- 22 เม.ย. 2561
ติดตามข่าวสารได้ที่ www.tnews.co.th
เมื่อก่อนมีแต่คนรังเกียจหอยทาก พบที่ไหนเขี่ยทำลายทิ้งที่นั่น แต่เมื่อรู้ว่าเมือกหอยทากมีประโยชน์นำมาผลิต เป็นส่วนผสมในเครื่องสำอางชั้นเยี่ยมได้ หอยทาก...สัตว์โลกวิถี “สโลว์ไลฟ์” สายพันธุ์นี้เลยกลายเป็นที่สนใจให้ชาวบ้านหลายพื้นที่หันมาเลี้ยงเป็นอาชีพ
“มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์และสถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งประเทศไทย (วว.) ศึกษาพบว่าหลังรีดเมือกออกมาแล้วนำไปผ่านกระบวนการฆ่าเชื้อ เมือกหอยทากมีคุณสมบัติโดดเด่นในด้านต่อต้านเชื้อแบคทีเรีย มีโปรทีนเปปไทน์ช่วยทำให้ผิวชุ่มชื้น ลดริ้วรอย ช่วยให้รอยแผลสิวหายเร็ว ประกอบกับวงการเครื่องสำอางมีความต้องการสูง ปี 2559 ครูเรือนใจ อิศราง- กูร ณ อยุธยา สมาชิกบริษัท อาช่าไทย อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด ได้มาส่งเสริมให้ชาวบ้านหันมาเลี้ยงหอยทากเป็นอาชีพเสริม พร้อมรับซื้อเมือกหอยทากราคาลิตรละ 15,000 บาท”
นายวรชันย์ หลักกรด เกษตรจังหวัดนครนายก บอกว่า นับแต่นั้นมาชาวชุมชนบางอ้อ อ.บ้านนา จ.นครนายก ส่วนใหญ่มีอาชีพทำนา มักประสบปัญหาว่างงานและขาดรายได้หลังเกี่ยวข้าว ประกอบเป็นชุมชนผู้สูงอายุไม่สามารถทำงานใช้แรงงานได้สะดวก ยิ่งช่วงที่ข้าวราคาถูก ชาวบ้านเดือดร้อนรายได้ไม่เพียงพอกับการดำรงชีพ...จึงหันมาเลี้ยงหอยทาก
นำหอยทากพันธุ์อาช่า (Achatina fulica) ตัวใหญ่ให้ปริมาณเมือกมาก ที่จับมาจากแหล่งธรรมชาติในพื้นที่ อ.บ้านนา มาปล่อยเลี้ยงในวงบ่อซีเมนต์ บ่อละ 250 ตัว แต่ครั้งแรกต้องนำกระดาษทิชชูใส่ลงไปให้หอยทากเกาะ นาน 1 สัปดาห์ เพื่อคลายพิษที่อาจติดมาจากธรรมชาติ...จากนั้นใช้ผักโขม ตำลึง หรือน้ำเต้า เป็นอาหารเลี้ยงหอยทาก
เมื่อเลี้ยงไปได้ 7 วัน ทุกเช้าจะคัดเลือกหอยทากตัวที่คายเมือกออกมาก เพราะแสดงถึงความสมบูรณ์ นำตัวหอยมาทำความสะอาด แล้วใช้แท่งแก้วจุ่มน้ำสะอาดเขี่ยเบาๆบริเวณปากหอย กระตุ้นให้หอยทากสร้างและคายเมือกออกมา หอยทาก 1 ตัว สามารถรีดเมือกได้ 1 ซีซีต่อครั้ง ติดต่อกันนาน 12 วัน จากนั้นต้องให้หอยทากพัก 20 วัน เพื่อให้ร่างกายสะสมเมือกใหม่...ส่วนเมือกที่ได้จะรวบรวมแช่เย็น ส่งขายให้กับบริษัทเอกชน ปัจจุบันชุมชนบางอ้อมีการรวมตัวจัดตั้งกลุ่มผู้เลี้ยงหอยทาก 100 คน จำนวน 32 บ่อ (8,000 ตัว) แต่ละวันรีดเมือกหอยทากได้ 8 ลิตร เก็บรวบรวมส่งขายให้บริษัททุกๆ 20 วัน ได้เมือก 160 ลิตร...คิดเป็นเงินแค่ 2.4 ล้านบาทเท่านั้นเอง