- 21 มี.ค. 2561
อยู่กับปัจจุบัน!! คอร์รัปชัน เฟื่องฟูยุคทหาร : สะท้อน(ภาพ)สังคมไทย??
เป็นเรื่องที่น่าตกใจอย่างยิ่ง ที่เรื่องการ “ทุจริต-คอร์รัปชัน” หวนกลับมาเฟื่องฟู (อีกครั้ง) ในยุคทหารครองเมือง!!!!
ทั้งที่เรื่องดังกล่าว “รัฐบาลและคสช.” เอาจริงเอาจังในเรื่องการปราบโกงอย่างเต็มที่แล้ว นับตั้งแต่คณะทหารภายใต้การนำของ“บิ๊กตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา รัฐประหารรัฐบาลนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร เมื่อเดือนพฤษภาคม 2557 แต่ปัญหาการทุจริตต่างๆ ก็ไม่ได้ลดลงเลยสักกี่มากน้อย
ซํ้าร้ายไปกว่านั้น ยังดูเหมือนว่า จะมีเรื่องอื้อฉาวว่าด้วยการทุจริตโกงกิน ไม่น้อยกว่าในยุค “รัฐบาลเลือกตั้ง” เสียด้วยซํ้า และที่สำคัญกว่านั้น ก็คือ การ “ทุจริต-คอร์รัปชัน” ส่วนใหญ่ ยังเกิดขึ้นในหน่วยงานที่เจ้าหน้าที่รัฐ หรือข้าราชการควรมีจิตสำนึกที่ดี และเป็น “แบบอย่างที่ดี” ให้กับสังคมมากกว่า...
แต่ความจริงที่เกิดขึ้นกลับตรงกันข้าม เมื่อปรากฏว่า พวกเขาเหล่านั้น ต่างมีจิตใจที่เลวร้าย รวมทั้งยังมีพฤติกรรมที่ไร้ซึ่งจิตสำนึกของ “คนดี” เลยแม้สักเล็กน้อย เพราะโกงกระทั่งเงินของคนยาก-คนจนและคนที่ด้อยโอกาสในสังคมอีกต่างหาก
ตัวอย่างที่เห็นได้อย่างชัดเจน คือ ข่าวอื้อฉาวว่าด้วยเรื่อง “โกงเงินคนจน” ที่กำลังเกิดขึ้นในกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ซึ่งเปิดเผยโดย คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ หรือ ป.ป.ท. เมื่อกลางสัปดาห์ที่ผ่านมา
สำหรับรายชื่อจังหวัดที่ ป.ป.ท.ตรวจพบว่า มีการทุจริต (ล่าสุด) รวมทั้งสิ้น 44 จังหวัด ประกอบด้วย....
ภาคเหนือ 6 จังหวัด ได้แก่ เชียงใหม่ น่าน ลำพูน ลำปาง เชียงราย และแม่ฮ่องสอน
ภาคอีสาน 17 จังหวัด ได้แก่ ขอนแก่น บึงกาฬ หนองคาย บุรีรัมย์ สุรินทร์ ชัยภูมิ อุดรธานี ร้อยเอ็ด นครพนม มหาสารคาม นครราชสีมา อำนาจเจริญ ยโสธร อุบลราชธานี กาฬสินธุ์ มุกดาหาร และหนองบัวลำภู
ภาคกลาง 8 จังหวัด ได้แก่ พระนครศรีอยุธยา อ่างทอง สระบุรี พิษณุโลก พิจิตร นครปฐม อุทัยธานี และลพบุรี
ภาคตะวันตก 2 จังหวัด ได้แก่ ราชบุรี และตาก
ภาคตะวันออก 2 จังหวัด ได้แก่ ตราด และสระแก้ว
ภาคใต้ 9 จังหวัด ได้แก่ สุราษฎร์ธานี ยะลา สงขลา นราธิวาส พัทลุง ชุมพร กระบี่ ตรัง และสตูล
ป.ป.ท.สรุปในตอนท้ายถึงจำนวนเงินที่ถูกโกงด้วยว่า ตอนนี้พบความผิดปกติในงบประมาณกว่า 97 ล้านบาท คิดเป็นกว่า 80% ของงบประมาณทั้งหมด แต่เรื่องที่น่าตกใจล่าสุดก็คือ การตรวจพบการทุจริตใน “กองทุนเสนาพัฒนาชีวิต” ของกระทรวงศึกษาธิการ จำนวน 88 ล้านบาท
เรื่องที่เกิดขึ้นทั้ง 2 เรื่องข้างต้น น่าสังเกตว่า คนที่เกี่ยวข้อง หรือถูกกล่าวหาว่าร่วมอยู่ในขบวนการ (โกง) ต่างล้วนแต่เป็นครูบาอาจารย์ หรือคนที่ควรค่าแก่การเคารพนับถือในสังคมแทบทั้งสิ้น ซึ่งว่าไปแล้วคนที่ทำงานในองค์กรต่างๆ เหล่านี้ ควรจะมีความละอายต่อบาปมาก กว่าคนที่ทำงานในองค์กรทั่วไปด้วยซํ้า
แต่ทำไม?คนเหล่านี้ ถึงทำแต่เรื่องเลวร้าย เบียดเบียนหรือเอาเปรียบคนอื่น?ได้หน้าตาเฉย หรือว่า “สังคมไทย” เปลี่ยนบริบทไปจากเดิมแล้ว? แม้แต่ “รัฐบาลทหาร” ที่เข้ามาบริหารประเทศในปัจจุบัน ก็ยังไร้ซึ่งประสิทธิภาพในการทำงาน...รวมทั้งยังไม่มีความสามารถที่จะทำหน้าที่ตรวจสอบ “หน่วยงาน” ในสังกัด แล้วอย่างนี้ เราจะมีรัฐบาลไว้ทำไม? จริงมั้ย...
จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 38 ฉบับที่ 3,349 วันที่ 18 - 21 มีนาคม พ.ศ. 2561
ขอขอบคุณที่มาจาก : ฐานเศรษฐกิจ