คนไทยอาจลืมเขาไป?? อีกหนึ่งบุคคลแห่งปี!! "ทนายอนันต์ชัย" ผู้อยู่เบื้องหลัง คดี7โจ๋ ฆ่าคนพิการ จนนาทีสุดท้าย ทำให้รู้ความยุติธรรมมีอยู่จริง!!

จากกรณี  ศาลอาญามีคำพิพากษา คดี 7 โจ๋ ฆ่าคนพิการ โดยระบุรายละเอียดเอาไว้ว่า จำเลยที่ 2 จำเลยที่ 4 จำเลยที่ 5 และจำเลยที่ 6 มีความผิด ป.อ. มาตรา 362,364,365 ประกอบ ป.อ.มาตรา 83 และจำเลยที่ 1,2,3,6 มีความผิดตาม ป.อ. มาตรา 288 ประกอบ ป.อ.มาตรา 83 จำเลยที่ 4 จำเลยที่ 5 และจำเลยที่ 7 มีความผิดตามป.อ. มาตรา 288 ประกอบ ป.อ.มาตรา 86 จำเลยที่ 1,2,3 และ 6 มีความผิดตาม ป.อ. มาตรา 371 ประกอบ ป.อ.มาตรา 83 การกระทำของจำเลยที่ 1-6 เป็นความผิดหลายกรรมต่างกัน ให้ลงโทษทุกกรรมเป็นกระทงความผิดตาม ป.อ.มาตรา 91 ฐานร่วมกันบุกรุก ลงโทษ จำเลยที่ 2,4,5,6 จำคุกคนละ 1 ปี ฐานร่วมกันฆ่าผู้อื่น ลงโทษ จำเลยที่ 1,2,3,6 คนละ 18 ปี ฐานร่วมกันช่วยเหลือหรือให้ความสะดวกในการฆ่าผู้อื่น ลงโทษ จำเลยที่ 4,5 และ 7 คนละ 12 ปี ฐานร่วมกันพกพาอาวุธไปในเมือง หมู่บ้านหรือทางสาธารณะ โดยไม่มีเหตุอันสมควร ลงโทษจำเลยที่ 1,2,3 และ 6 คนละ 1,000 บาท รวมจำคุกจำเลยที่ 1,3 มีกำหนด คนละ 18 ปี ปรับ 1,000 บาท รวมจำคุกจำเลยที่ 2,6 คนละ 19 ปี ปรับ 1,000 บาท จำเลยที่ 4, 5 และ 7 คนละ 12 ปี ปรับ 1,000 บาท ให้จำเลยที่ 1 ,จำเลยที่ 3 และจำเลยที่ 6 ใช้ค่าเสียหายแก่โจทก์ร่วมที่ 1 เป็นเงิน 500,000 บาท พร้อมดอกเบี้ยร้อยละ 7.5 ต่อปี นับแต่วันที่ 1 พฤษภาคม 2559 เป็นต้นจนกว่าจะชำระเสร็จแก่โจทก์ร่วมที่ 1 โดยให้จำเลยที่ 4 จำเลยที่ 5 และจำเลยที่ 7 ร่วมกับจำเลยที่ 1 จำเลยที่ 2 จำเลยที่ 3 และจำเลยที่ 6 ชดใช้ค่าเสียหาย เป็นเงิน 250,000 บาท พร้อมดอกเบี้ยร้อยละ 7.5 ต่อปี นับแต่วันที่ 1 พฤษภาคม 2559

สรุป ศาลอาญาพิพากษาว่า จำเลยทั้งหมดมีความผิดและสั่งลงโทษจำคุก ดังนี้
- จำเลยที่ 1,3 จำคุกรวม 18 ปี ปรับ 1,000 บาท
- จำเลยที่ 2,6 จำคุกรวม 19 ปี ปรับ 1,000 บาท
- จำเลยที่ 4,5,7 จำคุกรวม 12 ปี ปรับ 1,000 บาท

