- 14 เม.ย. 2561
ติดตามข่าวสารได้ที่ www.tnews.co.th
จากกรณีที่นายวรยุทธ บุญวงศ์ใส ทนายครูปรีชา ได้ออกมาเปิดเผยว่ามีประจักษ์พยานฝ่ายครูปรีชามากกว่า 10 ปาก จะไปให้การในชั้นศาลกรณีลอตเตอรี่ 30 ล้านบาท
และหลังจากนั้นได้ให้สัมภาษณ์กับรายการทุบโต๊ะข่าว ช่องอัมรินทร์ทีวี โดยตอนหนึ่งทนายวรยุทธได้เปิดเผยถึงพยานเด็ดคนใหม่ว่า ทนายวรยุทธ ยืนยันพยานของครูปรีชามีความน่าเชื่อถือ เป็นประจักษ์พยาน คือพยานผู้เห็นกับตาและอยู่ในเหตุการณ์จริง โดยรายละเอียดเรื่องนี้ ตนไม่ขอให้ข้อมูลว่าพยานเห็นอะไรมาบ้าง เพราะกลัวว่าจะกระทบต่อรูปคดี
พยานรายนี้มีน้ำหนัก ชี้ชัดได้ ไม่ใช่พยานบอกเล่า ไม่มีสาเหตุโกรธเคืองผู้ใด เป็นพยานคนกลาง เพราะไม่มีส่วนได้เสียกับเรื่องนี้ และจะไปศาลวันนัดสืบพยานปากแรกอย่างแน่นอน ขณะเดียวกัน ได้ฝากถึงทนายษิทราว่า ให้เตรียมตัวซักค้านให้ดีก็แล้วกัน ทนายวรยุทธ ย้ำอีกว่า วันที่นัดสืบพยาน คงจะมีคนไปให้กำลังใจครูปรีชา หลายคน วันนั้นศาล จ.กาญจนบุรี อาจจะเล็กไปเลยก็ได้
และเมื่อวันที่ 13 เมษายน 2561 ผู้ใช้เฟซบุ๊ก Subpatpoj Patr Nitisasathorn ซึ่งก็คือ นายศุภภัทร์พจน์ นิติศศธร อดีตฝ่ายกฎหมายวัดปากน้ำในคดีรถหรู ก็ได้โพสต์ข้อความไปยังกลุ่ม มิติใหม่ โดยมีการวิเคราะห์ถึงคดีหวย30ล้านที่กำลังจะเข้าสู่การพิพากษาคดีส่วนแพ่ง และกล่าวถึงทนายครูปรีชาว่าดูมีความมั่นใจว่าจะชนะซึ่งก็ไม่รู้ว่าไปเอาความมั่นใจมาจากไหน ทั้งเรื่องของพยานที่ไปหามา ก็พูดว่าพยานนะไม่ใช่เห็ดที่จะไปขุดหามาง่ายๆ และขอฝากไว้ว่าคงรู้ดีถึงความผิดหากเป็นการเบิกความเท็จก็จะมีโทษทางกฎหมาย ถ้ารู้แล้วก็ไปเสี่ยงภัยเอาเอง ตนไม่ได้ประเมินพยานของฝ่ายครูต่ำนะแต่หลังจากพิจารณาดูทุกซอกทุกมุม ก็ยังไม่เห็นว่าฝั่งครูปรีชาจะชนะคดีได้
ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา..........
มาตรา 46 ในการพิพากษาคดีส่วนแพ่ง ศาลจำต้องถือข้อเท็จจริงตามที่ปรากฏในคำพิพากษาคดีส่วนอาญา
มาตรา 28 บุคคลเหล่านี้มีอำนาจฟ้องคดีอาญาต่อศาล (1) พนักงานอัยการ (2) ผู้เสียหาย
………เริ่มเห็นอะไรบ้างหรือยังครับ.....
...........ยกหลักกฎหมายและลำดับเหตุการณ์ให้ฟัง...(สำนวนจะโอนไปไหนต่อไหนอย่าไปสนใจ)
..........ต่อจากนี้ไปจะมีการสืบพยานในคดีแพ่งที่ครูปรีชายื่นฟ้องหมวดจรูญ ติดตามเงินที่ถูกรางวัล และไต่สวนมูลฟ้องคดีที่ครูปรีชาฟ้องคดีเองว่าหมวดจรูญยักยอกทรัพย์สินหาย หรือรับของโจร............
