เกษตรกรทั่วประเทศรอลุ้น  หลังมูลนิธิปิดทองหลังพระฯ  ยื่นมือเสนอโครงการ “พัฒนา-ซ่อมแซม” แหล่งน้ำ 8 พันแห่งทั่วประเทศแก้ขาดน้ำ

เกษตรกรทั่วประเทศรอลุ้น หลังมูลนิธิปิดทองหลังพระฯ ยื่นมือเสนอโครงการ “พัฒนา-ซ่อมแซม” แหล่งน้ำ 8 พันแห่งทั่วประเทศแก้ขาดน้ำ

“คุณชายดิศ” ยัน 5-6 เดือนแล้วเสร็จ  แก้ปัญหาตรงจุด ชาวบ้านได้ประโยชน์จริง แถมใช้งบประมาณไม่มาก 

ม.ร.ว.ดิศนัดดา ดิศกุล เลขาธิการมูลนิธิปิดทองหลังพระ สืบสานแนวพระราชดำริ เปิดเผยว่า มูลนิธิปิดทองหลังพระฯ เตรียมเสนอแนวทางโครงการยกระดับคุณภาพชีวิตเกษตรกรเพื่อลดความเหลื่อมล้ำด้วยการพัฒนาแหล่งน้ำให้เกษตรกรที่เห็นผลเร็วภายใน 5-6 เดือน เมื่อทำสำเร็จจะเกิดรายได้ในท้องถิ่นเพิ่มขึ้น 30,000 -48,000 ล้านบาท และเกิดเงินหมุนในระบบเศรษฐกิจอีก 12 เท่า ช่วยผลักดันจีดีพีได้ร้อยละ 0.2   ทั้งนี้วิธีการดำเนินการจะมีการพัฒนาแหล่งน้ำขนาดเล็กที่มีอยู่ 8,403 แห่งในพื้นที่ 69  จังหวัดทั่วประเทศ  แบ่งเป็นการพัฒนาระบบชลประทานขนาดเล็กอันเนื่องมาจากพระราชดําริ 1,317 แห่ง

เกษตรกรทั่วประเทศรอลุ้น  หลังมูลนิธิปิดทองหลังพระฯ  ยื่นมือเสนอโครงการ “พัฒนา-ซ่อมแซม” แหล่งน้ำ 8 พันแห่งทั่วประเทศแก้ขาดน้ำ

โครงการชลประทานขนาดเล็กของกรมชลประทานที่ได้ถ่ายโอนภารกิจให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น 7,086 แห่ง   สำหรับการดำเนินการในส่วนนี้จะเป็นการไปซ่อมแซมและพัฒนาแหล่งน้ำขนาดเล็กที่มีอยู่    จากการศึกษาคาดว่าใช้งบสูงสุดไม่เกิน 20,000 ล้านบาท เพราะต้นทุนที่มูลนิธิปิดทองหลังพระฯ เคยทำการซ่อมแซมมาแล้วในหลายจังหวัด ราว 500 แหล่งน้ำ พบว่าส่วนใหญ่ร้อยละ 80 ใช้งบประมาณเพียง 400,000 บาทต่อแห่งเท่านั้น

“  ที่ผ่านมาผมเคยเสนอแนวคิดนี้มาหลายเวทีแต่ยังไม่เกิดขึ้นจริง หากทำได้จริงตามนี้จะมีปริมาณน้ำทั้งหมดกว่า 6,000 ล้านลูกบาศก์เมตร ซึ่งเทียบเท่ากับเขื่อนรัชประภาทั้งเขื่อน มีศักยภาพนําน้ำไปใช้ประโยชน์ทางการเกษตรได้ 12 ล้านไร่ ต่างจากการทำเขื่อนขนาดใหญ่ที่ต้องใช้เวลาสร้างหลายปี ด้วยงบประมาณมหาศาลแต่ไม่สามารถช่วยชาวบ้านได้เต็มเม็ดเต็มหน่วยแก้ปัญหาตรงจุด  โดยวิธีนี้ทำแค่ซ่อมแซมแล้วต่อท่อถึงชาวบ้านเสร็จใช้เวลาประมาณ 3-6  เดือนก็สามารถส่งน้ำให้ชาวบ้านได้ทันที  ถือว่าชาวบ้านได้ประโยชน์เต็มที่สอดคล้องกับนโยบายรัฐบาลที่ต้องการแก้ปัญหาเห็นผลรวดเร็ว ที่สำคัญเป็นการนำแหล่งน้ำทุกพื้นที่ของประเทศที่มีอยู่แล้วมาใช้ประโยชน์เต็มประสิทธิภาพเพื่อเกษตรกรไม่ต้องเสียโอกาสในการพัฒนา”   ม.ร.ว.ดิศนัดดากล่าว