จำเลยที่ 1,2,3 จ่ายค่าเสียหาย 5 แสนบาท พร้อมดอกเบี้ย 7.5 ต่อปี
จำเลยที่ 4,5,7,3,6 จ่ายค่าเสียหาย 2.5 แสนบาท พร้อมดอกเบี้ย 7.5 ต่อปี

จำเลยที่ 1 นายพีรพล หรือเปา ยศพงศ์อนันต์ 
จำเลยที่ 2 นายอัครเดช หรืออั๋น ทัศนะ 
จำเลยที่ 3 นายมนต์มนัส หรือเต้ย แสงโพธิ์ 
จำเลยที่ 4 นายจตุพร หรือเบียร์ จันทร์โสภา
จำเลยที่ 5 นายเมฆ พลไกรษร
จำเลยที่ 6 นายอรินทร์ หรือเตอร์ ยศพงศ์อนันต์
จำเลยที่ 7 นางสาวณัฐณิชา หรือเกมส์ ฤทธิ์ล้ำเลิศ

คนไทยอาจลืมเขาไป?? อีกหนึ่งบุคคลแห่งปี!! "ทนายอนันต์ชัย" ผู้อยู่เบื้องหลัง คดี7โจ๋ ฆ่าคนพิการ จนนาทีสุดท้าย ทำให้รู้ความยุติธรรมมีอยู่จริง!!

คนไทยอาจลืมเขาไป?? อีกหนึ่งบุคคลแห่งปี!! "ทนายอนันต์ชัย" ผู้อยู่เบื้องหลัง คดี7โจ๋ ฆ่าคนพิการ จนนาทีสุดท้าย ทำให้รู้ความยุติธรรมมีอยู่จริง!!

โดยในเวลาต่อมาบนเฟซบุ๊กของ ทนาย อนันต์ชัย ไชยเดช ได้ระบุเพิ่มเติมว่า ด้วยความเคารพในคำพิพากษาของศาล ผมพอใจ แต่ไม่พอใจพนักงานสอบสวนที่ไม่แจ้งข้อหา ฆ่า โดยไตร่ตรองไว้ก่อนครับ น่าเสียดายมาก

จากเรื่้องราวดังกล่าวนั้น ความโกรธแค้นหรือความเดือดในเหตุการณ์วันนั้น อาจลดน้อยถอยลงไปบ้าง แต่ต้องขอเตือนคนไทยว่าอย่าได้ลืม ทนายคนเก่งอย่าง ทนาย  อนันต์ชัย ไชยเดช ผู้ที่อยู่เบื้องหลังเหตุการณ์ดังและต่อสู้แม้จะมีการขู่ทำร้ายมายังทนายใน ณ ขณะนั้น แต่ ทนาย อนันต์ชัย ก็ยังคงยืนหยัดที่จะต่อสู้จนจบคดีและเป็นที่น่าพอใจมากๆ สำหรับสังคมไทยให้รู้สึกว่าความยุติธรรมนั้น ยังมีอยู่จริง

 

โดยจากโพสต์เรื่องราวดังกล่าวนั้นก็มีคนเข้ามาชื่นชมทนายเป็นจำนวนมาก โดยระบุอาทิเช่น ขอยกให้ท่าน ทนาย อนันต์ชัย ไชยเดช เป็นบุคคลแห่งปี ด้านความยุติธรรม ครับ ทำให้เราเห็นว่า กระบวนการยุติธรรม ยังคงมีความเที่ยงธรรม ถึงท่านจะไม่ค่อยออกสื่อ แต่ท่านทำหน้าที่จบ ครบถ้วน สมบูรณ์.. ขอแสดงความนับถือครับ , ขอบคุณทนาย อนันต์ชัย คุ้มครอง ครับที่ทำให้คนผิดรับโทษในสิ่งที่เค้าทำลงไป. ดีใจครับที่ได้เห็นคนดี. ยังมีอยู่ในสังคมในทุกวันนี้ที่ทำให้กับครอบครัวของผู้เสียชีวิตได้รับความเป็นธรรม. ขอให้ทนายสู้เพื่อสิ่งที่ดีๆแบบนี้ตลอดไปครับ , ต้องขอบคุณคุณทนายที่ตามเรื้องจนจบสิ้นขบวนความ เพราะถ้าไม่มีคุณทนายผมคิดว่าคงยังถามหาหลักฐานอยู่อีก จนหลักฐานอ่อนและฟ้องสถานเบากว่านี่แน่ๆ ครับ ขอบคุณแทนชาวบ้านตาสีตาสาทุกคนครับ , ขอ ขอบคุณมากจริงๆค่ะ ที่ไม่เคยท้อถอย. ขอบคุณในความช่วยเหลือครอบครัวของพี่เขา. และขอเป็นกำลังใจให้คุณตลอดไป. คุณคือ ผู้ทรงคุณค่า คุณคือผู้ทรงธรรมตัวจริง. ขอบคุณอีกครั้งค่ะ คุณทนาย 