.......ขอนำเรียนว่า.... “ในการพิพากษาคดีส่วนแพ่ง ศาลจำต้องถือข้อเท็จจริงตามที่ปรากฏในคำพิพากษาคดีส่วนอาญา” แปลว่าคดีแพ่งเกี่ยวเนื่องกับคดีอาญา(เช่นคดีนี้) คดีแพ่งกับคดีอาญามีประเด็นเดียวกันว่าครูทำหวยตกและหมวดจรูญเก็บได้หรือไม่.....
...... กรณีอย่างนี้ ศาลในคดีแพ่งจำต้องถือข้อเท็จจริงตามที่ปรากฏในคดีอาญา แปลว่าในคดีแพ่งถึงแม้จะนัดสืบพยานก่อน โดยหลักศาลจะต้องจำหน่ายคดีไว้ชั่วคราว รอฟังคดีอาญา (ที่ครูฟ้องเอง)ว่า ศาลในคดีอาญาจะชี้ว่า ครูทำหวยตกและหมวดจรูญเก็บได้จริงหรือไม่................
........ ฟังทนายครูออกรายการพูดอย่างมั่นอกมั่นใจว่า “ทนายครูที่ทำคดีแพ่ง อย่าแถลงศาลให้จำหน่ายคดีชั่วคราว รอฟังข้อเท็จจริงในคดีอาญานะครับ สืบพยานไปเลย...ว่างั้น...........
........ท่านทนายคงจะลืมไปว่า....การจำหน่ายคดีชั่วคราวในคดีแพ่งเพื่อรอฟังข้อเท็จจริงในคดีอาญานั้น กฎหมายบัญญัติไว้ชัดเจน ศาลมีอำนาจจำหน่ายคดีชั่วคราวเองได้....ไม่ต้องให้คู่ความแถลง.....ท่านน่าจะปล่อยไก่ไปแล้วหนึ่งฝูง........ฮา
.....ถ้าศาลในคดีอาญาพิพากษายกฟ้องเพราะคดีไม่มีมูล ไม่ประทับฟ้องไว้พิจารณา.........คดีส่วนแพ่งก็จำต้องถือตาม หมายฟามว่าคดีแพ่งศาลจะต้องยกฟ้อง.....ไม่ต้องสืบพยาน.........แต่ถ้าคดีอาญาศาลสั่งว่าคดีมีมูล ศาลก็จะประทับฟ้องไว้พิจารณา นัดสืบพยานกันต่อไป (คดีแพ่งรอฟังต่อ)
...........ไม่ได้ก้าวล่วงอำนาจการพิจารณาคดีของศาลส่วนอาญานะฮะ.....เท่าที่พิจารณาดูทุกซอกทุกมุมแล้ว ความเห็นผม ยังหาไม่เจอว่าครูจะชนะคดีได้ตรงไหน.......ศาลส่วนอาญาน่าจะพิพากษาว่าคดีไม่มีมูล...ยกฟ้อง ซึ่งคดีแพ่งต้องถือตามโดยการยกฟ้อง.....ไม่ต้องสืบพยาน...............
.......ถามว่า เมื่อเป็นอย่างนี้...ทำไมท่านทนายครูจึงฟ้องคดีอาญาเอง.....เข้าใจว่าท่านคงมั่นใจว่า...สามารถเอาชนะในคดีอาญาได้......ไม่รู้ท่านไปเอาความมั่นใจนี้มาจากไหน..........
.......มีบางคำบางประโยคที่ฟังท่านทนายแล้วไม่ค่อยสบายใจคือ.........
......พยานทนายหามาเอง....พยานไม่ใช่เห็ดนะครับ ที่จะเปิดหาได้ตามป่า สุมทุมพุ่มไม้...หรืองอกได้เหมือนถั่วเขียว
......นายแผนไม่ได้อยู่ในแผน.....นายแผนช้ำแล้ว....การสืบพยานบุคคลคือการนำพยานเข้าเบิกความเพื่อให้เล่าข้อเท็จจริงตามที่ไปรู้ไปเห็นมาให้ศาลทราบ....มันมีช้ำ ไม่ช้ำด้วยเหรอครับ....แล้วไม่อยู่ในแผน...แผนอะไรเหรอฮะ.....
........ไม่ได้ประเมินพยานของท่านต่ำนะครับ...แต่อยากให้ท่านเตือนพยานด้วยว่า...การเบิกความเท็จมีโทษตามกฎหมาย...เมื่อพยานทราบแล้ว...ที่เหลือก็เป็นการเสี่ยงภัยเอง..........
ขอบคุณ Subpatpoj Patr Nitisasathorn