- 15 มี.ค. 2561
ติดตามข่าวสารได้ที่ www.tnews.co.th
หากยังจำกันได้กับเรื่องราวที่ฮือฮาเมื่อปีที่แล้ว หลังนายวีระศักดิ์ สุนทรจามร เจ้าของบ้านหลังหนึ่ง ภายในซอยอุดมสุข ได้เลี้ยงนกพิราบจำนวนมาก ทำให้ส่งกลิ่นเหม็นไปทั่วบริเวณซอย จนกระทั่งเจ้าหน้าที่จากสำนักงานเขตห้วยขวาง ได้ลงพื้นที่ทำความสะอาด และเก็บขยะพร้อมสิ่งของที่ไม่ใช้ภายในบ้านทิ้ง โดยฉีดน้ำยาฆ่าเชื้อ และใช้น้ำผึ้งมาวางไว้เพื่อไม่ให้นกพิราบบินมาเกาะนั้น
ล่าสุดทางรายการทุบโต๊ะข่าว ช่องอัมรินทร์ทีวีได้พูดคุยกับนายวีระศักดิ์ สุนทรจามร เจ้าของบ้านนกพิราบ ถึงกรณี SET ZERO สุนัข-แมวจรจัด ซึ่งถือว่าคุณลุงเป็นคนทีรักสัตว์มากๆ คนหนึ่งนั้น โดยนายวีระศักดิ์ ไม่เห็นด้วยอย่างยิ่ง เพราะเจ้าหน้าที่ไม่เข้าใจว่า การเกิด แก่ เจ็บ ตาย เป็นเรื่องธรรมชาติ เพราะฉะนั้น การตายด้วยโรคระบาดก็เป็นปกติ ทุกวันนี้ประชากรโลกมีเป็นจำนวนมาก ตามหลักวิทยาศาสตร์ มนุษย์ไม่ควรมีจำนวนประชากรเกิน 1 พันล้านคน แต่ตอนนี้ประชากรโลกมีมากถึง 8,000-10,000 ล้านคนแล้ว
โรเบิร์ต มัลทัส (นักเศรษฐศาสตร์ชาวอังกฤษ ที่กล่าวเกี่ยวกับทฤษฎีประชากร) ได้กล่าวไว้ว่า การเกิดของมนุษย์เป็นลักษณะเรขาคณิต และเลขคณิต ซึ่งธรรมชาติจะมีมือที่มองไม่เห็น ในการจัดสรรให้มีโรคระบาด มีแผ่นดินไหว ภัยพิบัติต่างๆ เพื่อเป็นการควบคุมโลก หากมนุษย์ตายไปบ้างก็ไม่เป็นไร เนื่องจากมนุษย์ไม่ใช่สิ่งที่ต้องอนุรักษ์ เพราะมนุษย์มีจำนวนเยอะ แต่สัตว์มันยังมีน้อย จึงต้องอนุรักษ์ ทั้งนี้ตนขอตำหนิหน่วยงานที่เข้าใจการเกิดโรคผิด เพราะการเกิดโรคเป็นเรื่องธรรมชาติ ปีนี้คนตายเพราะหมาเพียง 3 คน หากเราไม่โกงกินกันในเรื่องงบประมาณก็จะมีเงินเหลือที่จะช่วยเหลือสัตว์จรจัดเหล่านี้
ทั้งนี้ลุงวีระศักดิ์ บอกอีกว่า มนุษย์ไม่ควรจะไปทำตัวเป็นพระเจ้า ที่อวดอุตริในการไป SET ZERO เพราะสัตว์มีสิทธิที่จะดำรงชีวิตอยู่ หรือที่เรียกว่า Animal Rights ซึ่งเป็นสิทธิในการกินอาหาร การนอน ถ้าหากมีมาตรการ SET ZERO ออกมาเมื่อไหร่ ตนก็จะออกมาคัดค้าน เพราะปัญหามันไม่ได้เกิดจากการที่คนเจ็บป่วยตาย จึงมากำจัดสัตว์พวกนี้ มนุษย์สมควรตาย เพราะการตายด้วยโรคระบาดถือเป็นการตายอย่างยุติธรรม มันไม่ได้เลือกคนสวยหรือคนหล่อ หรือรวย เพราะมันวัดดวงกันจากที่พระเจ้าส่งลงมา ไม่ได้เลือกชั้นวรรณะ จริงๆ แล้วมนุษย์ก็ควรตายกันบ้าง
ขอบคุณรายการ : ทุบโต๊ะข่าว Amarin TV 34