สำหรับประวัติ : ทนายอนันต์ชัย ไชยเดช
กรรมการผู้จัดการ บริษัท กฎหมายอนันต์ชัย ไชยเดช จำกัด
                  
พ.ศ. 2557 จบการศึกษาชั้นปริญญาโท นิติศาสตรมหาบัณฑิต จากมหาวิทยาลัยอีสเทอร์นเอเชีย
พ.ศ. 2556 จบหลักสูตรพัฒนาสัมพันธ์ระดับผู้บริหาร กองบัญชาการกองทัพไทย รุ่น 4 จากสถาบันจิตวิทยาความมั่นคง สถาบันวิชาการป้องกันประเทศ
พ.ศ. 2548 จบหลักสูตรเจ้าหน้าที่รายการวิทยุกระจายเสียง รุ่นพิเศษ 48 จากสถาบันการประชาสัมพันธ์ กรมประชาสัมพันธ์
พ.ศ. 2547 จบหลักสูตรประกาศนียบัตรกฎหมายชั้นสูง รุ่นที่ 6 จากสถาบันวิชาชีพกฎหมายชั้นสูง สภาทนายความ
พ.ศ. 2546 จบหลักสูตรโนตารีปับลิก รุ่นที่ 4 จากสภาทนายความ
พ.ศ. 2529 จบการศึกษาเนติบัณฑิตไทย จากสำนักอบรมศึกษากฎหมายแห่งเนติบัณฑิตยสภา สมัยที่ 39
พ.ศ. 2527 จบการศึกษาชั้นปริญญาตรี นิติศาสตรบัณฑิต จากมหาวิทยาลัยรามคำแหง รุ่นที่ 10

ประวัติการทำงานด้านกฎหมายและผลงาน 
- ประกอบอาชีพทนายความมาตลอด 31 ปี
- เป็นที่ปรึกษากฎหมายบริษัท โฟร์คิง สตูดิโอ จำกัด
- เป็นที่ปรึกษากฎหมายนิตยสารบริษัท เดทัมกรุ๊ป จำกัด
- เป็นที่ปรึกษากฎหมายบริษัท ฮาตาริเทคโนโลยี่ จำกัด
- เป็นที่ปรึกษากฎหมายบริษัท แคลร์เอ็นเตอร์ไพรส์ จำกัด
- เป็นที่ปรึกษากฎหมายบริษัท ศรุตยา จำกัด
- เป็นที่ปรึกษากฎหมายบริษัท เควสท์ (ประเทศไทย) จำกัด
- เป็นที่ปรึกษากฎหมายบริษัท สโตน บีลีฟเวอร์ จำกัด
- เคยทำคดีดังและเป็นข่าวปรากฏตามสื่อสารมวลชน เช่น โทรทัศน์ วิทยุ หนังสือพิมพ์ เว็ปไซท์ฯ หลายคดี อาทิ
 