เกษตรกรทั่วประเทศรอลุ้น  หลังมูลนิธิปิดทองหลังพระฯ  ยื่นมือเสนอโครงการ “พัฒนา-ซ่อมแซม” แหล่งน้ำ 8 พันแห่งทั่วประเทศแก้ขาดน้ำ

ม.ร.ว.ดิศนัดดากล่าวต่อว่า ปัจจุบันแหล่งน้ำขนาดเล็กเกิดความเสียหายจากอายุการใช้งานและภัยธรรมชาติ เช่น หน้าฝายถูกน้ำกัดเซาะ ปีกฝายประตูน้ำ สันฝาย ท้ายฝายชํารุดตะกอนหน้าฝายกักเก็บน้ำได้น้อยลง ส่วนโครงการชลประทานขนาดเล็กอันเนื่องมาจากพระราชดําริ ยังอยู่ในความรับผิดชอบของกรมชลประทาน พบว่า บางแห่งยังไม่มีระบบกระจายน้ำเข้าแปลงเกษตร โดยเฉพาะโครงการที่กรมชลประทานถ่ายโอนภารกิจให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) เมื่อเกิดความชํารุดเสียหาย  หลายแห่งไม่ได้จัดตั้งงบประมาณซ่อมแซมและขาดบุคลากรที่มีความรู้ความชํานาญด้านวิศวกรรมชลประทานเข้าไปปรับปรุงและเสริมประสิทธิภาพแหล่งน้ำดังกล่าว  ทั้งนี้หากเริ่มดําเนินการซ่อมแซมฝายในเดือนมกราคมตามที่มูลนิธิปิดทองหลังพระฯ เสนอ คาดว่าส่วนใหญ่จะแล้วเสร็จทันช่วงฤดูฝนในเดือนพฤษภาคมนี้

 

เกษตรกรทั่วประเทศรอลุ้น  หลังมูลนิธิปิดทองหลังพระฯ  ยื่นมือเสนอโครงการ “พัฒนา-ซ่อมแซม” แหล่งน้ำ 8 พันแห่งทั่วประเทศแก้ขาดน้ำ

ก่อนหน้านี้เมื่อต้นสัปดาห์ที่ผ่านมากระทรวงเกษตรและสหกรณ์ โดยนายวิวัฒน์ ศัลยกำจร รมช.เกษตรฯ  ได้เรียกประชุมผู้บริหารกรมต่างๆ เพื่อหารือกับผู้แทนสถาบันปิดทองหลังพระฯ  เพื่อพิจารณาแนวทางการช่วยเหลือเกษตรกรผ่านงบกลางปีของรัฐบาลที่จะตั้งขึ้น 1.5 แสนล้านบาท  โดยในจำนวนนี้ 4 หมื่นล้านบาทจะเป็นงบประมาณในการปฏิรูปภาคเกษตร 
โดยในการประชุมดังกล่าวนายวิวัฒน์ระบุว่ากระทรวงเกษตรฯ พร้อมพิจารณาและให้การสนับสนุนโครงการยกระดับคุณภาพชีวิตเกษตรกรเพื่อลดความเหลื่อมล้ำที่เสนอโดยมูลนิธิปิดทองหลังพระฯ  เพื่อเร่งซ่อมแซมปรับปรุงแหล่งน้ำขนาดเล็กจำนวน 8,403 แห่งที่ชำรุด ทั่วประเทศและยังใช้ประโยชน์ไม่เต็มประสิทธิภาพ  เพื่อให้เกษตรกรมีน้ำในการทำเกษตรนอกฤดูกาล   โดยเบื้องต้นกระทรวงเกษตรฯ โดยกรมชลประทานแสดงความพร้อมที่จะดำเนินการดังกล่าวโดยเฉพาะในส่วนแหล่งน้ำที่อยู่ในโครงการพระราชดำริจำนวน 1,317 แห่ง   ส่วนแหล่งน้ำถ่ายโอนภารกิจไปให้อปท. จำนวน 7,086 จะต้องมีการประสานหาความเห็นชอบจากกรมการปกครองต่อไป จึงจะดำเนินการได้