ดูดตายคลายรอด?!?เฉลยแล้วทำผวากันไปทั้งเมือง!!! สาธารณสุข ออกแจงด่วนๆ ลุงโดนปลิงยักษ์กัดตาย!?! ที่แท้มันมีสาเหตุ???พร้อมวิธีป้องกันและรักษา..

จากกรณีนายเสน่ห์ มีศรี อายุ 61 ปี  ชาวอ.เมือง จ.อ่างทอง ถูกปลิงขนาดใหญ่ไม่ทราบสายพันธุ์กัด แล้วเสียชีวิตในเวลาต่อมาซึ่งล่าสุด นายวรงค์ รุ่งเรือง สาธารณสุขจังหวัดอ่างทองได้ออกมาเปิดเผยว่า หลังทราบข่าวได้มีการสอบถามรายละเอียดพบว่านายเสน่ห์ ผู้เสียชีวิต หลังจากถูกปลิงกัด ไม่ได้พบแพทย์ และไม่มีการทำความสะอาดบาดแผลอย่างถูกวิธี

“ไม่มีการฉีดยาป้องกันการติดเชื้อ และป้องกันเชื้อบาดทะยัก ประกอบกับตัวผู้เสียชีวิต มีโรคประจำตัว คือ โรคหัวใจ จึงเป็นไปได้ว่าผู้เสียชีวิต เกิดอาการติดเชื้อในกระแสเลือด ซึ่งเป็นสาเหตุของการเสียชีวิต ปกติทั่วไป เมื่อปลิงกัดจะมีการปล่อยสารที่หยุดการแข็งตัวของเลือดแต่เป็นเพียงบริเวณเฉพาะจุดที่ถูกกัด ไม่ใช่ทั้งร่างกาย จะมีเพียงทำให้เส้นเลือดฝอยบริเวณแผล มีการขยายตัวก็จะทำให้มีเลือดออกบริเวณแผลเท่านั้น”

บริเวณปลายมือปลายเท้า ควรสวมถุงมือหรือถุงพลาสติก ถ้าถูกกัดห้ามดึงตัวปลิงออกในทันทีเพราะเวลากัดปลิงจะใช้ปากเจาะเข้าบริเวณผิวหนังค่อนข้างลึก ถ้าทำการดึงจะทำให้เกิดแผลขนาดใหญ่ และมีเลือดออกมาก ควรใช้น้ำส้มสายชู น้ำเกลือ หรือแอลกอฮอล์ราด จะทำให้ปลิงคลายปากและเกิดบาดแผลเพียงเล็กน้อย แล้วรีบทำความสะอาดแผล พบแพทย์และฉีดยาฆ่าเชื้อ รวมทั้งฉีดยาป้องกันบาดทะยัก พิษของปลิงไม่ร้ายแรงทำให้เกิดการเสียชีวิตโดยตรง แต่การเกิดแผลถ้าไม่ได้รับการรักษาหรือทำความสะอาดที่ถูกต้อง ก็อาจทำให้เกิดการติดเชื้อในกระแสเลือด จนเป็นต้นเหตุให้เสียชีวิตได้

       ก่อนหน้านี้นางจุฑาทิพย์ คำก้อน  ชาวบ้าน ต.ย่านซื่อ  อ.เมือง จ.อ่างทอง ก็ได้เล่าประสบการณ์ที่นายสุบิน  คำก้อน   บิดาของตนเองลงไปดำบัวในบ่อน้ำแล้วถูกปลิงขนาดใหญ่เข้ากัดและดูดเลือด  บริเวณขาหนีบจนต้องเร่งนำส่งโรงพยาบาลเป็นการด่วน จากการตรวจสอบเบื้องต้นพบบริเวณเกิดเหตุเป็นบ่อน้ำเชื่อมต่อคลองลำท่าแดง  ขณะที่นายสุบินเล่าเรื่องราวสุดระทึกให้ฟังว่า  ก่อนหน้านี้ก็เคยได้ยินมาก่อนเกี่ยวกับเรื่องปลิงดูดเลือดจนตาย แต่ไม่นึกว่าจะเจอกับตัวเอง  รวมถึงไม่รู้ด้วยซ้ำว่าโดนกัดเมื่อไร จนกระทั่งมารู้สึกเจ็บบริเวณต้นขาเมื่อกลับมาเมื่อถึงบ้าน  และยิ่งน่าตกใจเมื่อเห็นเลือดไหลไม่หยุด  ตรงแผลที่เป็นรอยเขียวช้ำ   ขณะที่พื้นมีปลิงตัวใหญ่ตกอยู่  ทางด้านลูกสาวเลยรีบเก็บใส่ขวดน้ำ แล้วพาตนส่งโรงพยาบาลอ่างทอง  ซึ่งทางแพทย์ได้เร่งห้ามเลือด ก่อนฉีดยาฆ่าเชื้อกับยาป้องกันบาดทะยัก 

       อย่างไรก็ตามไม่ใครรู้ว่าปลิงดังกล่าวเป็นสายพันธุ์อะไร แต่มีลักษณะแปลกจากปลิงทั่วไป โดยเฉพาะในช่วงดูดเลือดลำตัวจะใหญ่ผิดปกติ  มีความยาวประมาณ 15 เซนติเมตร  เส้นผ่าศูนย์กลาง ประมาณ 2.50 เซนติเมตร มีผิวสีเหลืองลายดำคาดเป็นปล้อง ๆ  และเมื่อข่าวดังกล่าวแพร่กระจายออกไปทำให้ชาวบ้านต่างหวาดผวาไม่กล้าลงเล่นน้ำในคลอง เพราะกลัวจะต้องเจอกับปลิงประหลาดดูดเลือด