! เพราะการจัดฟันไม่ใช่เรื่องแฟชั่น

ติดตามข่าวสารได้ที่ www.tnews.co.th

เมื่อวันที่ 14 พฤศจิกายน 2560 ในโลกโซเชียลได้แห่แชร์ภาพของฟันหลุดออกมาทั้งปาก พร้อมมีเหล็กติดอยู่ที่ฟัน 

โดยจากการที่ภาพนี้ถูกโพส์ตโดยเพจ หมอแล็บแพนด้า บรรยายว่า นี่คือการดึงฟันมาจัดนอกปาก 
เดี๋ยวๆ อ่าววว...ฟันร่วงหมดปากหรอกเหรอ??? 
#ผลของการจัดฟันเถื่อน #จัดฟันแฟชั่น
Credits : Eduardo O. Ricio

อุทาหรณ์!!! จัดฟันแฟชั่น ฟันร่วง หมดปาก อันตรายมากกว่าที่คุณคิด!! เพราะการจัดฟันไม่ใช่เรื่องแฟชั่น
ทำให้เกิด คอมเม้นต่างๆนาๆ บ้างก็บอกว่าเพื่อนเคยไปทำ แฟนเคยไป ซึ่งก็ล้วนเกิดผลเสียด้วยกันทั้งสิ้น เรียกได้ว่าเป็นอุทาหรณ์ของสาวกจัดฟันแฟชั่นให้ได้คิด และไม่ควรทำตาม 


มาทำความรู้จักเพิ่มเติม กับการจัดฟันแฟชั่นคืออะไร เหล็กดัดฟันแฟชั่น อันตรายจริงหรือ

อุทาหรณ์!!! จัดฟันแฟชั่น ฟันร่วง หมดปาก อันตรายมากกว่าที่คุณคิด!! เพราะการจัดฟันไม่ใช่เรื่องแฟชั่น
จัดฟันแฟชั่น คืออะไร เมื่อใครๆ ก็ต้องการที่จะมีฟันสวย และเมื่อตนเองยิ้มออกมา ก็อยากให้คนที่เห็นตนเองยิ้มต่างชื่นชมในฟันที่สวยงาม
ดังนั้น เพื่อให้เกิดเหตุการณ์อย่างที่กล่าวไปข้างต้นได้ คุณจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องจัดฟันของคุณเองให้สวยงาม
เพื่อให้คุณมีแนวทางในการเลือกเกณฑ์ การจัดฟันที่เหมาะสมกับตนเอง ทางที่ดีควรไปพบทันตแพทย์เพื่อรับการรักษา และทำอย่างถูกวิธี
 

อันตรายที่พบในการจัดฟันแฟชั่น

อุทาหรณ์!!! จัดฟันแฟชั่น ฟันร่วง หมดปาก อันตรายมากกว่าที่คุณคิด!! เพราะการจัดฟันไม่ใช่เรื่องแฟชั่น

ลวดดัดฟัน หรือ เหล็กดัดฟัน ที่ขายตามท้องตลาด เป็นลวดที่ไม่ได้ใช้สำหรับดัดฟันโดยเฉพาะ มีส่วนผสมของ ตะกั่ว โครเมียม สารหนู ถ้าสะสมในร่างกายมากๆ จะทำให้ไตวาย
ยางยึดฟัน ไม่ได้มาตรฐาน ไม่มีการฆ่าเชื้อ ซึ่งจะมีเชื่อโรคสะสมหรือสารเคมี เมื่อเอามาติดในปากของเรา
อาจจะทำให้วัสดุในการจัดฟันหลุด เพราะไม่มีความแข็งแรงและเข้าไปในร่างกาย หรือหากเป็นชิ้นใหญ่ก็จะติดที่หลอดลม ทำให้ขาดอากาศหายใจและตายได้
ปัจจุบัน สคบ. ออกมาเตือนให้ระวังสินค้าเถื่อน-อันตราย ที่ขายอยู่บนเว็บไซต์ เฟสบุ๊ค และตามท้องถนนเกลื่อน
โดยเฉพาะ “ลวดจัดฟันแฟชั่น” ที่ขายกันเกลือนอยู่ตอนนี้ ด้านทันตแพทย์ชี้ “จัดฟันแฟชั่น” ผิดกฎหมาย
วัยรุ่นซื้อลวดจัดฟันแฟชั่นมาติดเอง เสี่ยงฟันพัง-ใบหน้าเปลี่ยน-ติดเชื้อลามหัวใจและสมอง โอกาสเป็น “โรคเอ๋อ” ได้
ยังไงรู้อย่างนี้แล้ว ก็ขอให้เคสนี้เป็นอุทาหรณ์ที่สอนใจหลายๆ ว่ามันอันตรายมากกว่าที่คุณคิด ใครทำอยู่เลิกทำด่วนเลยนะคะ

ข้อมูลจาก.mahosot.com