1. ปี พ.ศ. 2544 เป็นทนายความให้กับ ดร.วีระศักดิ์ อาภารักษ์ ฟ้องร้องดำเนินคดีกับนายทนง พิทยะ ปรากฏตามภาพข่าวจากหนังสือพิมพ์ พิมพ์ไทย ฉบับลงวันที่ 4 ธันวาคม 2544 จนได้ให้คำชมเชยเป็นฉายาว่า “แจ็คผู้อาสาฉีกหน้ากากยักษ์ขี้ฉ้อ”
2. ปี พ.ศ. 2544 เป็นทนายความให้กับกลุ่มผู้ค้าหูฉลามย่านเยาวราช ฟ้องร้องดำเนินคดีกับองค์กรอนุรักษ์สัตว์ป่านานาชาติ (ไวล์ดเอด) จนปรากฏภาพข่าวโด่งดังไปทั่วโลก
3. ปี พ.ศ. 2547 เป็นทนายความให้กับนายวีระ ลิมปะพันธ์ นายกสมาคมนักวิทยุและโทรทัศน์แห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์ ฟ้องร้องดำเนินคดีกับกรรมการของสมาคมฯ ที่กล่าวหาว่ายักยอกทรัพย์
4. ปี พ.ศ. 2548 - 2549 เป็นทนายความให้กับนางสาวชุติมา นัยนา (เอ้) อดีตนางสาวไทย และดารา    นักแสดง ฟ้องร้องดำเนินคดีกับนิตยสารกอซซิปสตาร์ที่กล่าวหาว่านางสาวชุติมา นัยนา เป็นแม่เล้า
5. ปี พ.ศ. 2549 เป็นทนายความให้กับนางสาวสกาวใจ พูลสวัสดิ์ (อ๋อม) ดารานักแสดง ฟ้องร้องดำเนินคดีกับบริษัท เอ็น.บี.ดี เฮลแคร์ จำกัด ในข้อหาละเมิด หมิ่นประมาทโดยการโฆษณา กรณีที่บริษัทแอบอ้างว่านางสาวสกาวใจเป็นตัวแทนงานโฆษณาของบริษัท
6. ปี พ.ศ. 2549 - 2555 เป็นทนายความให้กับพลตำรวจเอกเสรีพิศุทธ์ เตมียาเวส อดีตผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ และเจ้าหน้าที่ชุดเฉพาะกิจปราบปรามผู้มีอิทธิพลเกี่ยวกับสถานบริการและแหล่งอบายมุข ฟ้องร้องดำเนินคดีกับ พลตรีขัตติยะ สวัสดิผล และนายไพรจิตร ธรรมโรจน์พินิจ (ปอ ประตูน้ำ) ฯ
7. ปี พ.ศ. 2551 หลังการฟ้องร้องดำเนินคดีกับผู้มีอิทธิพล จึงถูกกลุ่มผู้มีอิทธิพลใช้มีดสปาต้าฟันศีรษะที่บริเวณศาลอาญา อันเป็นผลมาจากจากการว่าความและดำเนินคดีในชั้นศาลโดยไม่เกรงกลัวต่อผู้มีอิทธิพล ซึ่งปรากฏภาพข่าวตามสื่อสารมวลชนทุกแขนง จนหนังสือพิมพ์เดลินิวส์ ฉบับลงวันที่ 23 เมษายน 2551 ได้ให้คำชมเชยเป็นฉายาว่า “ทนายกระดูกเหล็ก”
8. ปี พ.ศ. 2553 เป็นทนายความให้กับนางสาวสุรางคนา สุนทรพนาเวศ (ตา) อดีตรองนางสาวไทยและดารานักแสดง ฟ้องร้องดำเนินคดีกับ บริษัท ทีวีไดเร็ค จำกัด กรณีผิดสัญญาว่าจ้างและตัวแทน
9. ปี พ.ศ. 2554 เป็นทนายความให้กับนายวิกิจ ธนสารสมบัติ ประธานบริษัทผลิตเสื้อยืดตราห่านคู่กรณีถูกหุ้นส่วนรุมทำร้ายร่างกายจนได้รับอันตรายถึงแก่ชีวิต 
10. ปี พ.ศ. 2556 เป็นทนายความให้กับนางสาวกมลนันท์ สังเกต ประติมากร และกรรมการบริษัท ร็อคคลา ไฟน์ อาร์ท จำกัด คดีที่ผู้เสียหายฟ้องต่อศาล ใช้เอกสารปลอม ยักยอก รท. เก๊ ตุ๋นไฮโซ ทั้งรถเก๋งและของหรู
11. ปี พ.ศ. 2559 เป็นทนายให้กับนายสมเกียรติ ศรีจันทร์ (ชายพิการ) ที่ถูก 6 โจ๋รุมทำร้ายร่างกายจนถึงแก่ชีวิต
12. ปี พ.ศ. 2559 เป็นทนายความให้กับนายสาธร พุทธชัยยงค์ บิดาของนักเรียนนายร้อยตำรวจที่ฝึกโดดร่ม แล้วร่มไม่กาง เป็นเหตุให้เสียชีวิตเมื่อปี พ.ศ. 2557
13. ปี พ.ศ. 2559 คดีบริษัท ยูฟันสโตร์ จำกัด
14. คดีอื่นๆ
-คดีโรงโม่หิน
-คดีฆ่าปาดคอ
-คดีฆ่า 3 ศพ
-คดีพ่อค้า-แม่ค้าประท้วงเจ้าอาวาสวัดสามัคคีธรรม
-คดีชกพระ
-คดีฉกเงิน 3 ล้าน ธนาคารแห่งประเทศไทย
-คดีอุ้มเสี่ยค้าของเก่า

