- 30 พ.ย. 2560
ติดตามความเคลื่อนไหวได้ที่เพจความจริง และ www.tnews.co.th
นักวิจัยในสวีเดนค้นพบแหล่งเก็บปลาร้าที่เก่าแก่ที่สุดในโลกอายุกว่า 9,200 ปี ในบริเวณที่เคยเป็นทะเลสาบในเบลกิงจ์ (Blekinge) ทางตอนใต้ของประเทศสวีเดน ซึ่งแสดงให้เห็นถึงประวัติศาสตร์ดึกดำบรรพ์ของชาวยุโรป ด้วยว่าการค้นพบในครั้งนี้สามารถบอกได้ว่า ชุมชนนอร์ดิก(ชนพื้นเมืองในสแกนดิเนเวีย)ซับซ้อนกว่าที่เคยคิดไว้ "อดัม โบเธียส" (Adam Boethius) ผู้เชี่ยวชาญด้านกระดูกจากมหาวิทยาลัยลุนด์ (Lund University) ผู้ศึกษาค้นคว้าในเรื่องนี้
"ผลการค้นพบของเราเกี่ยวกับการหมักปลาร้า ซึ่งเป็นวิธีดั้งเดิมในการเก็บรักษาปลาแสดงให้เห็นว่าไม่เพียงแต่พื้นที่ดังกล่าวเคยเป็นที่ตั้งของชุมชน แต่มันยังบอกได้อีกว่าพื้นที่ดังกล่าวสามารถรองรับผู้คนจำนวนมากได้อีกด้วย" อดัม โบเธียส กล่าว
การค้นพบนี้ยังเป็นข้อบ่งชี้ว่าชุมชนชาวนอร์ดิกได้พัฒนาขึ้นเมื่อ 9,200 ปีที่ผ่านมา ซึ่งมากกว่าที่เคยเชื่อกันมาก่อนหน้านี้ การค้นพบมีความสำคัญมากเนื่องจากเชื่อกันมานานมากว่าผู้คนชาวนอร์ดิกยังไม่ได้อยู่อาศัยกันแบบชุมชน มีการเคลื่อนย้ายถิ่นฐานไปเรื่อยๆ ซึ่งขณะที่คนในเมืองลิแวนต์ (Levant พื้นที่ขนาดใหญ่ในตะวันออกกลางด้านที่ติดกับทะเลเมดิเตอร์เรเนียน) เริ่มเข้ามาตั้งรกรากทำการเกษตรและทำปศุสัตว์ก่อนหน้าชาวนอร์ดิก
"ผลการวิจัยเหล่านี้แสดงให้เห็นถึงข้อเท็จจริงที่แตกต่างออกไป โดยชาวนอร์ดิกได้เข้ามาตั้งถิ่นฐานมานานกว่าที่เคยคิดไว้มาก และเริ่มใช้ประโยชน์จากทะเลสาบและทะเลเพื่อทำประมงและแปรรูปปลา จากมุมมองทั่วโลกการพัฒนาในภูมิภาคนอร์ดิกอาจสอดคล้องกับตะวันออกกลางในเวลานั้น" อดัม โบเธียส กล่าว
"การค้นพบนี้ค่อนข้างเป็นเอกลักษณ์เพราะการค้นพบแบบนี้ไม่เคยเกิดมาก่อน ส่วนหนึ่งเป็นเพราะกระดูกปลามีความเปราะบางและย่อยสลายได้ง่ายกว่ากระดูกสัตว์บก ในกรณีนี้สภาพแวดล้อมมีส่วนช่วยรักษาซากปลาโบราณเหล่านี้หลงเหลือเป็นหลักฐานมาถึงปัจจุบัน" อดัม โบเธียส กล่าว
กระบวนการหมักก็ค่อนข้างซับซ้อน เนื่องจากผู้คนในยุคนั้นยังไม่สามารถผลิตเกลือหรือความสามารถในการทำภาชนะเซรามิคบรรจุปลาเพื่อทำการหมักได้ พวกเขาจึงต้องหมักปลาโดยใช้เปลือกไม้สนและไขมันแมวน้ำ จากนั้นจึงห่อทั้งหมดไว้ในหนังหมีแล้วนำไปฝังดิน กลบด้วยดินโคลน การหมักแบบนี้ต้องใช้สภาพอากาศหนาวเย็นเท่านั้น
ขอบคุณข้อมูลจาก : lunduniversity , silpa-mag