ประวัติการทำงานด้านสังคมและผลงาน
1. ปี พ.ศ. 2550 จนถึงปัจจุบัน เป็นกรรมการและเลขาธิการสมาคมนักวิทยุและโทรทัศน์แห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์
2. ปี พ.ศ. 2550 จนถึงปัจจุบัน เป็นรองประธานกรรมการมูลนิธิสามัคคีธรรมทาน   
3. ปี พ.ศ. 2550 เป็นนักจัดรายการวิทยุของสมาคมนักวิทยุและโทรทัศน์แห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์ ยูเอฟเอ็ม คลื่นความถี่ 100.25 เมกกะเฮิร์ต ในรายการ “คลินิกกฎหมาย” ให้ความรู้ด้านกฎหมายกับประชาชน
4. วันที่ 6 มีนาคม 2550 ได้รับรางวัล “เทพทองพระราชทาน” ประเภทบุคคลดีเด่นด้านวิทยุกระจายเสียง จากสมาคมนักวิทยุและโทรทัศน์แห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์ โดยมีพลอากาศเอกกำธน สินธวานนท์ องคมนตรี ผู้แทนในองค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ เป็นประธานในงานนี้
5. ปี พ.ศ. 2552 ได้รับรางวัล “โล่เกียรติคุณและเข็มเชิดชูเกียรติทองคำ” ประเภทผู้ประกาศ ผู้จัดรายการวิทยุกระจายเสียงและวิทยุโทรทัศน์ดีเด่น ผู้ใช้ภาษาไทยถูกต้องและชัดเจน ประจำปี พ.ศ. 2552 จากมูลนิธิอนุสรณ์หม่อมงามจิตต์ บุรฉัตร โดยมีพระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าโสมสวลี พระวรราชาทินัดดามาตุ เป็นผู้ประทานรางวัล
6. วันที่ 5 ธันวาคม 2555 ได้รับประกาศนียบัตรให้เป็น “พ่อตัวอย่างแห่งชาติ" ประจำปี พ.ศ. 2555 จากสมาคมผู้อาสาสมัครและช่วยการศึกษา โดยมีพลอากาศเอกกำธน สินธวานนท์ องคมนตรี ผู้แทนในองค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ เป็นประธานในงานนี้
 และล่าสุด สภาศิลปินสร้างสรรค์สังคม ร่วมกับสถาบันส่งเสริมภูมิปัญญาเพื่อสังคม (องค์กรสาธารณประโยชน์) สมาคมพัฒนาบทบาทสตรีกรุงเทพมหานคร ได้ประทานรางวัลเชิดชูเกียรติ "ผู้ทำคุณประโยชน์ดีเด่นต่อเยาวชน" ประเภทบุคคลต้นแบบความยุติธรรม ประจำปีพุทธศักราช 2559 ในวันเสาร์ที่ 17 กันยายน 2559

ขอบคุณข้อมูลจาก ทนาย อนันต์ชัย ไชยเดช